ไมโครซอฟท์ประกาศแผนการออก Windows 10 อัพเดตถัดไป โค้ดเนม 20H2 ที่จะใช้เลขเวอร์ชันว่า version 20H2 อีกเหมือนกัน เลิกใช้ระบบเลขเวอร์ชันแบบ "ปี+เดือน" (เช่น v1909 หรือ v2004) แล้ว แต่จะยังมีชื่อเรียกอัพเดตแบบยาวๆ (เช่น May 2020 Update) อยู่
ไมโครซอฟท์ให้เหตุผลว่า เลือกตั้งชื่อเวอร์ชันเป็น 20H2 เพียงอย่างเดียวเพื่อลดความสับสนของผู้ใช้และพาร์ทเนอร์ หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีทั้งการเรียกแบบครึ่งปี (20H1) และแบบเจาะจงเดือนที่ออก (2004)
Windows 10, version 20H2 จะยังคงนโยบายของไมโครซอฟท์ ที่แบ่งเป็นอัพเดต "ใหญ่-ย่อย" สลับกันไป โดยอัพเดตตัวครึ่งปีหลัง (H2) จะเป็นอัพเดตเล็ก มีฟีเจอร์ใหม่ไม่มาก เน้นปรับปรุงคุณภาพและเสถียรภาพ แบบเดียวกับที่เราเห็นมาจาก 19H2 (v1909) มาแล้ว และWindows 10 Enterprise/Education อัพเดต H2 จะยังได้ซัพพอร์ตนาน 30 เดือน ซึ่งเป็นรุ่นที่ไมโครซอฟท์แนะนำให้ลูกค้าองค์กรใช้งาน
การที่ Windows 10 20H2 เป็นอัพเดตขนาดเล็ก กระบวนการอัพเดตจาก 20H1 จึงไม่ต่างอะไรจากอัพเดตแพตช์รายเดือน (ต่างจากตัว 20H1 ที่เป็นอัพเดตใหญ่) ระยะเวลารอติดตั้งอัพเดตจึงเร็วกว่ากันมาก ซึ่งตรงนี้เหมือนกับการอัพเดต 19H2 (แต่ถ้าอัพเดตมาจาก Windows 10 เวอร์ชันก่อนๆ 20H1 ก็จะยังต้องติดตั้งแบบเต็มกระบวนการอยู่ดี)
ไมโครซอฟท์ยังไม่เผยรายละเอียดฟีเจอร์ของ Windows 10 20H2 มากนัก บอกเพียงว่ามันจะเป็นอัพเดตตัวแรกที่พ่วง Microsoft Edge Chromium เข้ามาด้วย นั่นแปลว่าผู้ที่ติดตั้ง Windows 10 20H2 แบบ clean install จะได้ใช้ Edge Chromium ทันที ในขณะที่ Windows 10 20H1 (v2004 ตัวปัจจุบัน) ยังเป็น Edge ตัวเก่าอยู่
ตอนนี้ไมโครซอฟท์เริ่มปล่อย 20H2 รุ่นทดสอบ Build 19042.330 ให้กับผู้ทดสอบกลุ่ม Beta Channel (Slow Ring เดิม) แล้ว
ที่มา - Microsoft