Blognone

AIS Business ร่วมส่งเสริมธุรกิจยุคดิจิทัล กับกรณีตัวอย่าง การปรับตัวของ Toyota Motor เพื่อสู้ศึก Disruption ในธุรกิจยานยนต์

authorby sponsored
published on28 June 2021 - 07:32

AIS Business ได้จัดงาน AIS Business Digital Future 2021 - Your Trusted Smart Digital Partner รูปแบบของ Virtual Conference ในหัวข้อ Connected Automotive & Ecosystems in Thailand โดยมีคุณสุรศักดิ์ สุทองวัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด มาพูดถึงการปรับตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างเป็นระบบ เพื่อต่อสู้กับ Disruption โดยใช้เทคโนโลยียุคดิจิทัลและ IoT หรือ Internet of Things ในการปรับปรุงธุรกิจจากผู้ผลิตรถยนต์ ไปสู่ผู้ให้บริการในการขับเคลื่อน

No Description

คุณสุรศักดิ์ระบุว่าธุรกิจยานยนต์ ต้องพบความเปลี่ยนแปลงในทุกๆ รอบ 100 ปี ตั้งแต่ยุครถลากด้วยแรงงานคนหรือสัตว์, การขนส่งด้วยระบบรางและรถจักรไอน้ำ, ระบบเครื่องยนต์สันดาปภายใน ในรถยนต์ที่ขนาดเล็กลง

ปัจจุบัน ตลาดผู้ผลิตรถยนต์กำลังพบกับความเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง โดยมุ่งไปที่พลังงานสะอาด เช่น รถยนต์ใช้พลังงานไฟฟ้า หรือไฮโดรเจน และในอีกด้าน ความต้องการในการเดินทางของคนก็เปลี่ยนแปลงไป โดยมีการใช้ข้อมูลและแพลตฟอร์มดิจิทัลเข้ามาเกี่ยวข้อง

No Description

แม้รูปแบบการใช้งานจะเปลี่ยนไป แต่ความต้องการของคนยังเป็นการเคลื่อนที่ (mobility) เหมือนเคย โตโยต้าจึงประกาศเปลี่ยนแปลงองค์กรตัวเอง จากบริษัทผู้ผลิตยานยนต์ มาเป็น Mobility Company หรือ MaaS (Mobility as a Service) ตั้งแต่ปี 2018 โดยเปลี่ยนจากการเป็นแค่บริษัทผู้ผลิตรถยนต์เพื่อขาย มาเป็นผู้ให้บริการการขับเคลื่อน ซึ่งท้าทายต่อวัฒนธรรมองค์กรและความพร้อมของบุคลากรที่มีอยู่เดิม แต่ก็เป็นการเปิดกว้างในการสร้างสรรค์นวัตกรรมแห่งอนาคตมากขึ้น

คุณสุรศักดิ์ยกตัวอย่างว่า การ Disruption ครั้งใหญ่ของอุตสาหกรรมยานยนต์ จากบทบาทของแพลตฟอร์มดิจิทัลในยุคต่อไป จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง 4 ประเด็น 4 ตัวย่อ เรียกรวมกันได้ว่า CASE ซึ่งได้แก่

  • C (Connected) คือ การเชื่อมต่อ การขับขี่รถยนต์ไม่ได้จบแค่ในตัวรถอีกต่อไป แต่ต้องมีการเชื่อมต่อข้อมูลจากรถยนต์ไปยังอุปกรณ์ภายนอก โดยใช้เทคโนโลยี IoT ซึ่งมีการติดตั้งอุปกรณ์ Telematics หรืออุปกรณ์ตรวจวัดต่างๆ และมีการส่งข้อมูลผ่านสู่ระบบคลาวด์ผ่านโครงข่ายไร้สายของผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่
  • A (Autonomous) คือ รถยนต์จะมีความสามารถในการขับเคลื่อนแบบอัตโนมัติมากขึ้น ตั้งแต่ระดับที่ยังต้องการคนควบคุมมากไปถึงน้อย จนถึงระดับที่รถยนต์สามารถตัดสินใจได้ด้วยตนเองทั้งหมดในอนาคต
  • S (Sharing) คือ บริการแบ่งปันรถยนต์ใช้งานร่วมกัน รูปแบบการใช้งานและชำระเงินที่แตกต่างจากเดิม ผ่านบริการรูปแบบใหม่ต่างๆ เช่น Grab, Uber
  • E (Electrification) คือ การใช้พลังงานไฟฟ้า หรือกลุ่ม xEV ซึ่งมีหลายรูปแบบ ตั้งแต่ระบบ Hybrid ไปจนถึงระบบไฟฟ้า

ธุรกิจรถยนต์เองก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อสู้กับ Disruption ในยุคใหม่ คุณสุรศักดิ์ยกตัวอย่างเรื่องธุรกิจถ่ายภาพด้วยฟิล์มที่ปรับตัวช้า ไม่ทันกาลกับยุคกล้องดิจิทัล มีวัฒนธรรมองค์กรที่ติดกับความสำเร็จแบบเดิมๆ และเป็นตัวฉุดรั้งการเปลี่ยนแปลงเสียเอง

