DOJ หรือกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ ออกประกาศฟ้องร้อง Xinjiang Jin หรือ Julien Jin ในข้อหาก่อกวนวิดีโอคอลที่จัดทำขึ้นเพื่อรำลึกเหตุการณ์สังหารหมู่หน้าจัตุรัสเทียนอันเหมินในปี 1989 ซึ่ง DOJ ไม่ได้ระบุว่าผู้ว่าจ้าง Jin คือใคร (ในเอกสารใช้คำว่า Company-1) แต่ Zoom ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ชัดเจนว่า ทางบริษัทคือผู้ว่าจ้าง Jin เอง
Zoom ระบุว่า Jin เป็นพนักงานที่มีหน้าที่ติดต่อประสานงานระหว่าง Zoom กับหน่วยงานด้านกฎหมายและข่าวกรองของจีน โดยการว่าจ้าง Jin มาเนื่องจากก่อนหน้านี้ Zoom ถูกบล็อคในประเทศจีน บริษัทจึงต้องร่วมมือกับหน่วยงานในประเทศจีนเพื่อจัดการเซนเซอร์เนื้อหาที่รัฐบาลจีนไม่ต้องการ รวมถึงว่าจ้าง Jin เข้ามาเป็นผู้ติดต่อประสานงานระหว่าง Zoom กับรัฐบาลจีน
ในคำฟ้องของ DOJ ต่อ Jin ระบุว่า Jin ทำงานที่ออฟฟิศในมณฑลเจ้อเจียง เขาใช้ตำแหน่ง Security Technical Leader ในการเก็บข้อมูลรวมถึงก่อกวนมีตติ้งกับผู้ไม่เห็นด้วยหรือนักกิจกรรมทั้งในและนอกสาธารณรัฐประชาชนจีน ส่วนฝั่ง Zoom ระบุว่า แม้ DOJ จะไม่ได้ติดต่อเรื่องนี้กับทางบริษัทก่อนหน้าที่จะเปิดเผยเอกสารสู่สาธารณะ แต่ Zoom ก็รับทราบมาสักระยะหนึ่งแล้วว่าอดีตพนักงานรายนี้กระทำผิดตามนโยบายของ Zoom หลายอย่าง ดังนั้นทางบริษัทจึงได้เลิกจ้างไปแล้ว รวมถึงให้พนักงานคนอื่นที่มีส่วนเกี่ยวข้องหยุดงานชั่วคราวในระหว่างการสอบสวนของบริษัทด้วย
ช่วงที่ทำงานกับ Zoom ตัว Jin เองกระทำการบางอย่างเพื่อทำให้มีตติ้งรำลึกเหตุการณ์เทียนอันเหมินรวมถึงมีตติ้งที่เกี่ยวกับศาสนาหรือการเมืองถูกปิดหลายครั้ง (ข้อมูลไม่ยืนยันระบุว่าใช้วิธีสร้างคอนเทนต์ที่ผิดกฎแพลตฟอร์มก่อกวนมีตติ้ง เช่น คอนเทนต์เชื้อเชิญด้านความรุนแรง โดยใช้บัญชีปลอม) ซึ่งบางส่วนของมีตติ้งที่โดนปิดเหล่านี้ไม่ได้โฮสต์โดยผู้ใช้งานในประเทศจีน รวมถึงเหตุการณ์เหล่านี้ส่งผลกระทบทำให้ Zoom สั่งปิดบัญชีที่เกี่ยวข้องกับมีตติ้งเหล่านี้บางส่วนด้วย (ตามข่าวเก่า)
ระหว่างการสอบสวน Zoom พบว่าอดีตพนักงานคนนี้มีการแชร์ข้อมูลผู้ใช้จำนวนจำกัดและข้อมูลมีตติ้งเกี่ยวกับการรำลึกเทียนอันเหมินให้ทางการจีน แต่ยังไม่พบว่ามีการแชร์ข้อมูลของผู้ใช้งานนอกจีนหรือข้อมูลองค์กรให้รัฐบาลจีนแต่อย่างใด และแม้ว่าในคำฟ้องจะระบุว่า Jin นำข้อมูลบัญชีและไอดีที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่มณฑลซินเจียงออกมา แต่จากผลการสอบสวนของ Zoom พบว่าข้อมูลเหล่านี้ถูกทำให้ระบุตัวตนไม่ได้แล้ว จึงยังไม่มีเหตุผลที่น่าเชื่อถือว่า Jin นำข้อมูลเหล่านี้แชร์ให้รัฐบาลจีน