มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ชี้ เม็ดเงินโฆษณาไหลไปแพลตฟอร์มอื่นอย่างกูเกิลมากกว่า Facebook

by sunnywalker
30 July 2020 - 13:47

วันนี้ (30 มิ.ย.) มีการประชุมสภาคองเกรส ไต่สวนบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ประเด็นผูกขาด มีผู้บริหารเข้าร่วมประชุมผ่านออนไลน์คือ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์กจาก Facebook, Jeff Bezos ซีอีโอ Amazon, Sundar Pichai ซีอีโอกูเกิล, Tim Cook ซีอีโอแอปเปิล

มาร์ก พูดถึงประเด็นผูกขาดในส่วนของ Facebook ว่า จริงๆ แล้ว Facebook ยังตามหลังคู่แข่งรายอื่นในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นบริการส่งข้อความที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในสหรัฐคือ iMessage ไม่ใช่ Facebook, แอปพลิเคชั่นที่เติบโตเร็วที่สุดคือ TikTok แอปพลิเคชั่นยอดนิยมสำหรับวิดีโอคือ YouTube แพลตฟอร์มโฆษณาที่เติบโตเร็วที่สุดคือ Amazon และ แพลตฟอร์มโฆษณาที่ใหญ่ที่สุดคือกูเกิล มาร์กยังพูดเปรียบเปรยด้วยว่า เม็ดเงินโฆษณาที่ใช้จ่ายในสหรัฐฯนั้นมีไม่ถึง 10 เซนต์ที่มาถึง Facebook

Facebook ถูกตั้งคำถามเรื่องลอกเลียนแบบฟีเจอร์ของบริษัทคู่แข่งด้วยเช่นกัน กรณีที่โด่งดังคือ ฟีเจอร์วิดีโอสั้นของ Snapchat ซึ่งมาร์กบอกว่าเป็นการนำมาปรับใช้ ส่วนประเด็นการเข้าซื้อ Instagram ก็มีการตั้งคำถามจากสมาชิกสภาว่าเป็นการเข้าซื้อเพื่อจะได้ไม่เข้ามาเป็นคู่แข่งในอนาคตหรือไม่ และในระหว่างการเข้าซื้อ Facebook ได้แสดงท่าทีข่มขู่จะลอกเลียนแบบฟีเจอร์ของ Instagram หรือไม่ ซึ่งมาร์กบอกว่าไม่ได้มองว่าการสนทนาในอดีตนั้นเป็นการข่มขู่แต่อย่างใด

ด้านบริษัทอื่นก็โดนกดดันด้วยประเด็นแตกต่างกันไป อย่าง Amazon ก็โดนตั้งคำถามเรื่องการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของตัวเองขายบนมาร์เกตเพลสที่ควรจะเป็นตัวกลาง ซึ่ง Jeff Bezos ก็ไม่ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ตรงๆ

ด้านกูเกิลโดนตั้งคำถามเรื่องแสดงผลการค้นหาที่ให้ประโยชน์ต่อผลิตภัณฑ์ของตัวเองหรือไม่ และในกระบวนการนั้นมีการใช้ข้อมูลจากแพลตฟอร์มอื่นเช่น Yelp หรือไม่ รวมถึงผูกขาดช่องทางโฆษณาดิจิทัลหรือไม่

แอปเปิลถูกตั้งคำถามว่าลบแอปพลิเคชั่น parental control ของบริษัทอื่นๆ เช่น OurPact เพื่อเปิดตัวฟีเจอร์ของตัวเองคือ Screen Time หรือไม่ ซึ่ง Tim Cook ใช้เหตุผลเรื่องความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ซึ่ง OurPact มีความเสี่ยงที่บุคคลอื่นจะเข้าถึงข้อมูลได้

ที่มา - Bloomberg, Business Insider, NPR

Blognone Jobs Premium