รีวิว BlackBerry Storm ตอนที่ 2

by mk
23 August 2009 - 16:11

ความเดิม: รีวิว BlackBerry Storm ตอนที่ 1 ว่าด้วยเรื่องฮาร์ดแวร์

ตอนที่สองนี้มาว่ากันด้วยเรื่องซอฟต์แวร์ โดยเน้นไปที่ตัว BlackBerry OS และโปรแกรมที่ RIM ให้มาเป็นหลัก ส่วนเรื่องโปรแกรม 3rd party ไปว่ากันตอนที่สามครับ (คำเตือน: ตอนนี้รูปเยอะมาก)

BlackBerry OS

มือถือตระกูล BlackBerry ใช้ระบบปฏิบัติการของ RIM เอง ชื่อก็ตรงไปตรงมาคือ BlackBerry OS ปัจจุบันออกถึงรุ่น 4.7 ส่วนรุ่นถัดไป 5.0 ก็ใกล้ออกตัวจริงเช่นกัน

สำหรับระบบปฏิบัติการของ Storm ที่ได้มาคือรุ่น 4.7.0.122

Home Screen

หน้าตามาตรฐานของ BlackBerry OS บน Storm ก็เป็นตามภาพครับ

ด้านบนเป็นพื้นที่แสดงสถานะของข้อมูลต่างๆ เช่น เวลา สัญญาณมือถือ ปริมาณแบตเตอรี่ ส่วนด้านล่างมีไอคอน 8 อันให้เลือกกด ไอคอนทั้ง 8 นี้คือโปรแกรม 8 อันบนสุดในรายการโปรแกรมทั้งหมด ถ้าต้องการดูโปรแกรมให้กดปุ่ม BB หนึ่งครั้ง หน้าจอจะเปลี่ยนเป็นไป

หน้าจอนี้จะแสดงไอคอนของโปรแกรมทั้งหมดในเครื่อง ไอคอนเป็นสีขาว-ดำไม่หลุดสไตล์ เก็บแยกเป็นโฟลเดอร์ได้ ย้ายตำแหน่ง ย้ายโฟลเดอร์ได้

ปุ่ม BB เป็นปุ่มที่สำคัญที่สุดของ Storm มันทำหน้าที่ 3 ประการ

1) เรียกหน้าจอ Home Screen แบบเต็ม ดังที่กล่าวไปแล้ว

2) ทำหน้าที่เสมือนคลิกขวาบนพีซี เรียก context menu ขึ้นมาบนมุมขวาล่างของหน้าจอ

3) กดค้างไว้ จะแสดงหน้าต่างแบบเดียวกับการกด Alt+Tab บนวินโดวส์

ใช่แล้วครับ BlackBerry OS มีมัลติทาสกิ้งนั่นเอง อันนี้จะกล่าวถึงต่อไป

หน้าจอ Homescreen ใช้งานได้ดี ดูสวยงาม ทันสมัย ฟีเจอร์อย่างเดียวที่ผมอยากให้มีคือ เปลี่ยนจากโหมดปกติไปเป็นโหมดแสดงโปรแกรมทั้งหมด น่าจะใช้วิธีอื่นๆ อย่างเช่น ลากนิ้วขึ้นไปด้านบนของหน้าจอ นอกเหนือจากการกดปุ่ม BB ได้ด้วย

แต่เมื่อกดเข้าไปยังหน้าย่อยๆ ก็ยังมีส่วนติดต่อผู้ใช้ที่ยังไม่ถูก "ทำสวย" ดังเช่นหน้า Options

สิ่งที่ผมชอบมากใน Homescreen ของ Storm คือโปรแกรมปรับระดับเสียง และตั้งค่าเครือข่าย (รวม Bluetooth) ซึ่งอยู่ในหน้า Homescreen เลย กดสะดวก ไม่ต้องเข้าเมนูไปลึกๆ เหมือนมือถือแพลตฟอร์มอื่นๆ

เว็บเบราว์เซอร์

BlackBerry ใช้เบราว์เซอร์เฉพาะของตัวเอง เท่าที่ทดสอบมาก็ทำงานได้ค่อนข้างดี

อ่านไทยได้สวยงาม ยังตัดคำไทยไม่ได้ (ภาพประกอบ)

สิ่งสำคัญที่ขาดไปคือไม่มี Flash (อันนี้หาคนมียาก) และไม่มีแท็บ (คนอื่นมีกันเกือบหมดแล้ว)

