Kosta Eleftheriou ผู้พัฒนาแอป FlickType แอปคีย์บอร์ดแบบปาด (swipe) บน Apple Watch ออกมาทวีตแฉปัญหาบน App Store ว่ามีแอปคู่แข่งของเขาและแอปอื่นๆ ที่ใช้งานไม่ได้จริง แต่กลับทำเงินได้เดือนละหลายแสนดอลลาร์สหรัฐ จากระบบจ่ายเงินแบบ subscription รายสัปดาห์ (ที่เมื่อกดจ่ายแล้ว ถึงจะยกเลิกก็ยังเสียเงิน) โดยแอปคีย์บอร์ดปลอมบางแอปถึงกับขโมยวิดีโอโฆษณาของเขาไปใช้เป็นโฆษณาบน Facebook ของตัวเองเลยทีเดียว
Eleftheriou ระบุว่าแอป KeyWatch แอปคีย์บอร์ดบน Apple Watch ที่ลอกเลียนแอปเขา แต่ใช้งานไม่ได้จริง โดยมีเพียงหน้าขาวๆ พร้อมปุ่ม “Unlock Now” ขึ้นมาให้ผู้ใช้จ่าย subscription ที่แม้จ่ายแล้วก็ยังใช้งานไม่ได้อยู่ดี และก่อนหน้านี้ทำเงินได้กว่า 2 ล้านดอลลาร์ต่อปี และหลอกผู้ใช้ได้เรื่อยๆ ด้วยรีวิวและการให้เรตติ้งปลอม
Apple ลบแอป KeyWatch ออกไปจาก App Store เมื่อ Eleftheriou ออกมาแฉ แต่เขาก็บอกว่าไม่ได้มีเพียงแอปนี้เท่านั้นที่หากินแบบนี้ อีกแอปจากผู้พัฒนาเดียวกันอย่าง GPS Speedometer ก็ยังทำเงินได้กว่า สองแสนดอลลาร์สหรัฐต่อเดือนอยู่
นอกจากนี้แอปจากผู้พัฒนาอื่นเช่น Star Gazer+ ที่ผู้ใช้ต้องจ่าย subscription ราคาถึง 9.99 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์เพื่อใช้งาน แม้จะใช้งานได้จริง (แบบไม่ค่อยดีนัก) แต่รีวิวแย่ๆ และคำเตือนจากผู้ใช้ ก็ถูกกลบโดยรีวิวห้าดาวปลอม ที่ Eleftheriou ระบุว่าขึ้นเป็นรายการแรก เพราะผู้พัฒนาซื้อคนมากดให้คะแนนรีวิวปลอมนี้ว่า “helpful” แถมยังมีการให้เรตติ้ง 5 ดาว กว่าเจ็ดหมื่นครั้ง ที่ Eleftheriou เปิดชาร์ตให้ดู ว่าไม่ใช่การให้ดาวตามปกติจากผู้ใช้ทั่วไปแน่นอน
ผู้พัฒนารายอื่นเข้ามาร่วมทวีตแนะนำวิธีแก้ไขปัญหา เช่น Marco Arment ผู้สร้างแอป InstaPaper ที่ระบุว่า Apple ควรจะตัด subscription รายสัปดาห์ออก แล้วให้เหลือต่ำสุดเป็นรายเดือนไปซะ หรือ David Barnard ผู้ก่อตั้ง Contrast ก็รีทวีตดีไซน์หน้าต่างยืนยันการสมัคร subscription ที่เขาออกแบบไว้ในปี 2019 ให้มียอดเงินที่ผู้ใช้ต้องจ่าย ละระยะเวลาสมาชิกอยู่ด้านบนสุด รวมถึงใช้ตัวอักษรที่ใหญ่ขึ้นและชัดเจนขึ้น
Eleftheriou ระบุในทวิตเพิ่มเติมว่า Apple พยายามลบแอปที่เขาแฉออกไปเรื่อยๆ แต่ยังมีแอปอีกมากที่ทำเงินจากวิธีนี้ (subscription รายสัปดาห์ + รีวิวปลอม) หลังจากนั้นเขาก็ทวีตข้อความโฆษณาที่ Apple เคยบอกว่า App Store ปลอดภัยแค่ไหนแนบมาด้วย และบอกว่าอยากให้ Apple ควรเอาจริงเอาจังกับการแก้ปัญหานี้มากขึ้นซะที
ที่มา - @keleftheriou, 9to5Mac