Skull & Bones เป็นเกมออนไลน์แนวโจรสลัด พัฒนาโดย Ubisoft Singapore เป็นทีมหลัก เริ่มต้นพัฒนาจากการเป็นภาคเสริมของ Assassin’s Creed Black Flag ในปี 2013 ก่อนจะแยกออกมาเป็นเกมเดี่ยวเต็มตัว
เกมนี้เปิดตัวครั้งแรกในงาน E3 ปี 2017 ก่อนจะโชว์เกมเพลย์เพิ่มเติมในปี 2018 และมีกำหนดวางจำหน่ายในปีเดียวกัน
ตัวเกมถูกเลื่อนวางจำหน่ายหลายครั้ง จากปี 2018 เป็นปี 2019 จากปี 2019 ไปเป็นหลังเดือนมีนาคม 2020 หลังมีนาคม 2020 ไปเป็นช่วงเมษายน 2021 ถึงมีนาคม 2022 และล่าสุดถูกเลื่อนไปเป็นช่วง เมษายน 2022 จนถึงมีนาคมปี 2023 แทน รวมถูกเลื่อนมาแล้ว 4 ครั้งในระยะเวลา 3 ปี
เว็บไซต์ Kotaku สัมภาษณ์ทีมงานและอดีตทีมงานไม่เปิดเผยตัวตนกว่า 20 ชีวิต ได้ความว่าตัวเกมใช้เวลาพัฒนามา 8 ปี หมดเงินไปแล้วกว่า 120 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ผ่านการรีเฟรช เปลี่ยนเซ็ตติ้งหลายรอบ ทั้งเคยจะใช้โลกจริงและมหาสมุทรอินเดียเป็นฉากหลัง ไปจนถึงใช้โลกจำลองชื่อ Hyperborea
เกมเพลย์เองก็ถูกเปลี่ยนหลายแบบ ทั้งเป็นเกมที่จบเป็นแมตช์ไปแบบ Rainbow Six Siege แต่มีโหมด Hunting Grounds ซึ่งคล้าย Dark Zone ของ The Division ไปจนถึงพยายามทำตามเกมแนวเอาตัวรอดแบบ Rust หรือ Ark: Survival Evolved และปัจจุบันก็ยังไม่มีใครแน่ใจว่าเกมจะออกมาแบบไหน
ทีมงานหลายคนที่ให้สัมภาษณ์ต่างก็เล่าสาเหตุต่างกันไป ทั้งทีมบริหารที่แก่งแย่งอำนาจและขาดทิศทาง บางคนก็ระบุว่าเกมเร่งสร้างเกินไป และทีมงาน Ubisoft Singapore ทีมที่เคยทำเกมฝั่ง Assasin’s Creed และทีมฝั่ง Ghost Recon Phantoms มีระบบการทำงานต่างกัน และทำให้เกิดการขัดแย้งทางวัฒนธรรมการทำงาน
ทีมงานส่วนใหญ่บอกว่าถ้าเป็นบริษัทอื่น โปรเจกต์เกมนี้คงถูกพับไปนานแล้ว และตอนนี้เกมนี้ “ใหญ่เกินกว่าจะพัง” เพราะ Ubisoft ลงเงินและเวลาไปมากกับเกมนี้ นอกจากนี้ Ubisoft ติดสัญญารับเงินสนับสนุนกิจการจากรัฐบาลสิงคโปร์ ภายใต้เงื่อนไขว่าต้องออกเกมไอพีใหม่ที่สร้างโดยทีม Ubisoft Singapore ให้ได้อีกด้วย
ปัจจุบัน Ubisoft ยืนยันกับ Kotaku ว่าตัวเกมผ่านขั้น Alpha แล้ว และจะเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมในอนาคต แต่จากปัญหาหลากหลายที่ Kotaku รายงาน ก็ยังไม่แน่ชัดว่าตัวเกมจะออกตามกำหนดการล่าสุดคือภายใน เมษายน 2022 จนถึงมีนาคมปี 2023 ได้หรือไม่ คงต้องติดตามกันต่อไป
ที่มา - Kotaku