Huawei เปิดตัวสมาร์ทโฟน Mate 50 Series ที่มีจุดเด่น คือ รองรับการสื่อสารผ่านดาวเทียมทำให้ผู้ใช้สามารถส่งข้อมูลขนาดสั้นหรือเปิดระบบ GPS ได้โดยใช้ระบบดาวเทียมนำทางของ BeiDou (BeiDou Navigation Stellite System - BDS) ซึ่งเป็นระบบ GPS เวอร์ชันจีน
Huawei ใช้ชิปที่พัฒนาโดยบริษัท CETC Acoustic-Optic-Electronic Technology ทำให้สามารถเชื่อมกับระบบดาวเทียม BeiDou ได้ และในปัจจุบันมีเพียงผู้ผลิตชิปของจีนเท่านั้นที่ได้รับการอนุญาตให้ผลิตชิปที่เชื่อมต่อกับ BeiDou
Huawei Mate 50 series ประกอบด้วย Huawei Mate 50, Mate 50 Pro และ Porsche Design Mate 50 RS
Huawei Mate 50 ใช้จอ OLED ที่มี refresh rate 90Hz แรม 8GB ความจุ 256GB กล้องหลังมี 3 ตัว ได้แก่ กล้อง Ultra Aperture 50MP กล้อง Ultra-Wide 13MP และกล้อง Telephoto 12MP ส่วนกล้องหน้า Ultra-Wide 13MP ใช้แบตเตอรี่ 4460 mAh ชาร์จได้สูงสุด 66W มี 2 สี คือ Black และ Silver
ส่วน Mate 50 Pro ใช้จอ OLED มี refresh rate อยู่ที่ 120Hz มีทั้งแบบซิมเดียวและ 2 ซิม แบบซิมเดียวมีแรม 8GB และความจุ 256GB ขณะที่แบบ 2 ซิมจะมีเพิ่มความจุ 512 GB ให้เลือกด้วย ส่วนกล้องหลังมี 3 ตัวเช่นเดียวกันต่างกันแค่กล้อง Telephoto มีความละเอียด 64MP ส่วนกล้องหน้า Ultra-Wide 13MP และมีเซนเซอร์ถ่ายวัดระยะแบบ 3D (3D Depth Sensing Camera) แบตเตอรี่ความจุ 4700 mAh ชาร์จได้สูงสุด 66W เช่นเดียวกัน Mate 50 Pro มี 3 สี คือ Black, Silver และ Orange
Porsche Design Mate 50 RS ใช้จอ OLED มี refresh rate อยู่ที่ 120Hz แรม 8GB ความจุ 512GB กล้องหลัง 3 ตัว ได้แก่ กล้อง Ultra Aperture 50MP กล้อง Ultra-Wide 13MP และกล้อง Super TeleMacro 48MP พร้อมกล้องหน้า Ultra-Wide 13MP มีเซนเซอร์วัดระยะ 3D เช่นเดียวกับรุ่น Pro แบตเตอรี่ความจุ 4700 mAh ชาร์จได้สูงสุด 66W รุ่นนี้มี 2 สี คือ Ink Blue และ Purple
ทั้ง 3 รุ่นใช้ชิป Snapdragon 8+ Gen 1 และจะใช้ระบบปฏิบัติการ Harmony OS นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์เปลี่ยนข้อความเป็นเสียง ทำให้สามารถคุยโทรศัพท์ด้วยการพิมพ์ข้อความลงไป และมีฟีเจอร์การแปลภาษาแบบทันที อย่างไรก็ตาม Mate 50 รองรับแค่ 4G ไม่สามารถใช้ 5G ตามข้อจำกัดของสหรัฐ
ที่มา: Nikkei Asia, Huawei