มือถือที่ไม่ใช่เรือธง โดยส่วนมากมักจะใส่ใจกล้องหลังหลักเป็นพิเศษ และพยายามลดต้นทุนจนกล้องหน้าด้อยกว่ากล้องหลังมาก อย่างเช่นฟีเจอร์ OIS หรือระบบกันสั่นที่ตัวเลนส์ ไม่ใช่แค่ใช้ซอฟต์แวร์ ที่มักมีแต่ในกล้องหลังเท่านั้น แต่ Vivo V21 5G เป็นครั้งแรกที่ Vivo ให้ระบบกันสั่น OIS ในกล้องหน้า 44MP มาด้วย ทำให้ถ่ายภาพเซลฟี่ได้แม้กล้องจะสั่นไหว และถ่ายเซลฟี่กลางคืนในโหมด Super Night Selfie ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
Vivo V21 5G เป็นมือถือรุ่นกลางที่เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา ใช้หน้าจอ AMOLED 24-bit ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด 1800x2400 พิกเซล อัตรารีเฟรช 90Hz ใช้ชิป Mediatek Dimensity 800U รองรับ 5G นอกจากกล้องหน้า 44MP พร้อม OIS แล้ว ยังมีกล้องหลังสามกล้อง คือ กล้องหลัก 64MP กล้องไวด์ 8MP และกล้องมาโคร 2MP
Vivo V21 5G มีสามสีคือ Dusk Blue, Sunset Dazzle และ Arctic White รุ่นที่ผู้เขียนนำมารีวิว เป็นรุ่น ความจุ 128GB + แรม 8GB สี Sunset Dazzle สีรุ้งที่จะแสดงเฉดสีแตกต่างกันไปเมื่อกระทบแสงอาทิตย์ ราคาเริ่มต้น 12,999 บาท นอกจากรุ่นนี้ยังมีรุ่นความจุ 256GB + แรม 8GB ที่ราคา 14,999 บาทเป็นอีกตัวเลือก
แกะกล่อง
ภายในกล่องแถมเคสพลาสติก TPU ใส หูฟังแบบพอร์ต 3.5 มิลลิเมตร พร้อมตัวแปลงเป็น USB-C, หัวชาร์จเร็ว 33W พร้อมสายชาร์จ USB-A to USB-C ชาร์จแบตเตอรี่ความจุ 4,000W ของ V21 5G ได้ 63% ภายใน 30 นาที
ปลดล็อกได้ด้วยใบหน้าและลายนิ้วมือ
Vivo V21 5G มีระบบปลดล็อกให้เลือกใช้ทั้งแบบสแกนใบหน้าแบบออปติคัล และสแกนลายนิ้วมือที่ความเร็วใกล้เคียงกัน ซึ่งสะดวกมากๆ ในการเปลี่ยนไปใช้ลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อกเครื่อง และใช้สแกนใบหน้า เวลาที่ไม่จำเป็นต้องสวมแมสก์
ตัวเครื่องและพอร์ตเชื่อมต่อ
ตัวเครื่องหน้าจอขนาด 6.44 นิ้ว น้ำหนัก 177 กรัม หนา 7.39 มิลลิเมตร ถือว่าค่อนข้างบางและเบาสำหรับมือถือในปีนี้ ด้านขวามีปุ่ม เพิ่ม-ลด เสียง และปุ่มพาวเวอร์ พอร์ตชาร์จเป็นแบบ USB-C ไม่มีรูหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร ลำโพงเป็นแบบลำโพงเดี่ยวอยู่ด้านล่าง ให้เสียงดัง ชัดเจน
ประสิทธิภาพ UI และการใช้งาน
