วันนี้สื่อต่างประเทศหลายรายออกรีวิวของเครื่องเล่นเกมพกพา Steam Deck ซึ่งผลการรีวิวออกมาคล้ายๆ กัน ว่าตัวเครื่องมีขนาดใหญ่กว่า Nintendo Switch มาก ไม่เหมาะกับการพกออกนอกบ้าน แต่สามารถนำไปเล่นที่ไหนของบ้านได้สะดวก และต้องมองว่ามันเป็นพีซีย่อส่วน มากกว่าเป็นคอนโซลพกพา
ข้อดีของ Steam Deck
- สเปกแรงพอสำหรับการเล่นเกมพีซีใหม่ๆ ที่ 30 fps หรือ 60 fps ได้สบายๆ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่อุปกรณ์พีซีขนาดเล็กทำได้ (พลังของ Zen 2 + RDNA 2)
- รองรับเกมพีซีจำนวนมาก โดยที่นักพัฒนาเกมไม่ต้องปรับแต่งเกมเลย เลเยอร์ Proton จัดการให้ทั้งหมด
- การควบคุมที่หลากหลาย ทั้งปุ่มกด ทัชแพด ทัชสกรีน ปรับแต่งให้เข้ากับเกมเก่าๆ ที่ออกแบบมาสำหรับเมาส์และคีย์บอร์ดได้
- การปรับแต่งที่เปิดกว้าง ปรับกราฟิกได้ทุกระดับ เลือกได้เองว่าจะเอากราฟิกแรง แบตอยู่ได้น้อย หรือลดพลังลงมาเพื่อยืดอายุแบต มีตัวเลขการใช้พลังงานบอกแบบเรียลไทม์
- ระบบปฏิบัติการที่ให้อิสระมาก เหมือนเป็นลินุกซ์เดสก์ท็อปปกติ
- สเปกและฟีเจอร์คุ้มค่ามากสำหรับราคา 399 ดอลลาร์
ข้อเสียของ Steam Deck
- คุณภาพของหน้าจออาจไม่ดีนัก
- แบตเตอรี่อยู่ได้ไม่นานเท่าที่ควร (ขึ้นกับเกมแต่ละเกมด้วย อาจอยู่ที่ 2 ชม. ไปจนถึง 6-7 ชม. สำหรับเกมที่ไม่ต้องการกราฟิกแรงมาก)
- ร้อนและพัดลมเสียงดัง
- ระบบปฏิบัติการยังไม่เสถียรนัก มีบั๊กและแครชมากพอสมควร (บางสื่อบอกว่านี่คือ คอนโซล Early Access)
- เกมดังๆ บางเกมยังไม่สามารถเล่นได้ โดยเฉพาะเกมมัลติเพลเยอร์ที่มีระบบ anti-cheat เช่น PUBG, Destiny 2, Call of Duty: Warzone, Apex Legends
ตัวแทนของ Valve บอกกับ The Verge ว่าจะค่อยๆ ปรับแก้ซอฟต์แวร์ของ Steam Deck ให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งก็คงต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง เช่นเดียวกับการติดตั้ง Windows ที่ตอนนี้ยังไม่รองรับ เพราะ Valve ยังทำไดรเวอร์ไม่เสร็จ
ที่มา - Ars Technica, The Verge, VentureBeat