อินเทลเปิดตัว 11th Gen Core สำหรับเดสก์ท็อป (โค้ดเนม Rocket Lake-S) อย่างเป็นทางการ หลังมีซีพียูหลุดมาวางขายก่อน และ AnandTech ซื้อมารีวิวก่อนเป็นสัปดาห์
Rocket Lake-S ที่เปิดตัวชุดแรกมีทั้งหมด 11 รุ่นย่อย ตั้งแต่ Core i5 (6 คอร์ 12 เธร็ด) ไปจนถึง Core i9 (8 คอร์ 16 เธร็ด)
การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือ ซีพียูรุ่นท็อป Core i9 ลดจำนวนคอร์ลงจาก 10 คอร์ 20 เธร็ด ใน 10th Gen Core (Comet Lake-S) มาเหลือ 8 คอร์ 16 เธร็ด เพื่อแลกกับประสิทธิภาพที่ดีขึ้น (เท่ากับว่ารอบนี้ Core i9 และ Core i7 มีจำนวนคอร์เท่ากัน ต่างกันที่ฟีเจอร์การบูสต์คล็อค Thermal Velocity Boost ซึ่งมีเฉพาะใน Core i9)
Rocket Lake ยังใช้กระบวนการผลิต 14 นาโนเมตรเช่นเดิม แต่อัพเกรดมาใช้สถาปัตยกรรมย่อยตัวใหม่ Cypress Cove ที่นำมาจาก Sunny Cove ฝั่งโน้ตบุ๊ก มีจำนวนคำสั่งต่อรอบสัญญาณนาฬิกาเพิ่มขึ้น 19% จากรุ่นก่อน
ของใหม่อย่างอื่นคือ รองรับ PCIe 4.0 ตามที่เคยประกาศไว้, ขยับสเปกของแรมที่รองรับเพิ่มเป็น DDR4-3200 (รุ่นก่อน 2933), ตัวถอดรหัสวิดีโอ AV1 10 บิต, ชุดคำสั่ง AVX-512 ที่เดิมมีเฉพาะในฝั่งเซิร์ฟเวอร์ Xeon
Core 11th Gen ยังมีจีพียูในตัวเหมือนเดิม (ยกเว้นรุ่นห้อยท้าย F ที่ไม่มีจีพียูมาให้) โดยยังเป็นจีพียู Intel UHD (ไม่ใช่ Xe แต่ใช้สถาปัตยกรรมเดียวกับ Xe) แต่เป็นรุ่นใหม่ซีรีส์ 7xx แทนซีรีส์ 6xx ในซีพียูเดสก์ท็อป 10th Gen และเพิ่มรุ่นห้อยท้ายรหัส T ที่กินไฟต่ำ 35 วัตต์เข้ามาด้วย
ตัวชิปเรือธงของรอบนี้คือ Core i9-11900K มีคล็อคสูงสุด 5.3 GHz (คอร์เดียว) 8 คอร์ 16 เธร็ด แคช 16MB ราคาขายส่งอยู่ที่ตัวละ 539 ดอลลาร์ แพงขึ้นจาก 10th Gen
ที่มา - Intel