note (lew): ข่าวนี้มีข้อถกเถียงกันค่อนข้างมาก ผมตัดสินใจเอาข่าวนี้ลงจากหน้าแรกจนกว่าจะมีอัพเดตที่ชัดเจนกว่านี้ (อ่านคอมเมนต์ใน thread เพิ่มเติม)
RTX 3080 ล็อตแรก มีปัญหาผู้ใช้เล่นเกมแล้วเกิดอาการแครช เครื่องค้าง ล่าสุดเว็บไซต์ Igor’s lab ได้ลงบทวิเคราะห์สาเหตุของอาการแครชนี้ ว่าอาจมาจากแบรนด์ OEM เลือกใช้ตัวเก็บประจุ (capacitor) ที่มีคุณภาพต่ำ
Igor’s Lab เปรียบเทียบการ์ด Founder Edition ของ NVIDIA กับการ์ดของ OEM เจ้าอื่นเช่น Zotac, EVGA, Asus, และ MSI พบว่าการ์ดของ Zotac ใช้ตัวเก็บประจุ (POSCAP) ล้วนๆ 6 ตัว ที่มีราคาถูกกว่าแบบเซรามิก (MLCC) แต่คุณภาพในการส่งไฟไปเลี้ยงไม่นิ่งเท่า (กรอง noise ได้ไม่ดีเท่า MLCC)
ในขณะที่การ์ดจอ FE ของ NVIDIA และ EVGA ใช้ตัวเก็บประจุ POSCAP ห้าตัวคู่กับ MLCC สองตัวทำงานร่วมกัน ส่วนบน TUF RTX 3080, ASUS เลือกที่จะไม่ใช้ตัวเก็บประจุแบบ POSCAP เลย และใช้เป็น MLCC ทั้งหมด
นอกจากนี้ EVGA ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมบนเว็บบอร์ดของบริษัทว่าที่ต้องใช้ตัวเก็บประจุทั้งสองแบบคู่กันแม้ตอนแรกจะใช้ POSCAP ล้วน เพราะเจอปัญหาระหว่างการทดสอบ จนต้องเปลี่ยนแบบ มาใช้ตัวเก็บประจุ MLCC ร่วมด้วย
ปัญหานี้เกิดเมื่อการ์ดจอเร่งความเร็วถึง 2.0 GHz ซึ่งสูงกว่าความเร็วสูงสุดของรุ่น FE อยู่ 300 MHz แปลว่าการรักษาคุณภาพในการส่งไฟไปเลี้ยงจีพียูของการ์ดจากพาร์ทเนอร์ ต้องดีกว่า NVIDIA (เพราะบูสต์คล็อกสูงกว่า ใช้ไฟสูงกว่า) แต่บางค่ายเลือกใช้ตัวเก็บประจุในสเปกที่ถูกกว่า ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาเกมแครชตามมา
เว็บไซต์ Neowin ระบุวิธีแก้ปัญหาชั่วคราวว่าอาจใช้ MSI Afterburner ลดความเร็วการ์ดจอกันเองไปก่อน ประมาณ 100 MHz เพื่อไม่ให้การ์ดจอบูสต์และใช้ไฟสูงจนเกินไป ส่วนในอนาคตอาจต้องรอค่ายผู้ผลิตอัปเดต vBIOS มาลดความเร็วบูสต์สูงสุดการ์ดของการ์ดจอต่อไป
ที่มา - Igor’s Lab via Neowin