รีวิว Galaxy Z Flip 3 รอบสองของ Flip ฟีเจอร์ครบครันขึ้น ในราคาที่ถูกลง

by mheevariety
26 August 2021 - 05:25

มือถือจอพับได้ เป็นอีกนวัตกรรมฟอร์มแฟกเตอร์ของสมาร์ทโฟน ที่ก่อนหน้านี้ดูจะมีแต่รูปทรงเดิมๆ ติดต่อกันมานานหลายปี จนกระทั่งมาเป็น Galaxy Z Flip ในปีก่อน ที่เปิดตัวมาในราคา 44,990 บาท แต่ยังมีสเปกที่ด้อยกว่า ไม่กันน้ำ หน้าจอแบบพับได้ก็ยังไม่แข็งแรงนัก แถมมีราคาสูง

มาคราวนี้ มือถือจอพับได้รุ่นใหม่ของ Samsung ที่แม้จะใช้ชื่อว่า Galaxy Z Flip 3 แต่เป็นรุ่นที่สองของตระกูล Z Flip ส่วนเลข 3 นั้น กระโดดข้ามมาเพื่อให้เข้ากันได้กับ Galaxy Z Fold 3 และดูเหมือนว่านอกจากตัวเลขที่ก้าวกระโดดแล้ว การพัฒนาฟีเจอร์ต่างๆ ในการใช้งานจริงของ Z Flip 3 ก็ก้าวกระโดดจากรุ่นแรกพอสมควร แถมยังมาในราคาที่จับต้องได้มากขึ้น ที่ 34,900 บาท ไล่เลี่ยกับมือถือเรือธงตัวท็อปทั่วไปในปัจจุบัน

สเปก

  • หน้าจอ AMOLED ด้านนอก 1.9 นิ้ว ความละเอียด 260x512 พิกเซล
  • หน้าจอ AMOLED ภายใน 6.7 นิ้ว ความละเอียด 2640x1080 พิกเซล อัตรารีเฟรช 120Hz
  • ชิป Snapdragon 888
  • แรม 8GB
  • หน่วยความจำภายใน 128GB และ 256GB
  • กล้องหน้า 10MP
  • กล้องหลัง 2 กล้อง เป็นกล้องไวด์ กับอัลตร้าไวด์ ความละเอียด 12MP ทั้งคู่
  • แบตเตอรี่ 3,300mAh ชาร์จด้วย USB-C
  • กันน้ำ IPX8
  • รัน Android 11 ครอบด้วย One UI 3.5

หน้าจอและลักษณะภายนอก

เริ่มต้นที่หน้าจอด้านนอกหรือ cover screen ที่ใหญ่ขึ้นจาก 1.1 นิ้วในรุ่นแรก เป็น 1.9 นิ้ว ความละเอียด 260x512 พิกเซล เมื่อมีขนาดใหญ่ขึ้น ก็ใช้งานได้จริงมากขึ้น ทั้งเพื่อถ่ายรูป หรือใช้เพื่ออ่านแจ้งเตือน โดยผู้ใช้จะสามารถเปลี่ยนสไตล์นาฬิกา หรือเปลี่ยนวอลล์เปเปอร์ของหน้าจอภายนอกได้ในการตั้งค่า

Samsung ให้ widget บนหน้าจอภายนอกมา 6 ชนิดคือ เครื่องเล่นเพลง, สภาอากาศ, ตารางสิ่งที่ต้องทำประจำวัน, การตั้งปลุกครั้งต่อไป, Samsung Health และนาฬิกาจับเวลา โดยสามารถเลือกให้ widget แต่ละชนิดแสดงหรือไม่แสดงได้ในการตั้งค่าเช่นกัน

ตัวเครื่องขณะพับจะหนาเล็กน้อย มีลักษณะคล้ายคลึงกับตลับแป้ง ยังมีช่องว่างตรงกลางเครื่องอยู่ ไม่ได้พับทบกันสนิท

หน้าจอภายใน และการใช้งาน

เมื่อเปิดฝาเครื่องมา จะพบกับหน้าจอภายในที่คราวนี้เป็นหน้าจออัตรารีเฟรช 120Hz ทำให้การใช้งานลื่นไหลมากขึ้น และสิ่งที่หลายๆ คนน่าจะสงสัยคือรอยพับตรงกลางจอ เห็นได้ชัดแค่ไหน คำตอบคือในการทั่วไป แทบจะไม่รู้สึกถึงรอยพับเลย หากไม่ตั้งใจขยับจอเครื่องให้สะท้อนกับแสง และหน้าจอมีความสว่างมากพอสู้แสงได้ทั้งในและนอกอาคาร แบตเตอรี่อยู่ได้เต็มวัน โดยไม่รู้สึกว่าน้อยกว่ามือถือปกติทั่วไป