โตโยต้ามอเตอร์จึงต้องเปลี่ยนแปลงองค์กรจากการเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ ไปเป็นผู้ให้บริการในการขับเคลื่อน โดยมีมุมมองปัญหาใหม่ที่ทันสมัย ทั้งการขับขี่ที่ผู้ซื้อรถอาจไม่ได้โฟกัสแค่ความสนุกในการขับรถด้วยตัวเองอีกต่อไป แต่ต้องการความสะดวกสบายมากขึ้นจากระบบอัตโนมัติ ไปจนถึงการใช้งานรถส่วนตัวที่ลดลงจากการทำงานจากบ้าน และบริการไรด์แชริ่ง ซึ่งผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ต้องมองเห็นและปรับตัวให้ทัน

การเปลี่ยนแปลงทั้ง 4 ประเด็น หรือ CASE ในข้างต้นนั้น สำหรับประเทศไทย คุณสุรศักดิ์มองว่าตัว C หรือ Connected เอง น่าจะเป็นส่วนที่เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนที่สุด ซึ่งโต้โยต้าได้เริ่มการเปลี่ยนแปลงในการเชื่อมต่อของข้อมูลนี้ โดยมีการติดตั้ง Wifi Box บนรถตั้งแต่ปี 2017 และติดตั้งอุปกรณ์ Telematics (LDCM) หรืออุปกรณ์รวบรวมข้อมูลที่ส่งผ่านเครือข่ายมือถือได้ในปี 2020 บนรถยนต์มากกว่า 220,000 คัน ในประเทศไทย

อุปกรณ์การเชื่อมต่อนี้จะเชื่อมโยงข้อมูลจากรถยนต์ไปยังแอปพลิเคชันต่างๆ และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในด้านการเชื่อมต่อต่างๆ ของบริษัท เช่น

  • Connected Work การสร้างเครือข่ายเชื่อมโยง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานตั้งแต่อุปทานในภาคการผลิต ไปจนถึงอุปสงค์ในภาคการจำหน่าย โดยใช้ข้อมูลที่ได้รับเข้ามาเชื่อมโยง เพิ่มความแม่นยำตั้งแต่การผลิต การขนส่งรถยนต์ การบริหารจัดการ Stock รถยนต์ และการจำหน่ายรถยนต์
  • Connected Value Chain การนำข้อมูลมาพัฒนาเครือข่าย Value Chain ของอุตสาหกรรมรถยนต์ช่วยเชื่อมโยงโตโยต้ากับการเปลี่ยนแปลงบริการทางการเงินของรถยนต์ ตั้งแต่ไฟแนนซ์ของรถ ไปจนถึงการทำประกันภัย การติดตามเมื่อรถเกิดอุบัติเหตุ การบริการหลังการขาย และการประเมินสภาพรถในการขายรถใช้งานแล้ว
  • Connected Business การนำข้อมูลมาช่วยสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงและมองหาธุรกิจใหม่ ร่วมกับ Partner ที่จะช่วยกันสร้างผลประโยชน์ให้กับผู้บริโภค โดยใช้ Platform T-Connect เช่น กระเป๋าเงิน T-Wallet, การทำ Loyalty Program, Point & Privilege หรือการเช่าใช้รถยนต์ส่วนบุคคล KINTO ของโตโยต้า

สำหรับธุรกิจที่กำลังจะที่ถูก Disrupt เช่น ในอุตสาหกรรมยานยนต์นั้น การเริ่มเปลี่ยนแปลงควรต้องเริ่มหา Customer Pain Point, Business Pain Point หรือ New Businessโตโยต้าเองได้ใช้ แพลตฟอร์มดิจิทัลเข้ามาแก้ไขปัญหาเหล่านี้ นำความต้องการและความพร้อมของผู้ซื้อ เข้ามาเชื่อมโยงกับการขาย ให้ทำได้รวดเร็วและแม่นยำมากยิ่งขึ้น พร้อมคัดเลือกและเชื่อมโยง Partner และทีมที่มีความสามารถในการต่อยอดและเติมเต็มเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วทั้งสถาบันการเงิน ศูนย์จำหน่าย แพลตฟอร์ม และช่องทางอื่นๆ ในอนาคต

ฝั่ง AIS Business เป็นอีกหนึ่งในพาร์ทเนอร์ธุรกิจที่พร้อมจะรองรับการเปลี่ยนแปลงและสู้กับ Disruption ในยุคดิจิทัล ที่จะให้บริการเชื่อมต่อข้อมูลธุรกิจต่างๆ ไปจนถึงแพลตฟอร์มเครือข่ายที่พร้อมรองรับอนาคตและการเปลี่ยนแปลง โดยมีโตโยต้ามอเตอร์ เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างธุรกิจที่สำคัญ

ผู้ที่สนใจบริการธุรกิจจาก AIS เพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นเครือข่าย IoT บริการคลาวด์ หรืออื่นๆ สามารถดูข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ได้ที่หน้าเว็บไซต์ของ AIS Business ได้ทันที หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ AIS Business ที่ดูแลท่านอยู่

Blognone Jobs Premium