พรีวิว Wacom Bamboo 2nd generation "Pen & Touch"

by at1987
1 October 2009 - 15:53

ผมเห็นว่าตอนนี้กระแสเรื่อง touch กำลังมาแรง ในงาน Windows 7 Blogger Day ที่ผ่านมาก็มีพูดถึงเรื่องนี้เป็นเรื่องหลักเลยทีเดียว หลายคนที่ได้เห็นเทคโนโลยีนี้ก็เกิดอาการที่จะอยากลองใช้และลองเล่นดู แต่ก็ติดปัญหาว่าคอมพิวเตอร์ที่มีความสามารถนี้ราคาสูงมาก

พอดีผมได้มีโอกาสไปงานเปิดตัวของ tablet รุ่นใหม่จากทาง Wacom ในวันนี้และได้เขียนรายงานบรรยากาศและพรีวิวคร่าว ๆ กับตัว Bamboo รุ่นใหม่ ซึ่งเป็น tablet สำหรับผู้ใช้ทั่วไปลงในบล็อกของผม ซึ่งเจ้า Bamboo รุ่นใหม่นี้ได้นำเทคโนโลยี touch ที่ได้รับความนิยมมารวมกับเทคโนโลยี Pen Tablet ของทาง Wacom เอง ผมคิดว่านี้คือโซลูชั่นที่จะทำให้ผู้ใช้หลายคนได้ลองประสบการณ์ touch ได้ง่ายขึ้น (แน่นอน ในราคาที่ซื้อหามาใช้กันอย่างไม่ยากเย็นนัก) ผมขอนำส่วนของการพรีวิว Bamboo มาแชร์ให้เพื่อน ๆ ใน Blognone ได้อ่านกันครับ

Bamboo รุ่นใหม่นี้เป็นผลผลิตของ Wacom ที่ได้ค้นคว้าวิจัยเรื่องเทคโนโลยี touch เมื่อ 2 ปีที่แล้ว และเทคโนโลยีนี้ก็ถูกนำมาใส่ไว้ใน Bamboo รุ่นใหม่นี้ ก่อนที่จะพูดถึงตัวสินค้า ผมขอพูดตัวเทคโนโลยี touch ของทาง Wacom ก่อน เพราะผมคิดว่าในไม่ช้าต้องมีบริษัทคอมพิวเตอร์เจ้าอื่นนำ (ซื้อ) ไปใช้แน่นอน และเราจะได้เห็น Tablet PC ที่ touch ได้ หรือใช้ touchpad ที่เอาปากกาเขียนได้ครับ

Technology

Wacom Bamboo ตัวใหม่นี้ทาง Wacom ได้นำเทคโนโลยีการ touch เข้ามาใส่ไว้ในตัว ซึ่งเทคโนโลยีที่ทาง Wacom ใช้ในส่วนของ touch นั้นเรียกว่า Reversing Ramped Field Capacitive หรือ RRFC ซึ่งตัว RRFC ของ Wacom นั้นคล้ายกับตัว Capacitive touch ของบริษัทอื่น แต่ที่ทำให้ Wacom แตกต่างนั้นคือทาง Wacom นั้นใช้ glass sensor คู่กับชิ้นส่วน ASIC ซึ่งเป็นชิ้นส่วนที่ใช้ใน Pen Tablet ของตนเอง และการทำงานเกือบทั้งหมดนั้นเป็น Digital

ข้อได้เปรียบของ RRFC ได้แก่

  • ใช้งานกับอุปกรณ์ที่ใส่แบตเตอรี่ได้อย่างราบรื่นและไม่มีความจำเป็นต้องต่อกราวด์ (ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องเท้าเหยียบพื้นเพื่อให้ตัวเองเป็นกราวด์) นอกจากนี้การสลับจากการใช้ไฟจากแบตเตอรี่เป็นไฟกระแสสลับ การcalibrate ก็ยังคงเสถียรอยู่ (ไม่เพี้ยน)
  • ไม่ต้อง calibrate บ่อย ๆ เพราะที่มุมจะมีวงจรอนาล็อกคอยตรวจอยู่ถ้าเริ่มเพี้ยน RRFC จะทำการปรับตั้งให้เอง ทำให้ตลอดอายุการใช้งาน Wacom รับประกันว่า แทบจะไม่ต้อง calibrate เลย ถ้าคุณออกแบบสินค้ามาดี
  • แม่นยำทั้งแผ่นเซนเซอร์ ความแม่นยำอยู่ที่ ± 2mm ทั้งแผ่น ไม่ใช่ไปกดที่ขอบแล้วความแม่นยำลดลง
  • ทนต่อ noise และสัญญาณ์รบกวน
  • สามารถใช้ร่วมกับ pen tablet ได้