เมื่อกางออกมาเต็มที่ ตัวเครื่องจะบางไม่แตกต่างจากมือถือเรือธงอื่นๆ ในปัจจุบัน ความรู้สึกหลักๆ จะคล้ายกับการใช้งานมือถือที่มีอัตราส่วนหน้าจอในทางยาวมากกว่าปกติ อาจต้องใช้การเอื้อมนิ้วเล็กน้อย เพื่อแตะส่วนบนสุดและล่างสุดของจอ

ช่วงข้อต่อของเครื่องค่อนข้างแข็ง เปิดปิดด้วยมือเดียวจะลำบากหน่อย อาจต้องใช้สองมือช่วยเปิด แต่ข้อดีคือทำให้ผู้ใช้สามารถกางหน้าจอค้างไว้กี่องศาก็ได้ โดยที่หน้าจอไม่ปิดหรือขยับเอง แต่เรื่องความคงทนในระยะยาว อาจจะขึ้นอยู่กับการใช้งาน เพราะก็ยังพอมีรอยที่เศษผงจะเข้าไปในกลไกขยับได้บ้าง

การใช้งาน เล่นเกม ฟังเพลง และดูวิดีโอ ทำได้ดีขึ้น เพราะทั้งสเปก Snapdragon 888 ระดับเรือธง หน้าจอ 120Hz และลำโพงคู่ที่เสียงค่อนข้างดัง แม้ความชัดยังไม่เท่ากับมือถือเรือธงรุ่นอื่น แต่ส่วนอื่นก็แทบไม่ต่างจากมือถือแอนดรอยด์เรือธงของปีนี้เท่าไร

อีกจุดที่แก้ปัญหาคือคราวนี้ตัวเครื่องกันน้ำ IPX8 แล้ว ใช้งานได้แบบสบายใจ ไม่ต้องกลัวน้ำกระเด็นใส่ แค่อาจต้องระวังเรื่องฝุ่นผงเช่นเดิม แต่ในอนาคต Samsung ก็อาจหานวัตกรรมเพิ่มเติมมากันฝุ่นให้ตัวเครื่องได้อีกก็ได้

ข้อเสียเล็กน้อยคือหน้าจอที่มีอัตราส่วนต่างจากรุ่นอื่น มีความยาวมากกว่าความกว้าง ทำให้วิดีโอทั่วไปที่ดู เช่นบน Youtube จะมีแถบดำอยู่ด้านซ้ายและขวามากกว่ามือถือทั่วไป และเมื่อซูมเข้า ส่วนบนและล่างก็จะถูกตัดออกไปเยอะ

กล้องถ่ายภาพ

เรื่องกล้องอาจจะเป็นจุดที่ Galaxy Z Flip โดดเด่นน้อยที่สุด กล้องหน้าความละเอียดอยู่ที่ 10MP รูรับแสง f/2.4 ส่วนกล้องหลังมี 2 กล้อง เป็นกล้องไวด์ความละเอียด 12MP รูรับแสง f/1.8 กับกล้องอัลตร้าไวด์ 12MP รูรับแสง f/2.2 ส่วน ซึ่งเป็นกล้องที่ใช้งานทั่วไปได้ดีตามมาตรฐาน Samsung แต่ไม่มีเซ็นเซอร์ระยะชัดลึก หรือเลนส์ซูมมาด้วย

ตัวอย่างภาพถ่าย

ภาพจากกล้องหลังหลัก
ภาพจากกล้องหลังหลัก
ภาพจากกล้องอัลตร้าไวด์
ภาพจากกล้องหลัก เปิด Night Mode
ภาพจากกล้องหน้า

สรุป

Galaxy Z Flip 3 เรียกได้ว่าเป็นมือถือจอพับรุ่นที่สองที่เติมเต็มส่วนที่ขาดของรุ่นแรกได้แทบทั้งหมด ทั้งสเปกเรือธง หน้าจออัตรารีเฟรช 120Hz ที่สว่างขึ้น ลำโพงคู่ และการกันน้ำ IPX8 และส่วนที่สำคัญที่สุดคือราคาที่ถูกลงมาจนจับต้องได้ที่ 34,900 บาท

แม้เรื่องกล้องจะไม่โดดเด่น และความทนทานของข้อต่อและจอพับ อาจต้องติดตามดูในระยะยาว แต่ถ้าชอบความแปลกใหม่และนวัตกรรมล้ำสมัย รวมถึงอยากได้มือถือที่หยิบขึ้นมาใช้เมื่อไรก็ทำให้คนต้องเหลียวมอง Galaxy Z Flip 3 น่าจะเป็นอีกตัวเลือกที่มีสไตล์มากที่สุดของปีนี้

Blognone Jobs Premium