ความล่าช้าในการขนส่งข้อมูลขนาดใหญ่ถือว่าเป็นหนึ่งในอุปสรรคที่ทำให้ผู้ใช้ส่วนหนึ่งไม่อยากฝากระบบไอทีไว้กับ cloud computing ซึ่งสาเหตุหนึ่งของปัญหานี้เกิดจากกระบวนการที่ฟุ่มเฟือยของโปรโตคอล TCP และเพื่อจัดการกับปัญหานี้ บริษัท Aspera จึงได้พัฒนาโปรโตคอลชื่อ Fast and Secure Protocol หรือมีชื่อย่อว่า FASP เพื่อตัดขั้นตอนบางขั้นตอนของ TCP ออกไป ทั้งนี้ ข้อมูลจากแหล่งข่าวได้ยกตัวอย่างการขนส่งข้อมูลข้ามสหรัฐอเมริกาผ่านแบนด์วิธขนาด 100 Mbps ว่า ถ้าหากใช้โปรโตคอล TCP แล้ว ความเร็วที่ได้จริงอาจเหลือเพียง 10 Mbps หรือน้อยกว่านั้น แต่ทาง Aspera อ้างว่าถ้าใช้โปรโตคอล FASP แล้วจะได้ความเร็วถึง 95 Mbps หรือมากกว่านั้น
เมื่อเร็วๆนี้ อเมซอนได้ประกาศว่าจะใช้โปรโตคอล FASP เพื่อเพิ่มความเร็วในการขนส่งข้อมูลระหว่างระบบคอมพิวเตอร์ของลูกค้ากับบริการกลุ่มเมฆ* ที่อยู่ภายใต้บริการ Amazon Web Services เช่น บริการ Amazon EC2, บริการ Amazon S3, และบริการ Amazon SimpleDB เป็นต้น โดยบริการขนส่งข้อมูลด้วยโปรโตคอล FASP ได้ถูกเพิ่มเข้าไปในบริการเสริมที่ชื่อ Aspera On-demand
* บริการกลุ่มเมฆ (cloud service) หมายถึง บริการออนไลน์ที่อาศัย cloud computing เป็นพื้นฐานในการให้บริการ
ที่มา - Technology Review