จากประเด็น Phil Spencer บอกสั่งผลิต Xbox Series ช้ากว่า PS5 เพราะรอเทคโนโลยีบางอย่างจาก AMD สื่อเกมบางรายก็ไปขยายผลต่อ และพบว่ามันคือจีพียูของ Xbox Series ที่เป็นสถาปัตยกรร RDNA 2 เต็มรูปแบบ ในขณะที่ฝั่ง PS5 ไม่ใช่
เรื่องนี้ไมโครซอฟท์เคยประกาศไว้เองเมื่อปลายเดือนตุลาคม ก่อน Xbox Series วางขาย โดยประกาศว่า Xbox Series X|S เป็นคอนโซลชุดเดียวที่รองรับ "Full AMD RDNA 2 Architecture" หรือรองรับฟีเจอร์ทั้งหมดของ RDNA 2 เท่ากับ Radeon RX 6000 ซีรีส์
ฟีเจอร์ที่ไมโครซอฟท์ยกขึ้นมาอธิบายมี 4 ตัวคือ Ray Tracing, Mesh Shaders, Sampler Feedback, Variable Rate Shading (VRS) เท่ากับว่า Xbox Series รองรับทั้งหมด
ภาพจาก AMD ตอนวันเปิดตัว Radeon RX 6000 "Big Navi"
ฝั่ง PS5 เองโซนี่กลับไม่เคยพูดเรื่องนี้อย่างชัดเจนนัก และไม่เคยเคลมว่าเป็น Full RDNA 2 แต่เคยมีวิศวกรกราฟิกของโซนี่ชื่อ Rosario Leonardi (@ilMal3) โพสต์ในโซเชียล ระบุว่าจีพียูของโซนี่เป็น Custom RDNA 2 ที่มีฟีเจอร์ไม่เหมือน RDNA 2 ทั้งหมด ซึ่งเขาบอกว่าไม่ใช่ปัญหาอะไรมากนักในทางปฏิบัติ (NeoGAF)
ที่เรารู้แน่ๆ ตอนนี้คือ PS5 มีฟีเจอร์ Ray Tracing แต่ไม่มี Variable Rate Shading (VRS) ซึ่งโซนี่ก็สัญญาว่าจะรองรับในอนาคต แต่ยังไม่ระบุว่าเมื่อไร
ในระยะสั้น เรื่องนี้คงไม่ใช่ปัญหาจริงๆ เพราะเกมชุดแรกของคอนโซลเจนใหม่ มีประสิทธิภาพบน PS5 ดีกว่า Xbox Series X ด้วยซ้ำ ซึ่งปัจจัยหลักมาจากนักพัฒนามีเวลาทดสอบบน PS5 นานกว่า ไมโครซอฟท์มีเวลาทำเครื่องมือน้อยกว่า
ส่วนในระยะยาว ผลของการที่ไมโครซอฟท์เลือก "รอ" และโซนี่เลือก "ไม่รอ" จะแตกต่างกันแค่ไหน คงต้องดูกันต่อไป และย่อมมีปัจจัยอื่นๆ มาเสริมอีกมากด้วย โดยเฉพาะเกมของแต่ละแพลตฟอร์ม