สำหรับข้อมูลทางด้านเทคนิคเพิ่มเติมสามารถอ่านได้จากที่นี้ครับ

Compare to the old one

นอกจากเรื่อง touch แล้ว Bamboo ตัวใหม่ก็ได้ปรับปรุงความสามารถต่าง ๆ จากตัวเก่าดังนี้ครับ

  • ขนาด tablet บางกว่าเดิม
  • ย้ายตำแหน่งปุ่ม ExpressKeys จากด้านบนเป็นทางด้านข้างแทน
  • เลย์เอาท์ของตัว tablet ทำมารองรับทั้งคนเขียนมือซ้ายและมือขวา โดยการพลิกตัว tablet กลับด้านซ้าย - ขวาเหมือน intuos 4
  • ปรับพื้นผิวการเขียนใหม่
  • (เฉพาะรุ่น) ปากการับแรงกดได้เพิ่มขึ้นเป็น 1024 ระดับ เท่า intuos 3 (intuos รุ่นเก่า)

ส่วนที่ตัดออกไป

  • Touch Ring ตัดทิ้ง ใช้ระบบ touch แทน
  • ไม่มีเมาส์เป็นอุปกรณ์เสริม
  • ไม่มีฐานวางปากกา แต่ตัวปากกาสามารถเสียบเข้ากับที่เก็บปากกาด้านข้างตัว tablet ได้เลย

Multi-Touch

สำหรับความสามารถด้าน touch นั้น ตัว Bamboo สามารถรองรับ touch ได้สูงสุดสองจุด โดยเราสามารถที่จะทำ muti-touch ได้บนตัว tablet เลย ซึ่งข้อได้เปรียบของการทำ multi-touch บน tablet คือขนาดพื้นที่ที่ใหญ่กว่า ทำให้เราสามารถทำท่าทางได้ง่ายกว่าครับ Bamboo นั้นรองรับ touch function ทั้งหมด 9 อย่างด้วยกัน ได้แก่

  • Navigate ใช้นิ้วเดียวเลื่อนบน tablet เพื่อเลื่อนเคอร์เซอร์
  • Click ใช้นิ้วเดียวแตะบน tablet
  • Double Click ใช้นิ้วเดียวแตะสองที
  • Right Click ใช้สองนิ้วแตะพร้อมกัน (อันนี้เหมือน Mac OS)
  • Forward & Back ใช้สองนิ้วสไลด์ไปทางซ้ายหรือขวา
  • Scroll ใช้สองนิ้วเลื่อนขึ้น - ลงหรือซ้าย - ขวา
  • Select & Drag ใช้นิ้วแตะไอคอนหนึ่งครั้งเพื่อเลือก แล้วแตะไอคอนอีกครั้งพร้อมกับลากไปด้วย
  • Rotate ใช้สองนิ้ว ถ้าคุณใช้มือขวา นิ้วโป้งจะเป็นจุดหมุน นิ้วชี้จะเป็นตัวกำหนดองศาว่าให้หมุนไปเท่าไร
  • Zoom ใช้สองนิ้วชิดกันแตะบน tablet แล้วกางนิ้วเพื่อซูมเข้า หุบนิ้วซูมออก (เหมือน iPhone)

และฟังก์ชั้น touch ที่ว่ามาสามารถใช้ร่วมกับปากกาได้ด้วยพร้อมกัน สำหรับใครอ่านแล้วนึกภาพไม่ออกเชิญดูตัวอย่างได้ที่นี้ครับ

Models

ทาง Wacom นั้นได้แบ่ง Bamboo ออกเป็น 4 รุ่น เพื่อผู้ใช้กลุ่มต่าง ๆ ดังนี้

Bamboo “a touch of inspiration”

เป็นรุ่นมาตรฐานของ Bamboo มีขนาด 4” x 6” (Size S) สามารถใช้ touch และปากกาได้ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการใช้ระบบ touch และปากกา, digital ink, แต่งภาพ และคนที่ต้องการ tablet ขนาดเล็ก พกพาง่าย

Bamboo Fun “a touch of creativity”

เป็น Bamboo ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดคือ 6” x 8” (Size M) สามารถใช้ touch และปากกาได้ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการใช้ระบบ touch และปากกา และเอาไปใช้งานวาดรูป, แต่งภาพ ฯลฯ

Bamboo Touch “a touch of simplicity”

