หากใครที่เล่นคอมพิวเตอร์มานานพอ คงยังจำโลกที่ไมโครซอฟท์ไม่ได้ครอบครองทุกสิ่งได้ ราวๆ ปี 1991-1992 ถ้าถามว่า โปรแกรมประมวลคำที่ฮิตที่สุดคืออะไร คำตอบคือ Word Perfect โปรแกรมตารางคำนวนที่ดังสุดคือ Lotus 1-2-3 ฐานข้อมูลล่ะ ต้อง Dbase กับ Foxbase ครับ เบราว์เซอร์ยังไม่เกิดเลย ตอนนั้น DOS ยังครองโลกที่ยังเป็น text และ command line อยู่ เราลองมาดูว่าโลกที่ไมโครซอฟท์ออฟฟิศครองโลกนี้เกิดมาได้อย่างไร
แรกสุด โลตัสเป็นคนเสนอแนวคิดเรื่องซอฟต์แวร์รวม (Integrated Software) โดยทำตารางคำนวณที่พิมพ์งานได้หน่อยๆ เป็นฐานข้อมูลได้นิดๆ มาให้ใช้ ก็ดังมากๆ แต่ซอฟต์แวร์ทุกตัวยังทำงานแยกกัน ต้องซื้อซอฟต์แวร์ ประมวลคำ ตารางคำนวณและฐานข้อมูลแยกกันหมด สงสัยไหมครับว่าไมโครซอฟท์ทำอะไรอยู่ คำตอบคือขายระบบปฏิบัติการไงครับ แต่ตอนนั้นเริ่มมี Word, Excel รุ่นแรกๆ แล้ว แต่ไม่ค่อยมีคนใช้เพราะช้าเนื่องจากทำงานในโหมดกราฟิก อ้อเครื่องตอนนั้นก็ราวๆ 33 MHz 486DX น่ะครับ
อ้าว แล้วศึกนี้ทำไมไมโครซอฟท์รบชนะมาได้ละครับ ก่อนจะอธิบายเรื่องนี้ขอตัดไปว่าเรื่องสามก๊กบ้างครับ
ในศึกสามก๊กก่อนศึกผาแดงที่โจโฉแตกทัพเรือ เป็นจุดน่าสนใจในประวัติศาสตร์ครับ อันที่จริงถ้าดูแผนที่แล้วจะดูเหมือนก๊กโจโฉก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไร แต่ในความเป็นจริงทางเหนือของจีนเจริญและมีประชากรมากกว่าเขตอื่น ส่วนเขตกังตั๋งของซุนกวนนั้น เป็นที่ลุ่มหนองคลองบึงมากพอควร เสฉวนที่เล่าปี่ยึดในภายหลังก็ไม่ได้ใหญ่โตมากนัก
ที่จริงแล้วคนที่มีกำลังรบมากสุดก่อนนั้น คือ อ้วนเสี้ยว แต่โจโฉอาศัยความชำนาญศึก ใช้คนน้อยกว่ารบชนะมาได้โดยเฉพาะศึกกัวต๋อที่สร้างชื่อให้โจโฉในประวัติศาสตร์ ตอนที่เดินทัพมาทางใต้ โจโฉมีกำลังทหารและขุนศึกที่พร้อมที่สุด เล่าปี่นั้นยังหนีหัวซุกหัวซุนอยู่เลย ส่วนซุนกวนก็ไม่ได้มีกำลังมากมายนัก
โจโฉน่าจะชนะมากกว่าใครๆ นะครับ โจโฉเป็นคนฉลาดและมีลูกน้องที่ดี อาจจะดีกว่าฝ่ายซุนกวนและเล่าปี่ด้วยซ้ำไป
เอาว่าโจโฉเป็นเสมือนบริษัทซอฟแวร์ต่างๆ ที่ครองตลาดอยู่นะครับ ส่วนซุนกวนคือไมโครซอฟท์
จุดเปลี่ยนของศึกผาแดงมีสองสามจุด
ดังนั้น ทางฝ่ายซุนกวนอาศัยคนน้อยที่คล่องตัว ความชำนาญพื้นที่ และจุดเปลี่ยนในสภาพแวดล้อมทำให้กุมชัยชนะครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์มา
