การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดที่สุดของ Xbox Series X คือการดีไซน์ฮาร์ดแวร์คอนโซลใหม่เป็นแนวตั้ง ด้วยเหตุผลเรื่องการระบายความร้อนเป็นสำคัญ
เรื่องนี้ Chris Kujawski หัวหน้าทีมออกแบบฮาร์ดแวร์ของ Xbox ให้สัมภาษณ์กับเซคชั่น Digital Foundry ในเครือ Eurogamer ไว้ค่อนข้างละเอียดเมื่อต้นเดือนนี้
แนวทางออกแบบของ Xbox Series X ชัดเจนว่าทุกอย่างพัฒนาขึ้นบนหลักการว่า จีพียูต้องแรงขึ้น 2 เท่าเป็น 12 teraflops โดยที่รักษาระดับเสียงดังเท่ากับ Xbox One X ให้ได้ เมื่อเจอข้อจำกัดขนาดนี้ สิ่งที่ต้องเปลี่ยนคือดีไซน์ของตัวคอนโซลจากแนวนอนเป็นแนวตั้ง
ฮาร์ดแวร์ต้นแบบช่วงแรกที่ไมโครซอฟท์ใช้แค่ภายใน ยังใช้ดีไซน์ทรงแนวนอน และต้องใช้พาวเวอร์ซัพพลายขนาดใหญ่ถึง 315 วัตต์ แนวทางเดิมจึงไม่ตอบโจทย์ ภายหลังไมโครซอฟท์จึงตัดสินใจปรับดีไซน์เป็นแนวตั้ง
ประเด็นที่น่าสนใจในแง่เทคนิคคือ พอเครื่องเป็นแนวตั้งแล้วมีปัญหาเรื่องขนาดของเมนบอร์ดยัดไม่ลง ทางออกของไมโครซอฟท์คือแบ่งบอร์ดออกเป็น 2 ซีก ซีกแรกเน้นอุปกรณ์สมรรถนะสูง อีกซีกเป็นชิป southbridge ที่เชื่อมต่อกับ I/O
Kujawski ยังชี้ว่า ฮาร์ดแวร์คอนโซลยุคก่อนใช้วิธีให้โครงของเครื่องอยู่ภายนอก ชิ้นส่วนยัดกันอยู่ข้างใน แต่พอมาเป็น Xbox Series X กลับทิศกันคือ โครงหลักอยู่ข้างในตรงกลาง แล้วค่อยๆ นำชิ้นส่วนต่างๆ มาล้อมไว้ทีละชั้น (เขาใช้คำว่าเหมือน 3D Tetris)
ข้อดีของแนวทางนี้คือจัดส่วนที่ร้อนๆ ไว้กลุ่มเดียวกัน จัดการเรื่องระบายความร้อนได้ง่ายกว่า และมีช่องให้ระบายอากาศได้หลายทางด้วย เมื่อบวกกับการปรับปรุงพัดลมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น (ใช้พัดลมตัวใหญ่ตัวเดียวที่ฝาด้านบน) ผลคือ Xbox Series X มีลมไหลเข้าได้มากขึ้นกว่าเดิม 70% เมื่อเทียบกับ Xbox One X จึงแก้ปัญหาเรื่องความร้อนไปได้มาก
ส่วนการหุ้ม (shielding) ชิ้นส่วนเพื่อป้องกันคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ของเดิมใช้วิธีมีแผ่นเหล็กใหญ่ๆ หุ้มที่ชั้นนอกสุด ก็เปลี่ยนมาเป็นการหุ้มแยกทีละชิ้นแทน
ในบทความของ Eurogamer ยังมีประเด็นอื่นๆ เช่น การระบายความร้อนของ SSD, ไดรฟ์อ่านแผ่น optical disk รวมถึงประเด็นเรื่องการเลือกใช้ถ่าน AA ของคอนโทรลเลอร์ ที่คนในไมโครซอฟท์เองก็เสียงแตกแบบ 50:50
ที่มา - Eurogamer