สรุปงาน KBTG Vision 2025 การเข้าสู่ยุคใหม่ในโลกการเงินของ KBTG

by sponsored
3 August 2022 - 04:00

ที่งาน KBTG Vision 2025 คุณกระทิง เรืองโรจน์ พูนผล บรรยายถึงแนวโน้มการลงทุนในโลกการเงินของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ว่าอุตสาหกรรมการเงินของภูมิภาคนี้กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยจะเห็นได้ถึงเงินลงทุนในอุตสาหกรรมการเงินที่ลงทุนในภูมินี้สูงกว่าแสนล้านบาท โดยภูมิภาคนี้มีความเหมาะสมที่จะเติบโตทั้งจำนวนประชากร, การเชื่อมโยงถึงกันในภูมิภาค, และการเติบโตที่ต่อเนื่อง

ความเชื่อในการเติบโตนี้เองทำให้ธนาคารกสิกรไทยก็เห็นแนวโน้มจนถึงปี 2030 ว่าภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นภูมิภาคที่น่าลงทุนจนเพิ่มการลงทุนเป็น 22,000 ล้านบาท และแนวทางนี้ทำให้ KBTG แปลงเป็นบริษัทเทคโนโลยีระดับภูมิภาคอย่างเต็มตัว

ตัวอย่างการขยายตัว KBTG เช่น K-TECH ในจีนก่อนหน้านี้เคยให้บริการไอทีกับธนาคารกสิกรไทยในจีน แต่ตอนนี้กลายเป็นศูนย์พัฒนาเต็มรูปแบบ มีทีมงาน blockchain ของตัวเองทำให้สามารถพัฒนาโครงการ blockchain ที่ใช้งานในไทยได้ สำหรับ KBTG เองช่วงสามปีที่ผ่านมามีอัตราการส่งมอบโครงการเพิ่มขึ้นถึง 50% เป็น 150 โครงการต่อปี สามารถลดค่าใช้จ่ายด้านไอทีได้กว่าสองพันล้านบาท

กระบวนการ Transformation ช่วงสามปีที่ผ่านมาเป็นการทำเครื่องมือและกระบวนการส่งมอบซอฟต์แวร์ระดับโลกมาใช้งาน ช่วยให้โครงการ 80% สำเร็จภายในกรอบเวลาและงบประมาณที่กำหนด ประหยัดแรงงานไปได้ 21,000 manday แต่การสร้างเทคโนโลยีเหล่านี้จุดสำคัญคือ ต้องมีความหมายต่อผู้ใช้และธุรกิจ เช่น KPLUS มีการใช้งานสูงมากให้บริการลูกค้า 18.6 ล้านคน ปริมาณธุรกรรมรวมล่าสุดใน KPLUS ปริมาณธุรกรรม 29 พันล้านรายการ รวมมูลค่า 23 ล้านล้านบาท K+ Shop มีผู้ค้าใช้งาน 4 ล้านราย จำนวนธุรกรรมปีละ 1.7 พันล้านรายการ

แม้ว่าระบบจะมีผู้ใช้มากขึ้นเรื่อยๆ แต่ระบบก็ยังมีเสถียรภาพสูงขึ้นเรื่อยๆ มีอัตรามีปัญหาลดลง 66% พร้อมกันเมื่อมีเหตุแต่ละครั้งก็สามารถแก้ไขได้อย่างรวดเร็วโดยเวลาแก้ปัญหาเฉลี่ยต่ำกว่า 1 นาทีแล้ว

คุณกระทิงวางเป้าหมายของ KBTG ว่าต้องเป็นบริษัทเทคโนโลยีระดับท็อปของภูมิภาค และติดอันดับ 1 ใน 100 บริษัทที่น่าทำงานที่สุดในโลก มีฐานผู้ใช้ 100 ล้านคน รองรับปริมาณธุรกรรมแสนล้านรายการต่อปี มีอัตราการส่งมอบโครงการเพิ่มขึ้นสองเท่าตัว และสร้างรายได้จากธุรกิจใหม่ได้ 5,000 ล้านบาท