เป็น Bamboo ขนาด Size S มีเพียงระบบ touch อย่างเดียว สำหรับคนที่ต้องการจะใช้ touch อย่างเดียว รุ่นนี้ไม่มีที่ใส่ปากกา (เพราะใช้ปากกาไม่ได้)

Bamboo Pen “a mark of personality”

เป็น Bamboo ขนาด 4” x 6” (Size S) ที่มีแค่ระบบปากกาเพียงอย่างเดียว สำหรับคนที่ต้องการจะใช้ปากกาอย่างเดียว หรือผู้มีงบประมาณจำกัด รุ่นนี้ปากการับน้ำหนักได้แค่ 512 ระดับและไม่มี ExpressKeys

Preview

ผมได้ลองเล่น Bamboo Fun ประมาณ 10 นาที โดยวาดรูปแบบเขี่ย ๆ เอาใน Corel Painter Essentials 4 บน Mac OS X (ขออภัยหากรูปไม่สวย) พอสรุปได้คร่าว ๆ ดังนี้ครับ

  • ตัว tablet บางมาก เขียนได้สบายมาก ปากการุ่นใหม่ก็เล็กลงจากรุ่นเก่าจับได้ถนัดมือ
  • ผิวพื้นที่เขียนสากกว่าเดิม ทำให้การเขียนง่ายขึ้นใกล้เคียงการเขียนดินสอบนกระดาษ ส่วนยางลบบอกตามตรงแข็งเหมือนยางลบจริง ๆ เลย แต่ตรงนี้ผมว่ามีข้อเสียกับคนที่ใช้ tablet ทำอย่างอื่นนอกเหนือจากการเขียนเพราะมันไม่ลื่นเหมือนเก่านั้นเอง อันนี้แล้วแต่ลักษณะการใช้งานของแต่ล่ะคน
  • ระบบ touch ดีมาก ลื่นไหล เนื่องจากพื้นที่ในการทำมือเยอะมาก เลยทำท่าได้สะดวก แต่บางท่า เช่น ท่า rotate ต้องฝึกหน่อยถึงจะได้ผลดี ผมค้นพบว่าถ้าเราทำ rotate ได้มุมที่ต้องการแล้ว ให้เอานิ้วที่เป็นจุดหมุนออกก่อน (หรือนิ้วโป้ง) แล้วมุมมันจะไม่เคลื่อน ผมลองเอามือซ้าย scroll มือขวาจับปากกา เหมือนตอนใช้ intuos 3 ก็ใช้งานถนัดดี
  • แต่สำหรับคนที่เขียนหนังสือแล้วเอามือทับกระดาษด้วยอย่างผมจะพบปัญหา คือตัว tablet จะเข้าใจว่ามือที่วางอยู่บน tablet คือนิ้วสองนิ้ว แล้วมันจะทำการ rotate ตรงนี้ผมว่าน่ารำคาญ ถ้าใครจะวาดรูปจริงจัง เราสามารถปิด touch function ที่ไม่ใช้ใน driver ได้ อันนี้ผมยกนิ้วให้
  • Bamboo ดีไซน์หน้าตาน่ารักมาก ผมอยากได้อ่ะ (อันนี้ล้อเล่นครับ ผมยังมี intuos 3 อยู่)

ทั้งหมดนี้ก็เป็นรายงานบผลการลองใช้ Bamboo คร่าว ๆ ผมเสียดายที่มีโอกาสลองแป๊บเดียว ถ้าผมได้มาลองนานกว่านี้ คงจะได้ลองความสามารถของมันมากกว่านี้ เช่น Bamboo Mini และ Bamboo Dock และการนำไปใช้กับระบบ touch ที่อยู่บน Windows 7

สุดท้ายนี้ ใครที่ลังแลอยู่ว่าจะเอา Bamboo ไปวาดรูป แล้วยังเลือกไม่ได้ว่าจะเอาตัวใหม่หรือตัวเก่า ผมแนะนำ Bamboo ตัวใหม่ครับ ใหม่กว่า สดกว่า ราคาถูกกว่าตัวเก่าหน่อยนึงครับ ส่วนใครที่อยากลองเทคโนโลยี touch แต่รับราคาของคอมพิวเตอร์ที่มี touch มาให้ไม่ไหว Bamboo ก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่คุ้มค่าในการเพิ่มระบบ touch แก่คอมพิวเตอร์ของคุณครับ ถ้าผมมีโอกาสได้จับตัวเป็น ๆ อีกครั้ง จะเอามารีวิวแบบหนัก ๆ ให้อ่านกันครับ

Blognone Jobs Premium