สำหรับสงครามออฟฟิศ จุดเปลี่ยนที่มาถึง (เหมือนลมเปลี่ยนทิศ) คือการแพร่กระจายของ ไมโครซอฟท์วินโดวส์ 3.1 ครับ ตอนนั้นสภาพแวดล้อมของผู้ใช้มาเป็นกราฟิกโดยทางไมโครซอฟท์เป็นเจ้าถิ่น ดังนั้นทุกผลิตภัณฑ์ต้องมารบกันบนวินโดวส์ครับ วินโดวส์คือผาแดง เป็นถิ่นที่ไมโครซอฟท์เลือกได้และชำนาญกว่าใคร
สิ่งที่เป็นไฟเผาเรือคือการที่ไมโครซอฟท์ออกเทคโนโลยีให้โปรแกรมประยุกต์ คุยกันได้ผ่านโปรโตคอลบนวินโดวส์เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล
เมื่อก่อนเราทำเอกสารมีตารางกับกราฟ ต้องมาทำเป็นไฟล์รูปใส่เอกสารหรือพิมพ์แยก แต่ไมโครซอฟท์ทำให้โปรแกรม Excel, Word และ Access กับ PowerPoint แลกข้อมูลกันได้ ทำให้คล่องตัวมาก และการทำงานแบบนี้ทำงานได้ดีเพราะซอฟต์แวร์ทุกตัวเป็นของไมโครซอฟท์หมด สุดท้ายจับมารวมกันเป็นตัวเดียวคือ ไมโครซอฟท์ออฟฟิศ ด้านราคาก็ตั้งให้ถูกกว่าซื้อซอฟต์แวร์แยกกัน
ผ่านไปสองสามปี ซอฟต์แวร์อื่นๆ ตายหมด ไม่รอดเลย ไมโครซอฟท์ก็ครองแผ่นดินไป
เรื่องนี้บอกว่าการทำธุรกิจนั้น เราต้องมีสายตาแห่งอนาคต เมื่อกระแสลมแห่งความเปลี่ยนแปลงพัดมาต้องปรับตัวให้ทัน ใครเกาะกุมจุดเปลี่ยนได้ก่อนและใช้โอกาสนั้นเป็นก็จะพุ่งออกไป
ที่ดีกว่านั้นคือการเป็นคนกำหนดจุดเปลี่ยนและสภาพแวดล้อมได้เอง สิ่งเหล่านี้ทำให้ทำไมไมโครซอฟท์ต้องยึดระบบวินโดวส์ไว้อย่างหนาแน่น และกูเกิลต้องสร้าง Google App API หรือแอปเปิลสร้างระบบนิเวศน์ iPod/iPhone/iTunes/App Store ขึ้นมาแบบเดียวกัน
หากสามารถบีบให้คู่แข่งมารบกับเราที่ผาแดงได้ย่อมมีโอกาสเผาเรือฝ่ายตรงข้ามได้ง่ายครับ
ใครอย่างรู้เรื่องสามก๊กมากกว่านี้แนะนำให้อ่านหนังสือ อ่านสามก๊กถกบริหาร ของ ท่านก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ครับ
อ่านได้สาระและบันเทิงจริงๆ ครับ
แถมท้าย: ในภาคหนังชุดนั้น ฉากหนึ่งที่ผมชอบ คือ หลังจากโจโฉแตกทัพหนีมาได้กับผู้ติดตามไม่กี่คน โจโฉหันไปเห็นทุกคนทำหน้าเศร้า โจโฉก็หัวเราะขึ้นมาและปลอบลูกน้องว่า บอกแตกทัพแค่นี้เองไม่เห็นเป็นไร ไว้กลับไปพักสักหน่อยก็เกณฑ์คนเท่านี้มาได้อีก เดี๋ยวมาปราบมันกันใหม่ ในชีวิตเราจะรู้สึกเหมือนแตกทัพเรือบางครั้ง คนเรานั้นพลาดกันได้ คนจริงคือคนที่มีมานะคิดสร้างตัวกลับมาใหม่ได้ครับ