หน้าจอของ Vivo V21 5G เป็นแบบ AMOLED-24 bit แสดงเฉดสีได้ 16 ล้านสี พร้อมอัตรารีเฟรช 90Hz ที่ทำให้การเลื่อนหน้าจอลื่นไหลในทุกแอป ตัวเครื่องมาพร้อม Android 11 ครอบทับด้วย Funtouch OS ของ Vivo ซึ่งนอกจากจะใช้งานค่อนข้างง่ายแล้ว ยังให้ผู้ใช้เลือกแอปที่ต้องการลงได้ตั้งแต่เปิดใช้งาน ทำให้ไม่ต้องมาไล่ลบแอปที่ไม่ต้องการภายหลัง
ด้านประสิทธิภาพ Vivo V21 5G ใช้ซีพียู Mediatek Dimensity 800U ผู้เขียนทดสอบประสิทธิภาพด้วยแอป Geekbench ได้คะแนนประมวลผลแบบแกนเดียวไป 542 คะแนน และแบบหลายแกนที่ 1504 คะแนน
แรมของ Vivo V21 5G มาพร้อมระบบ Extended Ram คล้ายระบบ virtual memory บนคอมพิวเตอร์ ที่จะใช้ความจุของหน่วยความจำแฟลชภายในมาเสริมเป็นแรม ทำให้เหมือนมีแรมเพิ่มขึ้นมาอีกถึง 3GB เปิดแอปทำงานแบบมัลติแทสก์พร้อมกันได้มากขึ้น แต่หากไม่ต้องการใช้งาน ก็สามารถปิดได้ในหน้าตั้งค่าแรมและหน่วยความจำ
กล้อง
กล้องหลังของ Vivo V21 5G เป็นแบบ 3 กล้อง มาพร้อมระบบ Eye Autofocus ปรับโฟกัสอัตโนมัติที่สายตาเมื่อถ่ายภาพบุคคล ถ่ายภาพซ้อนแบบ Double Exposure ได้ด้วย ส่วนสเปกของทั้งสามกล้อง มีดังนี้
ตัวอย่างภาพถ่าย
จุดเด่นของ Vivo V21 คือกล้องหน้า 44MP ที่มาพร้อมเทคโนโลยีกันสั่น OIS รุ่นแรกของโลกและระบบ Autofocus ทำให้ไม่ว่าจะถ่ายเซลฟี่แบบเคลื่อนไหวไปมามากแค่ไหน ภาพที่ได้ก็นิ่ง ไม่มีเบลอ แถมยังทำให้โหมดถ่ายภาพเซลฟี่ตอนกลางคืนอย่าง Super Night Selfie ทำงานได้ดีขึ้นแสงน้อยแค่ไหนก็ถ่ายได้แบบหายห่วง
นอกจากนี้ยังถ่ายวิดีโอกล้องหน้าได้ที่ความละเอียดสูงสุด 4K (4K Selfie VDO) ถ่ายกลางคืนก็ชัดด้วย Spotlight selfie VDO ภาพไม่มีสั่นไหวด้วย Ultra Stable VDO ใช้ระบบ OIS+EIS ทั้งกันสั่นแบบออปติคัลและอิเล็กทรอนิกส์ทำงานประสานกัน และถ่ายวิดีโอพร้อมกันได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ด้วย Dual-View VDO ได้อีกด้วย
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า
สรุป
Vivo V21 5G เป็นมือถือที่เหมาะกับคนรักการเซลฟี่อย่างแท้จริง เพราะไม่ว่าจะขยับตัวถ่าย ภาพสั่นไหว หรือแสงน้อยแค่ไหนก็ถ่ายได้ชัดเจน ตัวเครื่องที่บาง เบา จับถนัดมือ ยิ่งทำให้การใช้งานและถ่ายภาพเป็นระยะเวลานานทำได้สะดวกยิ่งขึ้น ไม่เมื่อยมือ รวมถึงชิป Mediatek Dimensity 800U ที่รองรับ 5G ก็ทำให้การอัพโหลด ดาวน์โหลดภาพ และการใช้งานเครือข่ายต่างๆ รวดเร็วยิ่งขึ้น