มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดแถลงผลทดสอบวัคซีน ChAdOx1 nCoV-2019 สำหรับป้องกันโรค COVID-19 ได้ประสิทธิภาพ 70.4% จากการทดสอบเฟสสามในกลุ่มตัวอย่าง 24,000 คน และอาจเพิ่มประสิทธิภาพเป็น 90% ได้หากปรับขนาดโดส
กลุ่มอาสาสมัคร 24,000 คนเริ่มได้รับวัคซีนตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา มีผู้ติดโรค COVID-19 ทั้งหมด 131 ราย เป็นกลุ่มผู้ได้วัคซีนจริง 30 ราย และกลุ่มได้รับยาหลอก 101 ราย โดยผู้ได้รับวัคซีนจริงไม่มีใครป่วยหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาล
ตัววัคซีนดัดแปลงจากไวรัสไข้หวัดโดยดัดต่อโปรตีนบางส่วนของ coronavirus เข้าไป เมื่อวัคซีนเข้าสู่ร่างกายระบบภูมิคุ้มกันจะสร้างภูมิที่จับ coronavirus ขึ้นมาป้องกันได้
แม้ประสิทธิภาพ 70.4% จะไม่น่าประทับใจนักเมื่อเทียบกับบริษัทอื่นที่แถลงผลสูงกว่า 90% แต่วัคซีน ChAdOx1 nCoV-2019 สามารถเก็บและขนส่งที่อุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียสเท่านั้น ทำให้ใช้ตู้แช่ธรรมดาได้ และกระบวนการผลิตก็ทำได้ง่าย โดย AstraZeneca บริษัทยาที่ร่วมวิจัยวัคซีนนี้ได้ทำข้อตกลงผลิตยากับผู้ผลิตทั่วโลกกว่า 30 สัญญา รวมเป็นกำลังผลิต 3,000 ล้านโดส นอกจากนี้ผลเบื้องต้นยังระบุว่าหากให้วัคซีนโดสแรกเพียงครึ่งเดียวและให้โดสที่สองแบบเต็มโดสก็อาจจะเพิ่มประสิทธิภาพวัคซีนได้เป็น 90% แต่ต้องทดสอบเพิ่มเติมต่อไป
สหราชอาณาจักรได้สั่งซื้อวัคซีนตัวนี้ล่วงหน้าไว้แล้ว 100 ล้านโดสสำหรับประชากร 50 ล้านคน โดยตอนนี้ในสต็อกก็มีพร้อมแล้ว 4 ล้านโดสให้ใช้งานได้ทันทีหากวัคซีนได้รับอนุญาต โดยคาดว่าจะขออนุญาตได้ในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า