คุณวรนุช เดชะไกศยะ Executive Chairman ของ KBTG เล่าถึงความท้าทายของธนาคารในยุคต่อไป เสถียรภาพของบริการธนาคารออนไลน์เป็นความท้าทายที่ทุกธนาคารต้องพบ โดยเฉพาะธนาคารกสิกรไทยที่มีปริมาณธุรกรรมสูงสุด หากระบบมีปัญหาก็จะหมายถึงเศรษฐกิจของประเทศมีปัญหา ทุกวันนี้ปริมาณธุรกรรมวันละ 100 ล้านธุรกรรมไม่ใช่เรื่องยากเกินไป และระบบของธนาคารมีระบบเก่าที่หลายครั้งอาจจะทำงานมานานถึง 20 ปี แต่ก็ต้องเชื่อมต่อกับบริการใหม่ๆ ได้อย่างไร้รอยต่อ

ภายใน KBTG เองมีแอพพลิเคชั่นอยู่มากกว่า 500 แอพพลิเคชั่นทั้งเก่าและใหม่ต่างกันไป ทำให้ต้องแบ่งกำลังคนทั้งการดูแลแอพพลิเคชั่นเดิม, พัฒนาแอพพลิเคชั่นใหม่, และการทำงานร่วมกับพันธมิตรต่างๆ

KBTG Labs ผู้นับหนึ่งการสร้างนวัตกรรมให้กับ KBTG

ในงานครั้งนี้ ดร.ทัดพงศ์ พงศ์ถาวรกมล Managing Director ของ KBTG Labs ยังแนะนำถึงหน่วยงานนี้ภายใน KBTG ว่าวางเป้าหมายจะเป็นหน่วยงานผู้นับหนึ่งให้กับการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ด้วยการทำวิจัยจากเริ่มต้น โดยภายในหน่วยงานนี้ประกอบด้วยคนสามกลุ่ม ได้แก่

  1. User Experience: กลุ่มคนที่เข้าใจถึงความต้องการของผู้ใช้ สามารถรู้ถึงปัญหาที่ผู้ใช้ประสบอยู่
  2. Research & Technology: กลุ่มคนเข้าใจถึงกระบวนการวิจัย, การพัฒนาเทคโนโลยี, และกระบวนการวิศวกรรมที่จะสร้างเป็นโซลูชั่นให้สำเร็จ
  3. Product & Business: กลุ่มผู้เข้าใจตลาด สามารถประกอบร่างและสามารถบอกได้ว่าสามารถสร้างนวัตกรรมจนกลายเป็นธุรกิจที่ยั่งยืนได้

ดร.ทัดพงศ์ ระบุว่านวัตกรรมไม่มีสูตรสำเร็จ จากความเปลี่ยนแปลงมากมายตลอดเวลา KBTG Labs อาศัยการสร้าง Innovation Runway แพลตฟอร์มสำหรับการสร้างนวัตกรรม ผ่านกระบวนการ 3 ขั้น

  1. การรวบรวมไอเดียผ่านทาง Idea Portal พื้นที่ที่ให้คนในองค์กรสามารถนำเสนอไอเดีย และพูดคุยถึงไอเดียใหม่ๆ และต่อยอดไอเดียไป
  2. แพลตฟอร์มสำหรับการทำ prototype หรือจะนำ prototype มาสร้างเป็นโครงการที่พร้อมนำไปทดลองตลาด
  3. ชุดเครื่องมือที่จะทำให้นวัตกรรมที่ได้รับการพิสูจน์แล้วไปใช้งานกับผู้ใช้ฐานใหญ่

แนวทางการพัฒนานวัตกรรมเช่นนี้ว่าจะทำให้ KBTG สามารถสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ได้เร็วขึ้น 10 เท่าตัวภายใน 3 ปีข้างหน้า

หนึ่งในประเด็นที่ KBTG ต้องพบคือ การจัดการนวัตกรรมด้านปัญญาประดิษฐ์ที่มีความท้าทายมากมาย อาจจะมากกว่าการจัดการระบบไอทีทั่วไปอีกขั้น แม้ว่าที่ผ่านมาจะสามารถนำปัญญาประดิษฐ์ไปสร้างประโยชน์ให้กับธุรกิจได้ก็ตาม แนวทางนี้ทำให้ KBTG Labs สร้าง AI Factory โดยนำความรู้ด้านวิศวกรรมซอฟต์แวร์มาใช้ในกระบวนการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์เพื่อให้สามารถสร้างนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ได้เร็วขึ้น 10 เท่าตัวภายในเวลา 3 ปี

