Chris Urmson ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของบริษัทรถยนต์ไร้คนขับ Aurora ให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg มีประเด็นที่น่าสนใจคือการเปรียบเทียบเทคโนโลยีของ Aurora กับฟีเจอร์ Autopilot ของ Tesla
Chris Urmson ถือเป็นผู้ยิ่งใหญ่แห่งวงการรถยนต์ไร้คนขับ เขาเคยเป็นอาจารย์สอนหุ่นยนต์ที่ Carnegie Mellon University และพาทีมชนะการแข่งขัน DARPA Challenge ในช่วงปี 2004-2007 หลังจากนั้น มาเป็นหัวหน้าทีมรถยนต์ไร้คนขับของกูเกิล จนกระทั่งลาออกในปี 2016 ด้วยเหตุผล (ที่เพิ่งเปิดเผยในบทสัมภาษณ์นี้) ว่าเขาไม่ได้รับเลือกให้เป็นซีอีโอของ Waymo (หมายเหตุ: John Krafcik ซึ่งเป็นคนที่ได้รับเลือกเป็นซีอีโอ เพิ่งประกาศข่าวลาออกเมื่อต้นเดือนนี้ หลังเป็นซีอีโอมา 5 ปี)
Urmson ก่อตั้ง Aurora ในปี 2016 ร่วมกับ Sterling Anderson อดีตหัวหน้าทีม Tesla Autopilot โดยแนวทางของ Aurora คือพัฒนาเฉพาะตัวเทคโนโลยีขับรถอัตโนมัติเท่านั้น ไม่ได้ผลิตรถเองหรือให้บริการแท็กซี่เหมือนกับคู่แข่งรายอื่นๆ ปัจจุบัน Aurora มีลูกค้าอย่าง Volvo และบริษัทรถบรรทุก PACCAR นำระบบขับขี่อัตโนมัติไปใช้กับรถบรรทุกขนส่งสินค้าที่มักต้องเดินทางไกล และ Toyota ที่มีสัญญาพัฒนารถแท็กซี่ขับเคลื่อนอัตโนมัติให้
Urmson มองว่าระบบขับรถบรรทุกของ Aurora จะแซงหน้าคนขับที่เป็นมนุษย์ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เขายังถูกถามว่ามองเทคโนโลยี Tesla Autopilot อย่างไร เขาบอกว่าสิ่งที่ Tesla ทำนั้นน่าประทับใจ (very impressive) แต่พวกเราตอนปี 2010 ทำได้ดีกว่านี้อีก
ล่าสุด Aurora เพิ่งซื้อบริษัทรถยนต์ไร้คนขับของ Uber เมื่อปลายปี 2020 โดย Uber เข้ามาถือหุ้นใน Aurora ด้วย (บริษัทยักษ์ใหญ่รายอื่นที่มีหุ้นคือ Amazon)
การซื้อบริษัท Uber ATG ถือว่าน่าสนใจเช่นกัน เพราะ Aurora มีพนักงานประมาณ 600 คน แต่ Uber ATG มีถึง 1,000 คน เท่ากับว่า Aurora ต้องมาซื้อบริษัทที่มีขนาดใหญ่กว่าตัวเอง (ในแง่จำนวนพนักงาน) ในด้านบวกทำให้ Aurora มีทรัพยากรไปต่อสู้กับบริษัทใหญ่ๆ (อย่าง Tesla หรือ Waymo) ได้ดีขึ้น, ได้มีพันธมิตรเป็นบริษัทขนส่งยักษ์ใหญ่คือ Uber แต่ในอีกทาง แรงกดดันในแง่ค่าใช้จ่ายก็เพิ่มมากขึ้นไปด้วย ซึ่ง Urmson ก็ยอมรับว่าคงต้องระดมทุนเพิ่มอีก
Chris Urmson พูดที่งาน TED Talk ในปี 2015 (ตอนนั้นยังอยู่กับกูเกิล)
ที่มา - Bloomberg, Ars Technica