หน้าแรกของเบราว์เซอร์สามารถค้นกูเกิลได้เลย มีระบบ autocomplete เวลาป้อน URL (ไม่ถึงขนาด Awesomebar ของ Firefox 3.x) จุดที่น่าจะปรับปรุงได้คือ เพิ่มปุ่ม .com และปุ่ม / ที่ใช้บ่อยเวลาป้อน URL ลงในคีย์บอร์ดด้วย

การซูมใช้วิธีจิ้มลงไปยังพื้นที่ว่างๆ แบบเดียวกับ Mobile Safari เพียงแต่จอของ Storm ไม่ใช่มัลติทัช ไม่สามารถใช้ท่า pinch สองนิ้วกางเข้ากางออกได้ อยากซูมออกต้องกดปุ่มแว่นขยายเท่านั้น

อีเมล SMS MMS

ระบบอีเมลของ BlackBerry จะผ่านเซิร์ฟเวอร์ BlackBerry Enterprise Server (BES) ของบริษัท หรือ BlackBerry Internet Server (BIS) ของโอเปอเรเตอร์ การรีวิวนี้ใช้ผ่าน BIS ของ TRUE ครับ

เมื่อเริ่มต้นใช้ BlackBerry จะให้เราตั้งค่าอีเมลผ่าน BIS ผมตั้งเป็น Gmail ตามปกติซึ่งใช้งานได้ทันที การรับอีเมลจะเป็นแบบ Push ซึ่งเป็นจุดขายอย่างหนึ่งของ BlackBerry มาทันทีไม่ต้องรอตรวจเช็คทุกๆ เวลาที่กำหนด

หน้าจอการอ่านเมลไม่มีอะไรพิสดารมากนัก เป็นแบบฉบับเดียวกับโปรแกรมอีเมลตัวอื่นๆ บนมือถือ สามารถปาดซ้าย-ขวา เพื่อไปยังอีเมลฉบับต่อไปได้เหมือน iPhone

ระบบข้อความของ BlackBerry จะเป็น Universal Inbox คือรวมทั้งอีเมล, MMS, SMS, BlackBerry Messenger และข้อความจากโปรแกรมอื่นๆ ที่ BlackBerry สนับสนุน เช่น Facebook มาไว้ในกล่องเดียวกัน (แยกดูเฉพาะบัญชีก็ทำได้)

SMS เรียงตาม thread

จุดอ่อนของการใช้ Gmail ของ BlackBerry คือข้อมูลบน Gmail กับ BlackBerry จะไม่ sync กันดีนัก โดยเฉพาะเมลที่อ่านแล้ว (ถ้าสั่งลบเมลจะ sync กัน) รวมถึงไม่มีฟีเจอร์อย่างการให้ดาว การรวมเป็น conversation และการจัดหมวดด้วย label

RIM เพิ่งออก Enhanced Google Mail plug-in ที่ชดเชยฟีเจอร์ที่ขาดไปเหล่านี้ แต่เท่าที่ผมลองล่าสุดยังใช้ไม่ได้ครับ ยังแจกให้ผู้ใช้เป็นบางรายอยู่

ฟีเจอร์อื่นๆ ที่พบว่าขาดไปคือ ไม่สามารถ mark all read ได้ ต้องสั่งเลือกเมล (เลือกได้ทีละหน้าจอ โดยใช้สองนิ้ว) แล้วกด Mark opened จากเมนู

โดยรวมแล้ว ระบบอีเมลของ Storm ทำงานได้ไม่มีปัญหา แต่ก็น่าเสียดายที่ไม่ได้ทดสอบฟีเจอร์หลายๆ อย่างที่ผูกกับ BES ซึ่งเป็นจุดขายสำคัญของแพลตฟอร์ม BlackBerry

ปฏิทิน ตารางนัด สมุดบันทึก

เป็นฟีเจอร์ที่ผมทดลองใช้น้อยมาก เพราะทุกวันนี้แทบไม่ใช้ desktop PIM client เลย อยู่บนเว็บทั้งหมด โปรแกรมปฏิทินสามารถดึงข้อมูลจาก Facebook ได้โดยตรง ถ้าต้องการใช้ Google Calendar ให้ดาวน์โหลด Google Sync มาจากกูเกิล ซึ่งจะจัดการ sync ข้อมูลปฏิทินให้เราโดยอัตโนมัติ

BlackBerry Messenger

จุดขายหลักของ BlackBerry ในเมืองไทย! โดยหลักการแล้วมันคือ IM สำหรับ BlackBerry เท่านั้น เรียกหากันด้วย PIN Code เฉพาะของ BlackBerry แต่ละเครื่อง (PIN ผูกกับเครื่อง ไม่ใช่ซิม) ได้อารมณ์ ICQ มาก

