Voyager แพลตฟอร์มกู้ยืมคริปโตที่โฆษณาว่าให้ผลตอบแทนสูงสุด 12% ประกาศว่าจะผิดนัดชำระหนี้ (default) ของเจ้าหนี้รายใหญ่คือกองทุน Three Arrows Capital (3AC) ของสิงคโปร์ เนื่องจากมีเงินในมือไม่พอ
โมเดลธุรกิจของ Voyager คือรับเงินคริปโตจากบุคคลหรือบริษัทอื่นไปลงทุนต่อ โดยให้ผลตอบแทน (ไม่ใช่ดอกเบี้ยแต่ใช้คำว่า reward!) กลับคืนมา 12% ส่วนกองทุน Three Arrows Capital เป็น hedge fund ที่หากำไรจากการลงทุนในคริปโตรูปแบบต่างๆ โดยนำเงินลงทุนจากคนอื่นมาอีกทีเช่นกัน
ตลาดคริปโตที่ราคาร่วงแรงทำให้ Three Arrows Capital ถูกลูกค้าบังคับให้ทำ margin call หรือขายเหรียญในราคาต่ำตามที่กำหนดเพื่อมาชดใช้หนี้ ซึ่งกองทุนเพิ่งประสบปัญหาลงทุนในเหรียญ Terra/Luna และขาดทุนมารอบหนึ่งในเดือนที่แล้ว ทำให้ต้องเรียกเงินลงทุนจากแหล่งต่างๆ กลับมาอีกที
หนี้ของ Three Arrows ที่อยู่ใน Voyager แบ่งเป็น Bitcoin 15,250 BTC และเหรียญ Stablecoin อีก 350 ล้าน USDC (มูลค่ารวมกันประมาณ 670 ล้านดอลลาร์ หรือราว 2.4 หมื่นล้านบาท) แต่ Voyager ระบุว่ามีเงินสดในมือ 137 ล้านดอลลาร์เท่านั้น
Voyager บอกว่าขอกู้เงินจากกองทุนอีกแห่งคือ Alameda Ventures ของ Sam Bankman-Fried ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง FTX เว็บเทรดคริปโตรายใหญ่ เพื่อมาเติมสภาพคล่อง (เคยขอมาแล้ว 200 ล้านดอลลาร์ + 15,000 BTC และขอเพิ่มอีก 75 ล้านดอลลาร์) บริษัทกำลังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้จ่ายเงินให้ลูกค้าคืนได้
การที่ Three Arrows ไม่สามารถเรียกเงินคืนจาก Voyager ได้ และติดหนี้ต่อกันเป็นทอดๆ แสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนของโครงสร้างการเงินโลกคริปโต และต้องจับตาว่าจะส่งผลกระทบต่อวงการคริปโตในภาพรวมขนาดไหน
ก่อนหน้านี้เราเห็นข่าวบริษัทคริปโตหลายรายที่หยุดให้ลูกค้าถอนเงินออกชั่วคราว เพราะเจอปัญหาสภาพคล่อง แต่กรณีของ Voyager คือถึงขั้นออกมาประกาศว่าไม่สามารถชำระหนี้ได้แล้วจริงๆ