จากทฤษฎีถึงการใช้งานจริง

แนวทางการนำวิจัยของ KBTG Labs เป็นการทำวิจัยจากเริ่มต้น ดร.ทัดพงศ์เล่าถึงตัวอย่างของการพัฒนา chatbot สำหรับ KBank Live ว่าทีมงานเริ่มพัฒนาตั้งแต่โมเดลในเชิงทฤษฎี, และพัฒนาต่อจนสามารถใช้งานจริงได้ในแชต KBank Live และสามารถช่วยทำให้การตอบแชตกลายเป็นระบบอัตโนมัติได้ถึง 80% ในช่วงการระบาดของ COVID ที่ปริมาณการใช้งานสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

นอกจากการพัฒนาเทคโนโลยีระดับ Deep Tech ด้านภาษาแล้ว KBTG Labs ก็ยังให้ความสนใจกับเทคโนโลยีอื่นๆ เช่น blockchain, Internet of Things, Quantum Computing, หรือการใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อจดจำใบหน้าและเสียงเพื่อยืนยันตัวตน ทาง KBTG Labs มุ่งเป้าว่าจะสร้างความเข้าใจในเทคโนโลยีเหล่านี้เพื่อนำมาสร้างนวัตกรรมให้กับธนาคารและลูกค้า

ดร.ทัดพงศ์ยังสาธิตเทคโนโลยีที่ KBTG Labs กำลังพัฒนา เช่น เทคโนโลยีการติดค่าสินค้าในร้านของชำโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์จดจำสินค้า ช่วยลดความผิดพลาดในการคิดราคาสินค้าและให้บริการได้รวดเร็วยิ่งขึ้น แม้ว่าเทคโนโลยีเช่นนี้จะมีในต่างประเทศอยู่แล้ว แต่การพัฒนาเทคโนโลยีด้วยตัวเองทำให้มีต้นทุนถูกพอสำหรับการใช้งานในประเทศ

เทคโนโลยีอีกตัวที่สาธิตในงานคือการจำลองร้านค้าเสมือน ที่ผู้ใช้สามารถเดินดูสินค้าในร้านสามมิติได้เสมือนจริง สามารถทดลองสวมใส่เครื่องแต่งกายกับตัวเองในภาพจำลองก่อนสั่งซื้อ รองรับการสั่งงานด้วยเสียง และสามารถจ่ายค่าสินค้าออนไลน์ได้ทันที

งานพัฒนาเหล่านี้กำลังอยู่ในขั้นทดสอบ ทาง KBTG Labs ยังเชิญชวนให้ธุรกิจที่สนใจทดสอบและสร้างนวัตกรรมร่วมกัน สามารถติดต่อเข้าไปได้ทางอีเมล co-innovation@kbtg.tech

แม้การพัฒนาเทคโนโลยีของ KBTG Labs จะเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีออกมาเป็นนวัตกรรมที่ใช้งานได้จริง แต่ระหว่างทางก็มีเทคโนโลยีที่พัฒนาจนสามารถตีพิมพ์รายงานวิจัยได้มากมาย และต่อไปในอนาคตก็มีแนวทางจะสร้างงานวิจัยเพิ่มเติมต่อไป โดยเฉพาะในปีนี้ KBTG Labs ทำงานร่วมกับ MIT Media Lab ทั้งการทำวิจัยร่วมกัน และให้ทุนวิจัยนักวิจัยไทยไปทำวิจัยใน MIT ในชื่อตำแหน่ง KBTG Fellow

KX แพลตฟอร์มเพื่อความเชื่อใจ

คุณพอล ธนะเมศฐ์ อาริยวัฒน์ Venture Director ของ KX แนะนำบริษัทที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อปี 2021 ที่ผ่านมาเน้นอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลและระบบไร้ศูนย์กลาง โดย KX มองว่าอุตสาหกรรมใหม่นี้ยากสำหรับคนทั่วไปและทาง KX จะสร้างแพลตฟอร์มที่ช่วยให้คนจำนวนมากเข้าถึงมันได้ โดยปีที่ผ่านมาก่อตั้งบริษัท KUBIX ที่เป็น ICO Portal สำหรับนักลงทุน และสามารถระดมทุน Destiny Token สำเร็จไปเป็นที่เรียบร้อย