อินเทอร์เฟซของโปรแกรมไม่หรูหรา (ถ้าเป็นโปรแกรมจาก RIM เองจะอารมณ์ประมาณนี้ทุกตัว) ข้อดีของมันคือส่งข้อความหากันแบบ Push เปิดโปรแกรมทิ้งไว้ได้ตลอดเวลา

แนบไฟล์ได้ คุยหลายคนพร้อมกันได้ มี emoticon ให้ใช้ไม่ขาดแคลน

การสนทนาใน BB Messenger บอกสถานะการอ่านข้อความของคู่สนทนาด้วย ถ้ามีตัวอักษร D แปลว่าส่งไปถึงแล้วแต่ยังไม่ได้อ่าน (delivered) ถ้ากลายร่างเป็น R (read) คืออ่านแล้ว ฟีเจอร์นี้ตอนไปฟังคนจาก RIM อธิบาย ทุกคนก็หลอนกันมาก ไม่ควรคุย BB Messenger กับแฟนเด็ดขาด

ทำไม BB Messenger หรือ BBM ถึงดัง? อันนี้ผมคิดว่ามันให้ความรู้สึก exclusive ว่าการใช้ BlackBerry เป็นคลับชั้นสูง คนไม่มีไม่สามารถเข้าร่วมสนทนาใน BBM ได้ เมื่อรวมกับการตลาดที่จับเซเลบและไฮโซ จึงเข้ากันได้ดีมากๆ กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ BlackBerry ดังในเมืองไทยได้

มัลติมีเดีย

Storm เป็นมือถือจอสัมผัส ออกมาสู้กับ iPhone โดยเฉพาะ ฟอร์แมตที่รองรับมีดังนี้ (คัดมาจากหน้าเว็บของ RIM)

  • วิดีโอ: MPEG4 H.263, MPEG4 Part 2 Simple Profile, H.264, WMV
  • เสียง: MP3, AAC, AAC+, eAAC+, WMA, WMA ProPlus

การเล่นมัลติมีเดียบน Storm ทำได้ราบรื่น จอของ Storm คมชัดทำให้วิดีโอดูสวยตามไปด้วย แต่เทียบลูกเล่นกันแล้วยังสู้ iPhone ยาก ไม่มีฟีเจอร์สวยงามอย่างพวก Cover Flow

ลำโพงของ Storm เสียงดังดีมาก (คนของ RIM บอกว่านี่เป็นฟีเจอร์) เหมาะอย่างยิ่งแก่การนำมาทำเป็น boombox แบบพกพา ส่วนคุณภาพเสียงเนื่องจากผมหูเทพมากเลยแยกไม่ออก ถ้าใครซีเรียสเรื่องเสียงต้องไปลองฟังกันเองล่ะครับ

แผนที่และ GPS

Storm มาพร้อมกับ GPS ในตัวและโปรแกรมแผนที่ ชื่อถนนในเมืองไทยเป็นภาษาอังกฤษล้วน และไม่มีโหมดภาพถ่ายดาวเทียมแบบ Google Maps แต่ก็ใช้งานได้ดี ใช้นำทางได้

Google Maps มีเวอร์ชัน BlackBerry ให้ดาวน์โหลดด้วย รายละเอียดดูตอนหน้า

IM และ Social Network

หนึ่งในแผนการรุกเข้าตลาดคอนซูเมอร์ของ RIM คือการสนับสนุนงานด้าน social ยอดนิยมต่างๆ แง่มุมที่น่าสนใจคือแอพพลิเคชันเหล่านี้ RIM เป็นคนทำเอง ไม่ใช่ผู้ประกอบการ social network เป็นคนทำแต่อย่างใด ทั้งหมดเป็น web app ฟีเจอร์ครบถ้วนแม้ว่าไม่หรูหรามาก แต่ทำงานร่วมกับส่วนอื่นๆ ของ BlackBerry ได้ดีมาก

ผมขอแบ่งโปรแกรมเป็น 2 แบบกว้างๆ คือ IM กับ social network

Instant Messenger

โปรแกรมตระกูล IM ที่ RIM พัฒนาขึ้นให้เราเลือกใช้ ได้แก่

  • Google Talk
  • Yahoo! Messenger
  • AOL Instant Messenger
  • Windows Live Messenger

