Mark Zuckerberg โพสต์ข้อความตอบโต้ Frances Haugen อดีตผู้จัดการผลิตภัณฑ์ของ Facebook ที่ออกมาแฉบริษัทว่าสนใจกำไรมากกว่าแก้ปัญหาความเกลียดชัง-ความปลอดภัย
Zuckerberg บอกว่าบริษัทสนใจประเด็นเรื่องความปลอดภัย สุขภาพจิต ความเป็นอยู่ของผู้ใช้อย่างมาก (เขาใช้คำว่า care deeply) และผิดหวังที่เห็นสื่อมองข้ามความพยายามของ Facebook ในการแก้ปัญหาเหล่านี้
เขาตอบโต้คำกล่าวหาต่างๆ ว่าไม่เป็นความจริง บริษัทไม่ได้มีเจตนาปิดบังผลการวิจัยต่อสาธารณะ เพราะถ้าบริษัทอยากปิดบังเรื่องนี้จริงๆ คงไม่จ้างทำวิจัยตั้งแต่แรก และถ้าบริษัทไม่สนใจเรื่องเนื้อหาที่เป็นภัย ก็คงไม่จ้างคนจำนวนมากกว่าบริษัทโซเชียลอื่นๆ มาคอยตรวจสอบเนื้อหาเหล่านี้
ส่วนประเด็นหลักว่า Facebook สนใจกำไรมากกว่าความปลอดภัยก็ไม่จริงอย่างสิ้นเชิง เขาระบุว่าการเปลี่ยนอัลกอริทึมในปี 2018 (มีชื่อเรียกว่า Meaningful Social Interactions) ช่วยลดการมองเห็นวิดีโอไวรัลลง เห็นเนื้อหาจากเพื่อนและครอบครัวเพิ่มขึ้น บริษัททราบดีว่าการปรับอัลกอริทึมจะทำให้คนใช้เวลาบน Facebook น้อยลง ส่งผลกระทบต่อรายได้ แต่ก็ยังตัดสินใจเดินหน้าเพราะเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง
เขายังบอกด้วยว่าโมเดลธุรกิจของ Facebook คือโฆษณา และผู้ลงโฆษณาย่อมไม่ต้องการให้โฆษณาของตัวเองแสดงอยู่ใกล้ๆ กับเนื้อหาที่เป็นภัยอยู่แล้ว จึงไม่มีเหตุผลเลยที่ Facebook จะอยากให้มีเนื้อหาที่เป็นภัยอยู่บนแพลตฟอร์มต่อไป เขาบอกว่าเขาเองก็มีลูก เขาย่อมไม่ต้องการให้ลูกของตัวเองอยู่ในโลกออนไลน์ที่ไม่ปลอดภัยอยู่แล้ว
Zuckerberg บอกว่าการตีความงานวิจัยภายใน (ที่ Haugen ปล่อยหลุดออกมา) ว่า Instagram มีผลเสียต่อเด็กและวัยรุ่นเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ เพราะจริงๆ แล้วงานวิจัยชิ้นนี้ชี้ให้เห็นว่า วัยรุ่นใช้ Instagram เป็นที่พักใจเมื่อเผชิญกับปัญหาในชีวิตจริงๆ ต่างหาก เขาโต้แย้งว่าปัญหาเรื่องผลกระทบต่อเด็กและวัยรุ่นไม่ใช่หน้าที่ของบริษัทโซเชียลรายใด แต่เป็นหน้าที่ของสังคมต้องมาตัดสินใจร่วมกันว่า เด็กอายุแค่ไหนถึงสมควรใช้อินเทอร์เน็ตมากกว่า
ที่มา - Mark Zuckerberg