macOS Big Sur ที่เปิดตัวไปในงาน WWDC เมื่อคืนนี้ นอกจากการปรับเปลี่ยนเพื่อเตรียมรองรับสถาปัตยกรรม ARM ที่ Apple จะผลิตชิปเองแล้ว ยังมีการปรับดีไซน์ใหม่ของ UI และเพิ่มฟีเจอร์ใหม่เข้ามาเพื่อให้การใช้งานสะดวกขึ้น และมีความเข้ากันได้กับ iOS และ iPad OS มากขึ้น
ดีไซน์หน้าต่างทั่วไป เป็นแบบโค้งมนมากขึ้น (เพิ่มองศามุมของหน้าต่างให้เป็นมุมป้านมากขึ้น) พร้อมอัพเดตไอคอนแบบใหม่ที่เป็นทรงสี่เหลี่ยมที่มุมโค้งมนและมีเงา drop shadow คล้ายคลึงกับ iOS
นอกจากไอคอนและหน้าต่าง ก็มีการปรับ Toolbars และ Title Bars ให้ไม่มีขอบ และสูงขึ้น
เลือกสีไอคอน Accent Color ของแอปต่างๆ ได้ด้วยตัวเอง โดยจะไม่เป็นเพียงสีเทาหม่นๆ อีกต่อไป ซึ่งค่าเริ่มต้นจะตั้งไว้ที่ multicolor แต่ถ้าผู้ใช้ตั้งค่าเป็นสีอื่น สีนั้นก็จะถูกนำไปใช้กับไอคอนหรือปุ่มต่างๆ ในแอปโดยอัตโนมัติ ยกเว้นแต่ไอคอน glyph บน Sidebar ที่จะเป็นแบบหลากสีเหมือนเดิม เพราะเกี่ยวข้องกับการแยกประเภทของแอปต่างๆ ให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น
แอป iCloud Drive ยังเป็นสีฟ้า แม้ผู้ใช้จะตั้งเลือก Accent Color เป็นสีส้ม
มี Control Center และ Notifications Center เพิ่มมาแบบบน iOS และ iPadOS ให้การควบคุมเครื่อง Mac และการดู Notifications หรือ Widgets ต่างๆ ทำได้สะดวกยิ่งขึ้น
Safari ปรับปรุงใหม่ ปรับแต่งหน้า Home เองได้ และเพิ่มความเป็นส่วนตัว โดยสามารถกดดูได้ว่าหน้าเว็บที่เข้าอยู่ กำลัง track ข้อมูลอะไรของผู้ใช้บ้าง
แอป Messages ปรับใหม่ พินการสนทนาที่สำคัญไว้บนสุดได้ เพิ่ม Memoji และเอฟเฟกต์ใหม่ๆ แท็กหาคนในกรุ๊ปด้วยการพิมพ์ชื่อได้แล้ว
ถือเป็นการปรับดีไซน์ครั้งใหญ่ของ macOS ที่หลังจากใช้เวอร์ชั่น 10.xx มานาน ก็กลายเป็น macOS 11 เต็มตัวเสียที และทำให้ UI บนอุปกรณ์ต่างๆ ของ Apple มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมากขึ้น (streamlined) ในที่สุด หลังจากที่ผู้ใช้ macOS ต้องเจอกับหน้า UI ที่แตกต่างพอสมควร