Apple ปล่อยอัพเดต macOS Big Sur เวอร์ชั่น 11.3 แล้ว เพิ่มการรองรับการใช้งาน AirTag ในแอป Find My, ปรับปรุงการรันแอป iOS และ iPadOS บนเครื่อง Mac ที่ใช้ชิป M1 ให้ดีขึ้น เช่นเพิ่มคีย์ลัดแทนการคลิก แอป iPad รันในหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นได้หากหน้าจอเครื่องรองรับ และเพิ่ม Controller Emulator ให้ผู้ใช้ใช้คีย์บอร์ดเครื่อง Mac แทนจอยสำหรับควบคุมเกม iOS, iPadOS ได้
Safari เพิ่มการปรับแต่งหน้าจอแยกส่วน ต่างๆ ของหน้า Start Page เช่น Favorites, Reading List, Siri Suggestions, Privacy Report, และเพิ่ม API เช่น Web Speech API ให้นักพัฒนาใช้การพูดด้วยเสียงสำหรับการใส่บทบรรยายแบบเรียลไทม์, การพิมพ์ด้วยเสียง และการใช้งานหน้าเว็บด้วยคำสั่งเสียงได้
แอป Reminder เพิ่มการเรียงลำดับความสำคัญของการแจ้งเตือนจากวันครบกำหนด, วันที่สร้าง, ความสำคัญ หรือตามลำดับอักษร และผู้ใช้สามารถเลือกพิมพ์รายการจาก Reminder ได้ด้วยการไปที่ File > Print
แอป Apple Music สามารถเล่นเพลงต่อเนื่องได้อัตโนมัติ หลังเล่นเพลงในอัลบั้มหรือเพลย์ลิสต์จนหมดได้แล้ว เปิดใช้โดยการคลิกที่เมนูสามจุดด้านขวาบน แล้วคลิกที่สัญลักษณ์ infinity และเพิ่ม City Chart แนะนำเพลงฮิตในหลากหลายเมืองทั่วโลก
นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ เช่น เพิ่มโทนสีผิวที่แตกต่างกันสำหรับอีโมจิคนสองคนจูบกัน เพิ่มอีโมจิใบหน้ารูปแบบใหม่ รูปหัวใจแบบใหม่ และอีโมจิผู้หญิงมีเครา รวมถึงเพิ่มโทนเสียงที่หลากหลายขึ้นสำหรับ Siri เพิ่มการรองรับโหมด Hibernation สำหรับ Mac ชิป M1 และเพิ่มการรองรับจอย PS5, Xbox Series X|S สำหรับ Mac
Apple ยังระบุกับ Tech Crunch เพิ่มเติมว่ามีการอุดช่องโหว่ที่อาจทำให้ malware ใช้บั๊กเพื่อทะลุการป้องกันของ macOS ได้ ผ่านการหลอกผู้ใช้ให้ดับเบิ้ลคลิกเปิดไฟล์เอกสาร ที่วิศวกรด้านความปลอดภัย Cedric Owens เป็นผู้ค้นพบในช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา รวมถึง Apple ยังกลับไปแพตช์ macOS เวอร์ชั่นเก่า และอัพเดต XProtect ให้อุดช่องโหว่นี้ด้วย
ผู้ใช้สามารถดูรายการอัพเดตแบบเต็มได้ที่หน้าเว็บของ Apple และเช่นเคย หากมีข้อมูลสำคัญ หรือมีแอปสำคัญที่ต้องใช้งาน และไม่แน่ใจว่าจะมีปัญหากับเวอร์ชั่นนี้หรือไม่ ควรรอสักพักก่อนอัพเดต และทำการสำรองข้อมูลสำคัญก่อนอัพเดตทุกครั้ง
ที่มา - Apple, Tech Crunch