เป็นประเด็นต่อเนื่องมาทั้งสัปดาห์กับการซื้อหุ้น GameStop และหุ้นอื่นๆ ของนักลงทุนรายย่อย โดยมีแอพเทรดหุ้น Robinhood เป็นสมรภูมิหลัก จนทำให้ Robinhood ต้องจำกัดการซื้อหุ้นบริษัทเหล่านี้ชั่วคราว จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก
ล่าสุด Robinhood ออกมาชี้แจงและตอบคำถามในประเด็นขัดแย้งต่างๆ แล้ว โดยเริ่มจากอธิบายกระบวนการทำงานเบื้องหลังของ Robinhood ที่มีสถานะเป็นนายหน้า (broker) ของนักลงทุนรายย่อยก่อน
กระบวนการซื้อหรือขายหุ้นผ่าน Robinhood จะต้องใช้เวลา 2 วัน (T+2) ในการโอนหุ้นไปยังผู้ซื้อ และโอนเงินไปยังผู้ขาย โดยผ่านหน่วยงานที่เรียกว่า clearinghouse ที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ ซึ่งต้องถูกกำกับดูแลโดย SEC (ก.ล.ต. สหรัฐ)
การเคลียร์รายการโอนหุ้นจะเกิดขึ้นตอน 10.00 น. ของทุกวัน โดย clearinghouse จะประเมินมูลค่าหลักทรัพย์ของนายหน้า (broker) แต่ละบริษัท ว่าลูกค้าของนายหน้ารายนั้นซื้อหรือขายหุ้นในปริมาณเท่าไร จากนั้นจะคำนวณปริมาณเงินที่นายหน้าต้องจ่าย (หากยอดซื้อรวมมากกว่ายอดขายรวม) หรือรับคืนมา (หากยอดซื้อรวมน้อยกว่ายอดขายรวม) โดยมีสูตรคำนวณที่ค่อนข้างซับซ้อน
สิ่งที่เกิดขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมาคือ ลูกค้าของ Robinhood กว้านซื้อหุ้นในปริมาณมากเป็นพิเศษ ทำให้ clearinghouse กำหนดให้ Robinhood ต้องจ่ายเงินค่าหุ้นมากกว่าเดิมถึง 10 เท่า ผลคือ Robinhood มีเงินไม่พอ เป็นเหตุให้บริษัทต้องระงับการซื้อหุ้นชั่วคราว (แต่ยอมให้ขายออกได้ เพราะช่วยลดปริมาณเงินที่ Robinhood ต้องจ่าย)
Robinhood บอกว่าไม่ได้ตั้งใจจำกัดการซื้อหุ้นของนักลงทุนรายย่อย และยืนยันว่าจะอยู่ข้างนักลงทุนเสมอ
ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน มีข่าวว่า Robinhood ระดมทุนเพิ่มอีก 1 พันล้านดอลลาร์ และขอเปิดวงกู้เงินฉุกเฉินอีก 500 ล้านดอลลาร์ เพื่อการันตีว่ามีเงินสดมากพอในการดำเนินงานต่อไปได้ โดย Vlad Tenev ซีอีโอของ Robinhood ยืนยันว่าเปิดวงเงินกู้เอาไว้เผื่อเฉยๆ ตัวบริษัทเองไม่ได้มีปัญหาการเงิน