ยุคข้าวยาก OnePlus แพง จากสมาร์ทโฟนราคาหมื่นต้น ถึงเริ่มต้นสองหมื่นห้าในวันนี้

by mheevariety
16 April 2020 - 03:10

OnePlus 8 และ 8 Pro เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อคืนนี้ ทั้งสองรุ่นมีราคาเปิดตัว เริ่มต้นที่ 699 กับ 899 ดอลลาร์ ตามลำดับ (คาดการณ์ราคาไทย ประมาณ 24,900 กับ 31,900 บาท) ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นราคาที่แรงพอๆ กับ “เรือธง” หลายๆ รุ่นของปีนี้ และเพิ่มขึ้นจาก One Plus 7T และ 7T Pro ที่มีราคาเริ่มต้นในไทย ที่ 17,990 กับ 26,990 บาท โดยที่มาของราคาในซีรีส์ 8 ที่พุ่งขึ้นสูงนี้ คาดว่ามาจากชิป Qualcomm Snapdragon 865 ที่บังคับว่าผู้ผลิตต้องพ่วงชิปโมเด็ม X55 ที่รองรับ 5G มาด้วย

แรกเริ่มเดิมที OnePlus เริ่มต้นด้วยการเป็นแบรนด์มือถือแอนดรอยด์ที่มีราคาย่อมเยา แต่มีสเปกที่เรียกได้ว่า “สูสี” กับเรือธงของฝั่งแอนดรอยด์ในปีนั้นๆ เสมอ จนมือถือของ OnePlus ได้ฉายาว่าเป็น “นักฆ่าเรือธง” อยู่บ่อยๆ แต่ราคาของ OnePlus ก็ขยับขึ้นเรื่อยๆ ทุกปีเช่นกัน

OnePlus 6 เป็นมือถือรุ่นแรกของบริษัท ที่มีราคาเกิน 500 ดอลลาร์ (จำหน่ายในไทย เริ่มต้นที่ 17,999 บาท) มาพร้อมกับชิป Snapdragon 845 ซึ่งเป็นชิประดับท็อปในปี 2018 และมีฟังก์ชั่นที่ครบถ้วนในระดับเรือธง มีกล้องคู่ มีกันสั่น OIS และ Oxygen OS ที่ครอบอยู่บน Android 8.1 ก็ได้รับคำชมว่าเป็น UI ของ Android ที่สะอาดสะอ้าน ปรับแต่งได้ดี ไร้ bloatware กวนใจ และได้รับอัปเดตไว เทียบชั้นได้กับ Pure Android บน Pixel เลยทีเดียว

ก่อนที่ One Plus 7 Pro จะทำลายกำแพงราคาแบบก้าวกระโดดจาก OnePlus 6T ที่มีราคา 549 ดอลลาร์ (ประมาณ 18,990 บาท) ขึ้นไปเป็น 669 ดอลลาร์ (ประมาณ 26,990 บาท) เลยทีเดียว เพราะเปลี่ยนโมเดลวางจำหน่ายเป็นการออกปีละสองรุ่น คือรุ่น 7 Pro ที่มีราคาแพงกว่า กับรุ่นธรรมดา ที่มีราคา 630 ดอลลาร์ (ประมาณ 21,990 บาท) แต่ฟีเจอร์น้อยกว่าแทน ก่อนจะมาจบที่รุ่นล่าสุด คือ OnePlus 8 Pro ที่มีราคาพุ่งไปถึง 899 ดอลลาร์และราคาในไทยก็คงเกินสามหมื่นบาทไปแล้ว

ถ้าดูจากกราฟจะเห็นได้ว่าราคาค่อยๆ ขยับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากราคาดอลลาร์ที่เทียบเป็นเงินไทยได้หมื่นต้นๆ ถึงหมื่นกลาง จนมาถึง OnePlus 8 ในปีนี้ ที่ถึงจะเป็นรุ่นราคาถูกกว่า ที่ 699 ดอลลาร์ แต่เมื่อเข้าไทย อาจจะมีราคาถึงประมาณ 24,900 บาท ซึ่งก็ไม่ได้มี “ราคาถูก” อีกต่อไปแล้ว

เอกลักษณ์ของ “นักฆ่าเรือธง” ที่สู้ด้วยราคาที่ถูกกว่ามาตลอดดูเหมือนจะหายไปแล้ว แบบนี้การกลายเป็นเรือธงเต็มตัวของ OnePlus จะทำให้ฐานลูกค้า หรือแฟนคลับกลุ่มเดิมของ OnePlus เริ่มมองหามือถือค่ายอื่นที่ถูกกว่าหรือเปล่า

ยิ่งยอดขายของสมาร์ทโฟนระดับราคาเรือธงมีทีท่าไม่สู้ดีนัก ในสภาวะเศรษฐกิจที่ผู้บริโภคมีกำลังซื้อลดลงจากวิกฤต COVID-19 แบบนี้ แต่สมาร์ทโฟนของ OnePlus กลับยอมแลกให้ได้ชิปที่มีความเร็วสูงที่สุด แม้ราคาจะพุ่งสูงขึ้นอีกจากการบังคับขายพ่วงชิปโมเด็ม 5G ของ Qualcomm ก็ต้องรอดูต่อไปว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะคุ้มค่าหรือไม่

อีกจุดที่ OnePlus แตกต่างจากแบรนด์อื่น คือทั้ง Samsung, Oppo หรือ Vivo มีสมาร์ทโฟนระดับกลางไปถึงล่างอยู่ในมือ แต่ OnePlus ไม่มี จึงต้องหวังพึ่งยอดขายจากรุ่นธรรมดา ที่มีราคาแพงกว่าเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนระดับกลางเช่น Samsung A series, Vivo หรือ Oppo รุ่นกลางลงไปอยู่ดี เรียกได้ว่าเป็นยุคข้าวยาก OnePlus แพง และอาจจะเป็นช่วงเข็นสมาร์ทโฟนขึ้นภูเขาของ OnePlus อย่างแท้จริง

Blognone Jobs Premium