หนึ่งในจุดแตกหักแรก ๆ ระหว่างรัฐบาลสหรัฐและ Huawei คือการแจ้งให้รัฐบาลแคนาดาจับ Wanzhou Meng รองประธาน, ซีเอฟโอและลูกสาวของ Ren Zhengfei ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ ข้อกล่าวหาคือ Meng มีส่วนเกี่ยวกับกับการทำธุรกรรมและหลอกให้สถาบันการเงินในสหรัฐทำธุรกิจกับประเทศอิหร่าน ซึ่งสหรัฐคว่ำบาตรอยู่
ล่าสุดศาล British Columbia มีคำตัดสินว่าให้กระบวนการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปยังสหรัฐเดินหน้าต่อไปได้ เนื่องด้วยศาลเห็นว่า Meng มีมูลความผิดตามกฎหมายของทั้งสหรัฐและแคนาดา (Double Criminality) ทำให้เข้าหลักเกณฑ์การส่งผู้ร้ายข้ามแดน
ในกระบวนการไต่สวน ทีมทนายของ Meng โต้แย้งว่ากรณีของ Meng ไม่เข้าข่าย Double Criminality เพราะแคนาดาไม่ได้มีมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านเหมือนสหรัฐ ทว่าอัยการของรัฐบาลแคนาดาที่ยื่นฟ้อง Meng โต้กรณีที่ความผิดที่ Meng โกหกธนาคาร HSBC ว่า Skycom เป็นเพียงพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ ทั้งที่ในความเป็นจริงเป็นบริษัทลูกของ Huawei (อ่านรายละเอียดข้อกล่าวหาเต็ม ๆ) ศาลจึงเห็นว่าเป็นมูลความผิดฐานฉ้อโกงและทำให้ HSBC มีความเสี่ยงทั้งในทางธุรกิจและชื่อเสียง ซึ่งผิดกฎหมายแคนาดา
อย่างไรก็ตาม Meng ยังมีอีกคดีที่ต้องไต่สวน คือเธอยื่นฟ้องเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองแคนาดา ฐานละเมิดสิทธิของเธอหลังเธอถูกควบคุมตัวและสอบถามราว 3 ชั่วโมง ถูกยึดโทรศัพท์ ถามรหัสปลดล็อกและค้นกระเป๋าเดินทางของเธอก่อนถูกจับ ขณะที่อัยการแย้งว่าเป็นสิทธิอันชอบธรรมของเจ้าหน้าที่ ตม.
แม้รองหัวหน้าผู้พิพากษาของศาล British Columbia จะยืนยันว่าคำตัดสินดังกล่าวอิงกับตัวบทกฎหมายล้วน ๆ แต่การตัดสินครั้งนี้ก็น่าจะยิ่งบั่นทอนความสัมพันธ์ทางการเมืองระหว่างแคนาดาและจีนลงไปอีก โดยหลัง Meng ถูกจับกุม รัฐบาลจีนตอบโต้ด้วยการจับคุมชาวแคนาดา 2 คนโดยอ้างว่าเป็นสปาย และจับขังคุกลับ ซึ่งก็ถูกชาวแคนาดานำไปเปรียบเทียบกับชีวิตความเป็นอยู่ของ Meng ที่ประกันตัวด้วยเงิน 10 ล้านดอลลาร์แคนาดาและชีวิตความเป็นอยู่สุขสบาย หรูหรา มีเพียงแค่ GPS ติดข้อเท้าเธอเท่านั้น
ที่มา - The New York Times