เว็บไซต์ Android Authority สรุปเส้นทางชีวิตของ OnePlus ที่ช่วงหลังเปลี่ยนไปมาก โดยเฉพาะปัญหาอัพเดตระบบปฏิบัติการช้าลง กลายเป็นจุดขายเดิมเรื่องอัพเดตเร็วหายไปแล้ว
Android Authority บอกว่าจุดเริ่มต้นของ OnePlus คือการเน้นกลุ่มแฟนแอนดรอยด์แบบฮาร์ดคอร์ สื่อสารโดยตรงผ่านเว็บบอร์ด รอมหน้าตาใกล้เคียง Pure Android ที่สุด อัพเดตรวดเร็ว แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไป OnePlus เริ่มกลายเป็นแบรนด์กระแสหลัก ซอยรุ่นเยอะขึ้น ขยายตลาดมาจับกลุ่มลูกค้าทั่วไปที่ไม่สนใจความเร็วในการอัพเดตมากนัก ทำให้ OnePlus มีฐานลูกค้า 2 กลุ่มที่ต่างกันชัดเจน และผลคือ OnePlus เลือกลูกค้ากลุ่มหลัง ทิ้งลูกค้ากลุ่มแรก
จำนวนสินค้าของ OnePlus ยังมีผลต่อการอัพเดตด้วย ในปีแรกๆ OnePlus ออกมือถือใหม่ปีละรุ่นเท่านั้น จากนั้นเริ่มขยับมาออกปีละ 2 รุ่น (ห้อย T) ในปี 2016 เป็นต้นมา เริ่มออกรุ่น Pro ด้วยในปี 2019 และภายหลังก็ขยายไลน์ OnePlus Nord ที่ซอยรุ่นย่อยอีกเยอะมาก แถม Nord ยังเป็นการนำมือถือจากฝั่ง Oppo มารีแบรนด์ ทำให้เสียเอกลักษณ์แบบเดิมไป
การออกมือถือเยอะขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ทีมซอฟต์แวร์ Oxygen OS ทำงานไม่ทัน ผลคืออัพเดตเวอร์ชัน OS ได้ช้าลงจากเดิมมาก เช่น OnePlus 7 ต้องรออัพเดต Android 11 นานถึง 6 เดือน
แม้ OnePlus ประกาศรวมเข้ากับ Oppo แล้ว แต่ Pete Lau ซีอีโอยังยืนยันว่า Oxygen OS ยังอยู่เหมือนเดิม และการรวมกับ Oppo จะทำให้มีทรัพยากรมาแก้ปัญหาทำรอมไม่ทันได้มากขึ้นด้วย ก็ต้องรอดูกันว่า OnePlus จะทำได้ตามที่สัญญาไว้กับแฟนๆ หรือไม่
ที่มา - Android Authority