ตำนาน Google Voice กับ App Store เรื่องราวเริ่มตั้งแต่แอปเปิลปฏิเสธโปรแกรม Google Voice ไม่ให้เข้า App Store, AT&T: เราไม่ได้แบน Google Voice เป็นหน้าที่ของแอปเปิลต่างหาก ตามมาด้วย FCC ส่งจดหมายเตือนแอปเปิลและ AT&T กรณี Google Voice ซึ่งทั้งสามบริษัทที่เกี่ยวข้องได้ส่งคำตอบให้ FCC และเผยแพร่ต่อสาธารณะ (Blognone เคยลงเฉพาะคำตอบของแอปเปิล) เรื่องก็ดูเงียบๆ ไป
แต่เอาเข้าจริงแล้วยังไม่จบครับ เพราะกูเกิลเพิ่งเผยแพร่คำตอบ "เวอร์ชันจริง" ออกมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
คำตอบเวอร์ชันแรกของกูเกิลเมื่อเดือนสิงหานั้นไม่ใช่เวอร์ชันเต็ม เพราะกูเกิลขอให้ FCC ปิดบังข้อมูลบางส่วน เช่น คำสนทนาทางโทรศัพท์และอีเมลของทั้งสองบริษัท แต่หลังจากมีกระแสกดดันให้ FCC เปิดเผยข้อมูลส่วนนี้ ผ่านพระราชบัญญัติการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารของสหรัฐ (Freedom of Information Act) กูเกิลเลยตัดสินใจเปิดเผยเวอร์ชันเต็ม
สิ่งที่ทำให้เวอร์ชันแรกกับเวอร์ชันเต็มต่างกัน คือคำตอบของกูเกิลต่อคำถามข้อที่ 2 ของ FCC ซึ่งในฉบับแรกถูกตัดออกไป คำถามมีอยู่ว่า
หลังจากโดนแอปเปิลปฏิเสธโปรแกรม Google Voice (รวมถึงโปรแกรมอื่นๆ เช่น Google Latitude) แอปเปิลให้เหตุผลของการปฏิเสธกับกูเกิลอย่างไร ช่วยเปิดเผยการสนทนาที่เกี่ยวข้อง ระหว่างกูเกิล/แอปเปิล/AT&T ด้วย
คำตอบแบบเต็มๆ มีดังนี้ (ต้นฉบับ PDF)
a. คำอธิบายของแอปเปิลในการปฏิเสธโปรแกรม Google Voice
ตัวแทนของแอปเปิลแจ้งต่อกูเกิลว่า Google Voice ถูกปฏิเสธเพราะมีการทำงานซ้ำกับฟังก์ชันโทรศัพท์ของ iPhone และแอปเปิลไม่ต้องการให้มีโปรแกรมลักษณะนี้ใน App Store
b. คำอธิบายของแอปเปิลในการปฏิเสธโปรแกรม Google Latitude
ตัวแทนของแอปเปิลแจ้งต่อกูเกิลว่า Google Latitude ถูกปฏิเสธเพราะโปรแกรม 1) อาจซ้ำซ้อนกับโปรแกรมแผนที่ของ iPhone 2) ทำให้ผู้ใช้สับสน เพราะโปรแกรมแผนที่ของ iPhone ก็ใช้ Google Maps 3) มีฟีเจอร์มากกว่าโปรแกรมแผนที่ของ iPhone สรุปว่าแอปเปิลไม่ต้องการให้มีโปรแกรมที่ทำหน้าที่ซ้ำซ้อนกันเช่นเดียวกับกรณีของ Google Voice
c. คำสนทนาระหว่างกูเกิลกับ AT&T ในประเด็นเหล่านี้
ไม่มี
d. คำสนทนาระหว่างกูเกิลกับแอปเปิลในประเด็นเหล่านี้
หลังจาก Google Voice ถูกส่งเข้ากระบวนการของ App Store เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2009 ตัวแทนของกูเกิลและแอปเปิลได้สนทนากันในเรื่องนี้ ระหว่างวันที่ 5-28 กรกฎาคม 2009 ด้วยวิธีการสื่อสารหลายชนิดประกอบกัน ตัวแทนของกูเกิลคือ Alan Eustace (Senior Vice President of Engineering & Research) ส่วนตัวแทนของแอปเปิลคือ Phil Schiller (Senior Vice President of Worldwide Product Marketing) ในการสนทนาทางโทรศัพท์ของบุคคล 2 คนนี้เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2009 ทาง Phil Schiller ได้แจ้งต่อ Alan Eustace ว่าแอปเปิลได้ปฏิเสธโปรแกรม Google Voice ด้วยเหตุผลข้อ a. ข้างต้น
หลังจาก Google Latitude ถูกส่งเข้ากระบวนการของ App Store เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2009 ตัวแทนของกูเกิลและแอปเปิลได้สนทนากันในเรื่องนี้ ระหว่างวันที่ 5 มีนาคม-10 เมษายน 2009 ตัวแทนของทั้งสองฝ่ายคือ Eustace กับ Schiller เช่นเดียวกัน ทั้งสองฝ่ายพบปะแบบเจอหน้ากันเมื่อวันที่ 10 เมษายน ทาง Phil Schiller เป็นฝ่ายแจ้งต่อ Eustace ว่าแอปเปิลได้ปฏิเสธโปรแกรม Google Latitude ด้วยเหตุผลข้อ b. ข้างต้น
คำตอบของกูเกิลขัดกับคำตอบของแอปเปิล ที่บอกว่า "เรายังไม่ได้ปฏิเสธ ตอนนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการศึกษาโปรแกรม" แปลว่ามีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโกหก
เว็บไซต์ TechCrunch วิเคราะห์ว่าแอปเปิลปล่อยให้โปรแกรมที่มีฟีเจอร์ซ้ำซ้อนกับ iPhone เข้าไปใน App Store จำนวนมาก แต่ที่ปฏิเสธโปรแกรมจากกูเกิลก็เป็นเพราะไม่อยากให้ผู้ใช้ iPhone ไปผูกพันกับบริการจากค่ายกูเกิลมากนั่นเอง ส่วนเหตุผลที่กูเกิลปิดบังข้อมูลในรอบแรก น่าจะเป็นเพราะอยากไว้หน้าและให้โอกาสแอปเปิลสักรอบหนึ่ง (ซึ่งในภายหลังกูเกิลพบว่าแอปเปิลให้ข้อมูลขัดกับตัวเอง เลยปล่อยข้อมูลเวอร์ชันเต็มออกมา)
ที่มา - Google Public Policy Blog, TechCrunch