สรุปรีวิว RTX 3090 แรงกว่า 3080 ราว 15% รันเกม 4K เปิด ray-tracing ได้เกิน 60FPS แล้ว

by mheevariety
26 September 2020 - 09:46

วันนี้สื่อไอทีเมืองนอกหลายราย เริ่มลงผลทดสอบ GeForce RTX 3090 Founder Edition การ์ดจอ Ampere ตัวแรงที่สุดของ NVIDIA ที่มีราคาสูงถึงประมาณสองเท่าของ RTX 3080 (สเปกคร่าวๆ คือ CUDA cores ถึง 10496 แกน และวีแรม GDDR6X ขนาด 24GB)

แม้ผลทดสอบที่ได้จะไม่ได้เพิ่มเป็นสองเท่าตามราคา แต่ GeForce RTX 3090 ก็ครองตำแหน่งเจ้าแห่งการ์ดจอเล่นเกมในตอนนี้ไปเรียบร้อย

สื่อหลายสำนักพูดตรงกันว่า GeForce RTX 3090 ถือเป็นการ์ดจอตระกูล Titan รุ่นใหม่ แม้ไม่มีคำว่า Titan ในชื่อรุ่นก็ตาม แต่เพราะเป็นการ์ดจอแสดงพลังขั้นสุดของ NVIDIA ในเจ็นนี้ โดยออกแบบมาสำหรับผู้ที่ต้องการการ์ดจอรุ่นที่แรงที่สุดโดยไม่เกี่ยงราคา และต้องการเล่นเกมแบบ 4K พร้อม ray-tracing ได้แบบเต็มที่ ซึ่งการ์ดจอรุ่นนี้ก็ทำได้แบบ 60fps แล้วในหลายๆ เกม

เห็นผลชัดเจนเมื่อเล่นที่ 4K

Tom’s Hardware ระบุว่าประสิทธิภาพของ RTX 3090 ชนะ 3080 ไปประมาณ 10-15% ในการเล่นเกมบนความละเอียด 4K แต่ไม่ถึง 10% บนการเล่นเกมแบบ 1440p จึงเห็นได้ชัดว่า RTX 3090 ถูกสร้างมาเพื่อโชว์พลังการเล่นเกมแบบ 4K หรือละเอียดกว่านั้น เพราะเป็นความละเอียดในระดับที่ใช้ประโยชน์จากวีแรมขนาดใหญ่ถึง 24GB ได้อย่างเต็มที่ และเป็นคำอธิบายว่าทำไมการเล่นเกมแบบ 1440p จึงไม่เห็นความแตกต่างมากนัก

เฟรมเรต เฉลี่ย 9 เกม บนความละเอียด 4K จาก Tom’s Hardware

ส่วนเว็บ guru3d.com ทดสอบการเล่นเกม Battlefield V แบบเปิด ray-tracing ที่ความละเอียด 4K พบว่า GeForce RTX 3090 เป็นการ์ดจอใบเดียวเท่านั้นที่สามารถทำเฟรมเรตเฉลี่ยได้ถึง 60 เฟรมต่อวินาที ในขณะที่ระดับ RTX 3080 ทำได้ 55 เฟรมต่อวินาที และ RTX 2080 Ti ทำได้เพียง 38 เฟรมต่อวินาที

ปัญหาเฟรมเรตตก สามารถแก้ได้ด้วยการเปิด DLSS (เทคโนโลยีอัพสเกลภาพด้วย deep learning ของ NVIDIA) ซึ่งได้เฟรมเรตอยู่ที่ 55, 73 และ 86 เฟรมต่อวินาที (2080 Ti, 3080, 3090 ตามลำดับ)

