DJI เปิดสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ชื่อ DJI Sky City ใน Shenzhen เป็นตึกคู่พร้อมทางเดินลอยฟ้าเชื่อมระหว่างอาคาร ผลงานการออกแบบโดย Foster + Partners
DJI Sky City ประกอบไปด้วยตึกสูง 212 เมตร และอีกตึกสูง 194 ตั้งอยู่คู่กัน โดยมีทางเดินสะพานแขวนลอยฟ้ายาว 90 เมตรสูงจากพื้นดิน 105 เมตร เชื่อมระหว่าง 2 อาคารตรงชั้นที่ 24 รูปลักษณ์ของอาคารมีลักษณะคล้ายเสาโครงสร้างเหล็กที่มีกล่องกระจกหลายกล่องยึดติดเอาไว้โดยรอบ มีการเล่นระดับของโครงสร้างอาคารและพื้นที่ดาดฟ้าต่างๆ ให้ความรู้สึกสมกับชื่ออาคารที่แปลว่า "เมืองลอยฟ้า"
DJI Sky City มีพื้นที่สำหรับห้องปฏิบัติการเพื่อทีมวิจัยและทดสอบโดรนของ DJI ด้วย โดยมีการออกแบบห้องเพดานสูงและลดจำนวนเสาในห้องเพื่อให้ได้พื้นที่เหมาะต่อการบินโดรนโดยเฉพาะ ซึ่งสามารถสังเกตเห็นห้องเหล่านี้ได้อย่างชัดเจนจากภายนอกอาคารตรงตำแหน่งที่มีโครงสร้างรูปตัว V ที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ
Foster + Partners ออกแบบ DJI Sky City โดยพยายามเพิ่มพื้นที่สีเขียวด้วยการออกแบบสวนบนดาดฟ้าอาคาร ควบคู่ไปกับการออกแบบพื้นที่ด้านล่างรอบอาคารที่มีการจัดสวนและปลูกต้นไม้จำนวนมาก
พื้นที่ใช้สอยภายในอาคาร 242,000 ตารางเมตร นอกเหนือจากการใช้เป็นสำนักงานและห้องปฏิบัติการเพื่องานวิจัยและทดสอบโดรนแล้ว ยังมีโรงภาพยนตร์, โรงยิม, ทั้งสนามประลองหุ่นยนต์ รองรับการใช้งานของพนักงาน DJI กว่า 8,000 ชีวิต และยังมีพื้นที่สาธารณะประโยชน์
ตัวอาคารมีการนำเอาเทคโนโนโลยีประหยัดพลังงานมาใช้งาน อาทิ การออกแบบอาคารที่เน้นการใช้กระจกเพื่อรับแสงอาทิตย์ช่วยลดการใช้ไฟฟ้าสำหรับระบบแสงสว่าง, ระบบควบคุมอาคารที่จะลดการใช้งานในช่วง off-peak (หมายถึงช่วงเวลาที่ผู้ใช้ไฟฟ้าโดยภาพรวมมีการใช้ไฟน้อย), ระบบลิฟต์โดยสารแบบ TWIN Elevator ของบริษัท TKE ที่มีการติดตั้งลิฟต์โดยสาร 2 ตัวให้เคลื่อนที่ขึ้นลงในปล่องลิฟต์เดียวกัน ช่วยให้ใช้งานโครงสร้างลิฟต์ของอาคารได้อย่างคุ้มค่ายิ่งขึ้น (ซึ่งผู้พัฒนาระบุว่าลิฟต์แบบนี้รองรับการโดยสารได้มากกว่าแบบทั่วไป 40% และมีระบบผลิตไฟหมุนเวียนกลับทำให้ลดการใช้พลังงานได้ด้วย) นอกจากนี้ Foster + Partners ยังออกแบบอาคารให้มีการรองรับและกักเก็บน้ำฝนเพื่อมาใช้ประโยชน์ รวมทั้งระบบหมุนเวียนน้ำทิ้งเพื่อนำกลับมาใช้สำหรับดูแลต้นไม้ในสวนบนอาคารด้วย
หลังการก่อสร้างที่กินระยะเวลา 6 ปี ในตอนนี้เรียกได้ว่าอาคาร DJI Sky City ได้กลายมาเป็นแลนด์มาร์คใหม่อีกหนึ่งแห่งของ Shenzhen ก็คงไม่ผิด