เจาะลึก SCB Technology ทีมเทคโนโลยีธนาคาร ที่ดูแลธุรกรรมนับล้านในหนึ่งวินาที

by workplace
10 February 2023 - 04:30

หากพูดถึงธนาคารในแง่มุมเทคโนโลยีในปัจจุบัน คงปฏิเสธไม่ได้ว่าอุตสาหกรรมนี้มีการปรับตัวอย่างรวดเร็วเป็นอันดับต้นๆ ซึ่งธนาคารไทยพาณิชย์หรือ SCB จัดได้ว่าเป็นธนาคารระดับแถวหน้าที่ให้ความสำคัญของเรื่องนี้อย่างจริงจัง

ปัจจุบันธนาคารถือว่าเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีความท้าทาย ต้องปรับตัวและเปิดกว้างมากยิ่งขึ้น และ SCB เป็นองค์กรที่สร้าง New Way of Work ตอบโจทย์ธุรกิจในอนาคต สำหรับนักพัฒนาหรือคนทำงานในสายเทคที่กำลังมองหาตำแหน่งงานในธนาคารไทยพาณิชย์อยู่…

Blognone Workplace จะพาไปรู้จักกับ ทีม SCB Technology กลุ่มนักพัฒนาทีมีความรู้ ทักษะและความชำนาญด้านเทคโนโลยีระดับ Enterprise Platform ให้มากขึ้น

ภาพรวมทีม SCB Technology

ทีม SCB Technology รับผิดชอบระบบเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคของธนาคาร คุณเติ้ล วีรสกล ชวะโนทัย ตำแหน่ง Head of Digital Delivery ดูแลภาพรวมของทีมเล่าว่า ทีม SCB เทคโนโลยีแบ่งหน้าที่เป็น 3 ฝ่ายหลักๆ

  • ทีม Digital Innovation มีหน้าที่หาเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่มีประสิทธิภาพมาตอบโจทย์ด้านธุรกิจของธนาคาร และความต้องการของลูกค้า
  • ทีม Core Bank ดูแลและพัฒนาระบบ back-end ที่เป็นหัวใจหลักของธนาคาร เช่น ระบบ เงินฝาก ระบบชำระเงิน หรือระบบสาขา
  • ทีม Infrastructure ดูแลโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคของธนาคาร

คุณเติ้ลเน้นย้ำว่า แม้ทีม core bank และทีม infrastructure จะดูมีหน้าที่แค่ดูแลระบบ แต่ในความเป็นจริงก็ต้องทำในเชิงพัฒนาและนำเสนอของใหม่ๆขึ้นมาด้วยเช่นกัน

คุณเติ้ล วีรสกล ชวะโนทัย ตำแหน่ง Head of Digital Delivery

วัฒนธรรมการทำงาน และ career path และการให้โอกาสในการทำงาน

สำหรับการทำงานของทีมเทค จะใช้วิธีแบบไฮบริด คือเอาวิธีการเดิมอย่าง SDLC (System Development Life Cycle) และ Agile โดยนำข้อดีของทั้ง 2 วิธีมารวมกัน เนื่องจากระบบของธนาคาร ต้องอาศัยการทำงานร่วมกันกับหลายภาคส่วนภายในธนาคาร และกระทบผู้ใช้จำนวนมาก ทำให้หลายๆ ส่วนไม่สามารถอัพเกรด หรือเปลี่ยนแปลงได้ทุกสัปดาห์หรือทุกเดือน แต่ต้องมีการวางแผน วางตารางที่ชัดเจน

ส่วนเรื่องโอกาสในการทำงานและ career path ที่ SCB Technology มีสไตล์การทำงานเชิงบริษัทสตาร์ทอัพ คือเปิดโอกาสให้ตั้งแต่เด็กจบใหม่ ไปจนถึงระดับ mid-career สามารถแสดงความเห็น และเรียนรู้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ ยังมีหน่วยงาน Digital Technology Academy ส่งเสริมการเรียนรู้ทั้ง Technical skill Soft skill หรือกระทั่งการเรียนผ่าน e-learning ที่ไม่ได้มีแค่คอร์สเรื่องการทำงาน แต่มีคอร์สอื่นๆ เช่น คอร์สการสื่อสารภาษาอังกฤษ คอร์สทำอาหารก็มี