ผมลองแค่ Google Talk ไม่ได้ลองโปรแกรมอื่นๆ แต่คาดว่าคล้ายกัน

แขกรับเชิญเจ้าเดิม Sugree บน Google Talk

Social Network

โปรแกรมที่ RIM จัดให้ได้แก่

  • Facebook
  • MySpace
  • Flickr

หมายเหตุ: ไม่มี Twitter ครับ ต้องหาโปรแกรมมาลงเอง

โปรแกรม Facebook ก็เป็นเว็บเช่นกัน ทำงานพื้นฐานได้ครบ ที่เจ๋งคือเข้ากับระบบ messaging ของ Storm ได้อย่างดี มี notification ข้อความใหม่บนไอคอน ใน screenshot ทั้งหมดจะเห็นว่ามันโผล่ขึ้นมาใน status bar ของระบบด้วย นอกจากนี้ในโปรแกรมถ่ายภาพ ถ่ายเสร็จแล้วส่งขึ้น Facebook ได้ทันที

ของ Flickr เน้นอัพโหลด ใส่ geotag ได้ จำตำแหน่งได้

MySpace นี่ไม่ได้ลองครับ

โปรแกรมอื่นๆ

Storm มาพร้อมกับโปรแกรมอีกบางตัวที่ผมไม่ได้ทดสอบ เช่น Voice Note, Document to Go, Calculator

สรุปประสบการณ์การใช้งาน BlackBerry OS

ข้อดี

  • Multi-tasking อันนี้ดีแน่นอน ที่ใช้บ่อยคือโหลดแผนที่หรือ Twitter ไว้เบื้องหลัง
  • โปรแกรมทำงานร่วมกันได้ดีมาก (ถ้าเป็นโปรแกรมของ RIM เองนะ)
  • ระบบ messaging ทำดีสมราคาคุย อีเมลแบบ Push
  • โปรแกรมตระกูล social network ทำดีเช่นกัน
  • มี Copy & Paste ก่อน iPhone นานโข (MMS ด้วย)

ข้อเสีย

  • BlackBerry OS ออกแบบมาสำหรับ BlackBerry รุ่นที่ใช้ปุ่มกด มี trackball สำหรับเลื่อน 4 ทิศทางเหมือนมือถือปกติทั่วไป ดังนั้น UI หลายๆ ส่วนจึงใช้งานกับจอสัมผัสที่ใช้นิ้วได้ไม่ดีนัก ดูภาพประกอบน่าจะพอเข้าใจได้ (แทบจะต้องเอาเล็บจิก)
  • ปัญหาเดียวกันกับข้อที่แล้ว เกือบทุกอย่างใน BlackBerry ต้องพึ่งพิงเมนูจากปุ่ม BB เท่านั้น จะส่งเมล กด BB เปิดเมนูแล้ว Send, จะโหลดหน้าเว็บใหม่ กด BB แล้ว Refresh ฯลฯ มันไม่ใช่ UI ที่ออกแบบมาสำหรับนิ้วมือ ทุกวันนี้ผมใช้ด้านข้างนิ้วแตะเลือกแล้วกดย้ำลงไปอีกที เพื่อเพิ่มความแม่นยำ สองข้อนี้ผมว่าเป็นข้อเสียร้ายแรงเฉพาะตัวของ Storm
  • ทุกอย่างพึ่งพิงปุ่ม BB มากเกินไปหน่อย
  • ยังช้าและแครชในหลายกรณี ที่เจอบ่อยคือนาฬิกาวนลูป (เหมือนนาฬิกาทรายบนวินโดวส์ แต่ของ BlackBerry เป็นนาฬิกาหน้าปัด) ที่ผมใช้มาประมาณหนึ่งสัปดาห์ แครชรวม 3 ที
  • ฟีเจอร์ด้านมัลติมีเดียยังน้อยเมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง iPhone

ไม่รู้ว่าเป็นข้อดีหรือข้อเสีย

  • หน้าจอแบบกดแล้วยุบ อันนี้แล้วแต่มุมมอง ในแง่ดีมันเป็น feedback สำหรับคนกด ใช้ไปนานๆ จะเริ่มชิน แต่ข้อเสียคือพิมพ์ช้า ต้องออกแรงมาก

ตอนหน้าว่าด้วยแง่มุมอื่นๆ ที่เหลืออยู่ เช่น การเชื่อมต่อกับพีซี, โปรแกรมจาก 3rd party, การพัฒนาโปรแกรมบน BlackBerry และมุมมองจาก @sugree

Blognone Jobs Premium