Battlefield V แบบ 4K เปิด RT ไม่เปิด DLSS

Battlefield V แบบ 4k เปิด RT+DLSS

ยังพิชิตโหมด Can It Run Crysis? ที่ 60fps ไม่ได้

หาก GeForce RTX 3090 มีปัญหาอยู่บ้าง ก็คงเป็นการเล่นเกม Crysis: Rematered ในโหมด Can it run Crysis? ที่เว็บไซต์ Tom’s Hardware ลองทดสอบบนความละเอียดแบบ 4K แบบเปิด ray-tracing พบว่า RTX 3090 ยังทำเฟรมเรตได้เพียง 41 เฟรมต่อวินาทีเท่านั้น (เกมยังไม่รองรับ DLSS ทำให้ไม่มีตัวช่วย) แต่หากปิด ray-tracing ก็สามารถทำเฟรมเรตได้เฉลี่ย 64.9 เฟรมต่อวินาที

ผลทดสอบ Crysis:Remastered จาก Tom’s Hardware

คะแนนจากการทดสอบแบบสังเคราะห์เช่น 3DMark Fire Strike Ultra ที่ IGN ทำการทดสอบ ทำได้ถึง 12055 คะแนน เทียบกับ RTX 3080 ที่ 10744 คะแนน เพิ่มขึ้นประมาณ 12.2%% และถ้าเทียบกับ RTX 2080 Ti ที่ได้ 8426 คะแนน ก็เพิ่มขึ้นมาถึงเกือบ 4000 คะแนน

ผลทดสอบจาก IGN

ไม่ร้อนมาก แต่กินไฟมาก

ในด้านพลังงานและความร้อน จากการทดสอบพบว่า RTX 3090 ระบายความร้อนได้ดีเยี่ยม ในการทดสอบเล่นเกม Metro Exodus บนความละเอียด 1440p อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 64.6 องศาสเซลเซียสเท่านั้น แต่ในด้านการใช้พลังงาน RTX 3090 กินไฟมากพอสมควร โดยต้องใช้ไฟถึง 361.3 วัตต์ในการทดสอบ Metro Exodus เทียบกับ Titan RTX ในรุ่นก่อน ที่ใช้ไฟ 287.5 วัตต์

ผลทดสอบด้านพลังงานจาก Tom’s Hardware

พอเล่นเกม 8K ได้เป็นบางเกม

สำหรับการเล่นเกมที่ความละเอียดสูงระดับ 8K เว็บ Tehcspot ลองทดสอบการเล่นเกมแบบ 8K พบว่าพอจะรองรับการเล่นเกมแบบ 8K ได้บ้าง แต่ยังมีเพียงเกม Doom: Eternal เท่านั้น ที่เล่นได้บนความละเอียด 8K จริงๆ ที่เฟรมเรต 60fps ส่วนเกม Control ยังต้องใช้ DLSS ในการอัพสเกลจาก 1440p เพื่อให้ได้เฟรมเรตที่ 60fps อยู่ (และได้เพียง 5fps เมื่อไม่ใช้ DLSS เพราะต้องเรนเดอร์ 8K เต็มความละเอียด)

สรุป

NVIDIA Geforce RTX 3090 น่าจะเป็นการ์ดจอที่แรงที่สุดในตลาดปัจจุบัน แต่มีข้อเสียที่ขนาดใหญ่ ราคาแพง และค่อนข้างกินไฟ แต่ถ้าคุณเป็นผู้เล่นที่ไม่เกี่ยงเรื่องเงิน และต้องการการ์ดจอที่ดีที่สุดสำหรับการเล่นเกมแบบ 4K เปิด ray-tracing แบบจัดเต็ม ณ ตอนนี้ ไม่มีการ์ดจอตัวไหนเอาชนะ RTX 3090 ได้

ถ้าคุณมีเงินเหลือเฟือ และคิดว่าประสิทธิภาพที่มากขึ้นประมาณ 15% จาก RTX 3080 และการรองรับการเล่นเกมความละเอียดสูงในอนาคต คุ้มแล้วสำหรับราคาประมาณสองเท่า RTX 3090 ก็น่าจะเป็นพี่ใหญ่บิ๊กเบิ้มที่เหมาะกับคุณ

ที่มา - Tom’s Hardware, guru3d, TechSpot

Blognone Jobs Premium