ขณะเดียวกันในระหว่างการทำงาน ก็จะมีการ coaching จากรุ่นพี่หรือหัวหน้า เพื่อให้พนักงานรุ่นใหม่ๆ ได้เติบโตขึ้นมาเป็นผู้นำในอนาคตได้ด้วย และยังมี Boostcamp ที่เรียกว่า New Joiner Onboarding Program ที่จะปูพื้นฐานการทำงานภายในองค์กรให้พนักงานใหม่ ทั้ง Coding languages และ Tools ต่างๆ ไปจนถึง SCB Culture ที่มีรูปแบบการทำงานแบบ Hybrid Workplace พนักงานทุกคนทำงานร่วมกันอย่างสนุก เป็น Teamwork มีเป้าหมายเน้นความสำเร็จและให้ลูกค้าพึงพอใจสูงสุด

สถานที่แห่งการให้โอกาส

คนที่เป็นตัวอย่างได้ดีที่สุด ในแง่ของการได้รับโอกาสจาก SCB Technology คือคุณต่าย ภา ภูรีมหาววงศ์ ตำแหน่ง AVP Project Manager

ที่บอกว่ากรณีคุณต่ายคือตัวอย่างที่ดีเรื่องการให้โอกาสของ SCB Technology เพราะแบ็คกราวด์คุณต่าย ไม่ได้มีประสบการณ์ ไม่เคยทำงานสายเทคหรือแม้แต่สายธนาคารมาก่อน คุณต่ายเล่าว่าตัวเองจบปริญญาตรี สาขานิเทศศาสตร์ และ ปริญญาโท สาขา entrepreneurship เคยเป็น Project Manager ของบริษัทออแกไนเซอร์มาก่อนราว 6 ปี และมีใบรับรองด้าน PMP (Project Management Professional) และด้าน Agile แต่ SCB Technology ก็ให้โอกาสเข้ามาทำงาน

คุณต่าย ภา ภูรีมหาววงศ์ ตำแหน่ง AVP Project Manager

แม้การก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมใหม่ จะสร้างความกดดันและความท้าทายในช่วงแรก แต่คุณต่ายก็บอกว่าประทับใจวัฒนธรรมที่นี่มากๆ เพราะทุกคนให้ความช่วยเหลือและซัพพอร์ทดีมากๆ โดยที่ยังรับผิดชอบงานของตัวเองได้เป็นอย่างดี และไม่มีการได้ยินคำตอบว่า “นี่ไม่ใช่งานของฉัน ฉันไม่ทำ”

ขณะที่ในแง่ของตำแหน่งงาน Project Manager จะรับผิดชอบดูแลภาพรวมของโปรเจ็ค ให้สำเร็จออกมาให้ได้ โดยจะดูทั้งไทม์ไลน์ สโคปงาน ทรัพยากร งบประมาณ แก้ปัญหาต่างๆ ในโปรเจ็ค หรือถ้ามีอุปสรรคใดๆ ก็มีหน้าที่นำเรื่องนี้ขึ้นไปพูดคุยกับผู้บริหาร โดยโปรเจ็คที่คุณจ่ายรับผิดชอบอยู่ตอนนี้คือ Smart Teller หรือซอฟต์แวร์สำหรับสาขาธนาคาร ที่ SCB ต้องการจะยกเครื่องใหม่ทั้งหมด

คุณต่ายบอกว่า สาเหตุที่เลือกมาทำงานกับ SCB เพราะมองว่าด้วยอายุของตัวเองตอนนี้ เริ่มอยู่ในระดับ mid-career แล้ว เลยต้องการมองหาองค์กรที่มั่นคง มี career path ที่ดี ซึ่งที่ SCB ก็ตอบโจทย์ตรงนี้ทั้งหมด โดยเฉพาะ career path ที่มีพื้นที่ให้ได้พัฒนาตัวเองเพื่อไปต่อไว้อย่างชัดเจน พนักงานส่วนใหญ่จะรู้อยู่แล้วว่า โดยหน้าที่และ career ของตัวเองอยู่จุดไหน และจะไปต่อต้องทำยังไง ซึ่งค่อนข้างขัดแย้งกับภาพจำขององค์กรใหญ่ ที่ดูจะเติบโตยาก ต้องรอให้คนข้างบนย้าย ออกหรือเกษียณก่อน แต่ที่ SCB ไม่ได้เป็นในลักษณะนั้นเสียทีเดียว

สิ่งที่คุณต่ายประทับใจที่สุดกับการทำงานที่นี่คือสวัสดิการ โดยเฉพาะสวัสดิการที่ชื่อว่า SCB Telecare เวลาเจ็บป่วย ก็ไม่ต้องลำบากไปต่อคิวที่โรงพยาบาล สามารถพูดคุยกับคุณหมอผ่านทางวิดีโอคอลและรอรับยาอยู่ที่บ้าน

