แม้ว่าจะอยู่ในสภาวะเงินเฟ้อและปัญหาซัพพลายเชน Apple ก็ยังคงวางจำหน่าย iPhone 14 ด้วยราคาเท่าเดิมในสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ราคา iPhone 14 ในยุโรปกลับเพิ่มขึ้นถึงราว $300-$400 (ราว 10,900-14,500 บาท) ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นมาเกือบ 30% จากปัญหาค่าเงินยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินเหรียญสหรัฐโดย 1 ดอลลาร์สหรัฐจะเทียบเท่ากับ 0.9991 ยูโร
ราคา iPhone 14 ในสหรัฐเทียบกับในยุโรปเป็นดังนี้
- iPhone 14 ในสหรัฐอเมริกาเริ่มต้นที่ $799 ราคาในยุโรปขึ้นมาถึง $999 (€999)
- iPhone 14 Plus ในสหรัฐอเมริกาเริ่มต้นที่ $899 ราคาในยุโรปขึ้นมาถึง $1,149 (€1,149)
- iPhone 14 Pro ในสหรัฐอเมริกาเริ่มต้นที่ $999 ราคาในยุโรปขึ้นมาถึง $1,299 (€ 1,299)
- iPhone 14 Pro Max ในสหรัฐอเมริกาเริ่มต้นที่ $1,099 ราคาในยุโรปขึ้นมาถึง $1,449 (€1,299)
เท่ากับว่าราคาของไลน์ iPhone 14 Pro เพิ่มขึ้นมาเกือบ 30%
ภาพจากเว็บไซต์
Apple ประเทศเยอรมนี
นอกจากนี้ หากเทียบราคากับหน่วยเงินปอนด์ของสหราชอาณาจักรจะเพิ่มขึ้นมาประมาณ $200-$300 (ประมาณ 7,290-10,900 บาท) ดังนี้
- iPhone 14 ในสหรัฐอเมริกาเริ่มต้นที่ $799 ราคาในสหราชอาณาจักรขึ้นมาถึง $977 (£849)
- iPhone 14 Plus ในสหรัฐอเมริกาเริ่มต้นที่ $899 ราคาในสหราชอาณาจักรขึ้นมาถึง $1,090 (£949)
- iPhone 14 Pro ในสหรัฐอเมริกาเริ่มต้นที่ $999 ราคาในสหราชอาณาจักรขึ้นมาถึง $1,260 (£1,099)
- iPhone 14 Pro Max ในสหรัฐอเมริกาเริ่มต้นที่ $1,099 ราคาในสหราชอาณาจักรขึ้นมาถึง $1,379 (£1,199)
ภาพจากเว็บไซต์
Apple สหราชอาณาจักร
ส่วนราคา iPhone 14 ในไทยเพิ่มขึ้นไม่มากนักโดยแพงกว่าเดิมราว 3000-4000 บาทเพราะค่าเงินบาทอ่อนตัว
ที่มา: SamMobile, GSMArena และ Independent.ie