ธนาคารแห่งประเทศไทยรายงานถึงการพัฒนามาตรการเพื่อป้องกันการทุจริตทางการเงิน หรือที่มักเรียกกันว่าแอปดูดเงิน โดยพบว่าช่วงต้นปีที่ผ่านมา มูลค่าความเสียหายค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ จนเหลือ 116 ล้านบาทในเดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่พอมาถึงเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนก็กลับมียอดความเสียหายเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากคนร้ายอาศัยเทคนิคใหม่ๆ
แนวทางใหม่ของคนร้าย เช่น การหลอกลวงด้วยบทใหม่ๆ ที่แนบเนียนขึ้น มีการปลอมตัวเป็นหน่วยงานราชการ, บริษัทขนาดใหญ่, หรือญาติพี่น้อง กระบวนการส่ง SMS นั้นอาศัยแนวทางสร้างเสาสัญญาณโทรศัพท์ปลอมเพื่อส่ง SMS ได้โดยไม่ผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ ตลอดจนแอปดูดเงินเวอร์ชั่นใหม่ๆ มีความสามาถหลบการตรวจจับโดยธนาคาร
ความเสียหายรวม ย้อนหลัง 7 เดือน
แนวทางต่อไปหลังจากนี้คือการเพิ่มระบบตรวจสอบการทุจริตระดับ new-realtime เพื่อตรวจจับและล็อกบัญชีหากพบรูปแบบการโอนเงินที่น่าจะเป็นการทุจริต จะเสร็จสิ้นภายในสิ้นปีนี้ แนวทางนี้มีการใช้งานในหลายประเทศ Mastercard พัฒนาระบบร่วมกับ 9 ธนาคารในสหราชอาณา่จักรระบุว่าได้ผลดี แต่สิงคโปร์ที่ใช้งานระบบนี้มากลับหยุดความเสียหายได้เพียง 94,000 ดอลลาร์สิงคโปร์จาก 8 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์เท่านั้น
ที่มา - ธนาคารแห่งประเทศไทย