เสียงสะท้อนจากพนักงาน

บอส รังรักษ์ ไมตรีบริรักษ์ - ตำแหน่ง Software Engineering

น้องบอสเข้ามาทำงานที่ SCB เป็นที่แรกหลังเรียนจบ ปัจจุบันเข้าสู่ปีที่ 3 แล้ว หน้าที่ของน้องบอสคือเป็น back-end developer ดู Database และ micro service เป็นหลัก โดยโปรเจ็คที่รับผิดชอบคือ Smart Teller

สิ่งที่น้องบอสบอกว่าประทับใจที่สุดคือเมื่อตอนเช้ามา แทบไม่มี culture shock เลย เพราะถูกต้องรับด้วย New Joiner Onboarding Program ของ Digital Technology Academy ที่จะปูพื้นฐานภาษาโปรแกรมมิ่ง เครื่องมือที่ใช้ และวัฒนธรรมขององค์กรให้ตั้งแต่ต้น ทำให้เห็นภาพรวมว่า ตัวเองเมื่อเริ่มงานจริงๆ จะต้องเจอกับอะไร ทำงานกันอย่างไร แต่ละโปรเจ็คใช้ภาษาอะไร รวมถึงการได้คำแนะนำและความช่วยเหลือจากพี่ๆ ในทีมอยู่ตลอด ไม่ว่าจะเรื่องการแก้ปัญหาต่างๆ หรือการเขียนโค้ดแบบ clean code

ฝ้าย พชนัน รัตนโกวิน Cybersecurity Advisory Officer

น้องฝ้ายเข้ามาทำงานที่ SCB ได้ 1 ปีพอดี หน้าที่คือเป็นคนดูแลเรื่องความปลอดภัยไซเบอร์ และมาตรฐานความปลอดภัยต่างๆ โดยเป็นไปในลักษณะให้คำปรึกษาและคำแนะนำ เวลาทีมต่างๆ จะเริ่มทำโปรเจ็คใหม่ หรือมีการนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้งาน รวมถึงตรวจสอบ vendor จากภายนอกด้วยว่า มีมาตรฐานความปลอดภัยมากน้อยแค่ไหน ใช้ policy อะไรบ้าง มี IT Governance หรือไม่ เป็นต้น ไปจนถึงคอยให้ความรู้ (awareness) เรื่องความปลอดภัยไซเบอร์กับพนักงานในองค์กรด้วย

น้องฝ้ายบอกว่าที่เลือกมาทำที่นี่เพราะมองว่าธนาคารเป็นอุตสาหกรรมที่ค่อนข้างเข้มงวดเรื่องความปลอดภัยไซเบอร์ และ SCB ก็เป็นธนาคารอันดับต้นๆ ในเรื่องไอที ขณะเดียวกันตัวเองก็ไม่เคยทำงานสายธนาคารมาก่อน ก็แอบกลัวเรื่องวัฒนธรรมองค์กรว่าจะโบราณ แต่พอเข้ามาทำแล้ว น้องฝ้ายใช้คำว่า พลิกหน้ามือเป็นหลังมือเลย เพราะแม้จะอายุพนักงานในองค์กรจะหลากหลาย แต่ทุกคนสามารถทำงานร่วมกันได้ มีการรับฟัง เปิดรับความเห็นและให้ความช่วยเหลืออยู่ตลอด

สิ่งที่ประทับใจที่ SCB อีกอย่างคือ เนื่องจากการทำงานเป็น Cybersecurity Advisor ต้องคอยอัพเดตข้อมูลความรู้อยู่ตลอด ซึ่งที่ SCB ก็มี material ให้เยอะมากๆ แม้แต่พี่ๆ ในทีมก็ให้คำแนะนำ ให้ความรู้ ให้ความช่วยเหลือเช่นกัน รวมถึงเรื่องการสอบ certificate ต่างๆ ก็มีทั้ง material ทั้งการติวให้ และถ้าสอบได้บริษัทก็จะช่วยออกค่าสอบด้วย

สำหรับใครที่รู้ตัวว่าตัวเองเป็นคนชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา มี open mindset และอยากสัมผัสกับงานด้านเทคโนโลยีที่ครอบคลุมผู้ใช้งานหลากหลายและจำนวนหลักล้านคน ไม่ว่าจบใหม่หรือมีประสบการณ์ สามารถเข้าไปดูตำแหน่งที่ SCB Technology เปิดรับได้ที่ Line @CareerSCB

Blognone Jobs Premium