บริษัทต่อมาที่ KX เปิดตัวคือ Coral ที่เป็นตลาด NFT ที่น่าเชื่อถือจากแนวทาง 3 ประการ ได้แก่ ยืนยันตัวตนศิลปินก่อนวางขายงานศิลปะ ป้องกันการขโมยตัวตนแบบแพลตฟอร์มอื่นๆ และระบุหมายเลขอ้างอิงไปถึงเลขจดแจ้งของกรมทรัพย์สินทางปัญญาของไทย, กระบวนการซื้อขายสามารถซื้อขายได้ด้วยเงินบาท โดยไม่ต้องซื้อเงินคริปโต, สุดท้ายคือการรองรับมาตรฐานเปิดเป็นมาตรฐาน ทั้ง ERC-721 และ ERC-1155 และทำงานบน Ethereum Main Chain

ตอนนี้มีศิลปินเข้ามาบนแพลตฟอร์ม Coral แล้วกว่า 120 คน รวมชิ้นงานมากกว่าพันชิ้น โดยช่วงราคาตั้งแต่ 25,000 บาทไปจนถึง 3,855,000 บาท นับเป็นตลาดงานศิลปะที่มีมูลค่าสูง เป้าหมายต่อไปของ Coral คือการเปิดโอกาสให้ศิลปินเข้าถึงตลาดในวงกว้างระดับโลก เพราะอุตสาหกรรมศิลปะของโลกมีขนาดใหญ่ถึง 65.1 พันล้านดอลลาร์แต่กระจุกตัวอยู่ในไม่กี่ประเทศ

ในอนาคตทาง Coral มีแนวทางจะรองรับงานศิลปะที่มีราคาต่ำกว่า 25,000 บาท และไปทำตลาดในต่างประเทศมากขึ้น เป้าหมายในตอนนี้ทาง Coral วางเป้าหมายจะเป็นแพลตฟอร์มระดับภูมิภาคภายในปี 2025 โดยต้องมีองค์ประกอบต่างๆ เพื่อให้ผู้ถือครองงานศิลปะต่างๆ สามารถเข้าถึงและจัดแสดงงานศิลปะได้ดียิ่งขึ้น

ชิ้นส่วนต่างๆ นี้ทาง Coral เรียกรวมกันว่า Coralverse โดยในงาน มีการเปิดตัวบริการ Coral NFT Wall 2.0 หน้าจอแสดงผลงานที่จะเปิดให้ศิลปินและนักสะสมที่ใช้งานแพลตฟอร์ม Coral สามารถแสดงงานที่ถือครองอยู่ตามจุดต่างๆ ที่หน้าจอติดตั้งเอาไว้เพื่อให้ทั้งศิลปินและนักสะสมสามารถแสดงผลงานและพูดคุยกันในโลกออฟไลน์ได้ง่ายขึ้น

สู่โลกการลงทุนยุคใหม่

ในงาน KBTG Vision 2025 คุณพอลยังเปิดตัวบริการ BigFin แสดงสถานะพอร์ตการลงทุนในโลกคริปโต โดยแสดงข้อมูลพื้นฐาน เช่น ราคาและรายงานกำไรขาดทุนได้โดยอัตโนมัติ พร้อมกับเปิดให้นักลงทุนสามารถแก้ไขราคาต้นทุนที่แท้จริงเพื่อให้ติดตามสถานะพอร์ตการลงทุนได้อย่างชัดเจน พร้อมแสดงประวัติธุรกรรมต่างๆ ย้อนหลัง

สำหรับการลงทุนของ KX มีกองทุน KX Endless Capital สำหรับการลงทุนในโลก Web3, DeFi, Metaverse เป็นการลงทุนพร้อมกับการเข้าไปเป็นพันธมิตร โดยจะประกาศบริษัทกลุ่มแรกที่ได้รับทุนเร็วๆ นี้

สรุป

แผนธุรกิจ KBTG Vision 2025 คือเป้าหมายในอีก 3 ปีที่เห็นทิศทางชัดเจนทั้งการลงทุน การพัฒนาบุคลากร การสร้างสรรค์บริการใหม่ เพื่อผลักดันให้ KBTG ก้าวสู่การเป็นบริษัทเทคโนโลยีแถวหน้า และที่สำคัญคือสนับสนุนให้ KBank ก้าวขึ้นเป็นธนาคารที่โดดเด่นที่สุดในระดับภูมิภาคเช่นเดียวกัน

ใครที่สนใจร่วมงานกับทาง KBTG ส่ง CV มาที่ recruitment@kbtg.tech

Blognone Jobs Premium