Intel vPro คือแพลตฟอร์มเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มศักยภาพให้การดำเนินธุรกิจได้จริงจาก Intel ผ่านจุดเด่นเรื่องประสิทธิภาพการทำงาน ความปลอดภัย และการเชื่อมต่อที่เหมาะกับยุค Work from Anywhere
ดังนั้นลองมาทำความรู้จักแพลตฟอร์ม Intel vPro ให้มากขึ้นว่ามีแบบใด เหมาะกับธุรกิจใดบ้าง พร้อมตัวอย่างการประยุกต์ใช้จาก CTC หรือ บริษัท ซีทีซี โกลบอล (ประเทศไทย) จำกัด หนึ่งในธุรกิจ SI ชั้นนำของไทย
Intel vPro เพิ่มศักยภาพให้ธุรกิจ
การใช้งานเทคโนโลยีต่าง ๆ ในระดับองค์กร คงมองแค่เรื่องประสิทธิภาพการใช้งานไม่ได้ เพราะเรื่องความปลอดภัยก็สำคัญไม่แพ้กัน ทำให้ Intel พัฒนาแพลตฟอร์ม Intel vPro เพื่อใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ภายในองค์กรโดยเฉพาะ ผ่านการผสานระหว่างประสิทธิภาพ และความปลอดภัยไว้ด้วยกัน
ในมุมความปลอดภัยแพลตฟอร์ม Intel vPro จะมีการฝังระบบความปลอดภัยมาในระดับ Silicon และ Intel vPro เป็นแพลตฟอร์มธุรกิจหนึ่งเดียวที่มาพร้อมกับฮาร์ดแวร์ด้านเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ช่วยตรวจสอบ Ransomware และการโจมตีซอฟต์แวร์แบบต่าง ๆ ได้
ส่วนเรื่องประสิทธิภาพการใช้งานแพลตฟอร์ม Intel vPro ถูกออกแบบให้ทำงานบน 12thGen intel® core™ processors รองรับการทำงานแบบ Work from Anywhere ผ่านการรองรับการเปิดใช้งานเครื่องตลอดเวลา และการเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi 6E โดย Intel vPro มีให้เลือก 4 รุ่นย่อยดังนี้
เหมาะกับธุรกิจทุกระดับ รับกระแสทำงานยุคใหม่
วิรัตน์ ราชคม Technical Services Manager – System Team ของ CTC เสริมว่า การลงทุนด้าน IT กลายเป็นเรื่องสำคัญในทุกธุรกิจ ถ้าองค์กรไหนไม่จริงจังย่อมแข่งขันได้ลำบาก แต่ถ้าเน้นเรื่องประสิทธิภาพ และความปลอดภัยก็ไม่พอ ต้องรองรับกระแสการทำงานยุคใหม่ เช่น Work from Anywhere ด้วย
“Intel vPro ค่อนข้างเหมาะกับทุกธุรกิจ โดยเฉพาะกับ FSI หรือ Financial Services Industry ที่ดูแลเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ เพราะต้องมีการควบคุมเรื่องความปลอดภัยสูง ยิ่งตัวคอมพิวเตอร์มีการติดตั้งหลายระบบ การดูแลความปลอดภัยก็ยิ่งยาก แต่ไม่ใช่กับ Intel vPro ที่สามารถควบคุมตัวเครื่องได้ในระดับฮาร์ดแวร์”
ภาพรวมการลงทุนระบบไอทีขององค์กรต่าง ๆ ในปัจจุบันจะเน้นที่คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล หรือกลุ่ม End Point เป็นหลักเพื่อรองรับการทำงานแบบ Work from Anywhere จากเดิมที่จะเน้นลงทุนระบบ หรือ Back End เพื่อเน้นการทำงานที่สำนักงาน
CTC กับการติดตั้ง Intel vPro เพื่อธุรกิจ
ทั้งนี้ CTC มีการเข้าไปติดตั้งแพลตฟอร์ม Intel vPro ให้กับหลากหลายองค์กร ซึ่งผลลัพธ์ออกมาคือ แพลตฟอร์มนี้ยกระดับธุรกิจได้จริง โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยของกลุ่ม End Point และองค์กรต่าง ๆ ยังสามารถลงเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน หรือ OPEX ที่ควบคุมค่าใช้จ่ายได้ง่ายกว่า
“จากเดิมการลงทุนด้านไอทีเกือบทั้งหมดจะเป็น CAPEX หรือค่าใช้จ่ายที่มีความผูกพันธ์ระยะยาว ซึ่งบริษัทไม่สามารถควบคุมได้ ลงทุนแล้วถ้าไม่ใช้ก็จะเสียไปเลย ซึ่ง Intel vPro ที่ฝ่ายไอทีของบริษัทสามารถควบคุมตัวเครื่องจากระยะไกลแม้จะปิดเครื่อง ช่วยให้บริษัทไม่ต้องลงทุนระบบความปลอดภัยอื่น ๆ มาช่วยเพิ่ม”
ขณะเดียวกัน CTC มีการช่วยเหลือลูกค้าที่ใช้งานแพลตฟอร์ม Intel vPro ทุกวันตลอด 24 ชม. เพื่อให้การทำงานทำได้ต่อเนื่อง นอกจากนี้การซัพพอร์ตยังทำได้ผ่านระยะไกล ลดระยะเวลาการเข้าไปให้บริการ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายเช่นกัน
รู้จัก CTC บริษัท SI ระดับสากลจากญี่ปุ่น
สำหรับ CTC ปัจจุบันเป็นบริษัท SI ระดับอาเซียน มีแหล่งทุนหลักจากประเทศญี่ปุ่น ให้บริการกับลูกค้าหลากหลายอุตสาหกรรม มีจุดเด่นเรื่องการซัพพอร์ตลูกค้าทุกวันตลอด 24 ชม. และมีทีมงานที่พร้อมแก้ปัญหาในทุกระดับ หรือตั้งแต่การแก้ไขเบื้องต้น จนไปถึงปัญหาที่แก้ไขได้ยาก
“เรามีจุดเด่นที่ตอบโจทย์บริษัทข้ามชาติที่ทำตลาดทั่วอาเซียนได้ เพราะ CTC สามารถติดตั้งระบบต่าง ๆ พร้อมดูแลระบบเหล่านั้นผ่านทีมงานในประเทศต่าง ๆ ของภูมิภาคนี้ ยิ่งทางทีมผู้บริหารค่อนข้างให้ความสำคัญกับการซัพพอร์ตลูกค้า ทำให้ CTC มีความน่าเชื่อถือในการให้บริการกับลูกค้า”
ทั้งนี้องค์กรของ CTC สามารถแบ่งได้เป็น 3 กลุ่มตามงานบริการคือ
สำหรับผู้ที่สนใจ หรือองค์กรใดที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ CTC หรือ บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ทางอีเมล natrapa.khunnathamdee@intel.com