ดิสนีย์เปิดเผยจำนวนสมาชิกสตรีมมิ่ง Disney+ ในรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสล่าสุด โดยจำนวนสมาชิกรวมทั่วโลกอยู่ที่ 146.1 ล้านบัญชี ลดลง 11.7 ล้านบัญชี เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า สาเหตุจากลูกค้า Disney+ Hotstar ในอินเดียที่ยกเลิก 12.5 ล้านบัญชี หลังจาก Hotstar ไม่ได้ถือลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันคริกเกต Indian Premier League หากพิจารณาเฉพาะ Disney+ ในอเมริกาลดลง 3 แสนบัญชี ส่วนต่างประเทศเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบัญชี
ส่วนธุรกิจ Direct-to-Consumer ของดิสนีย์ ซึ่งรวมทั้งสตรีมมิ่ง Disney+, Hulu และ ESPN+ รายได้รวมเพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อนเป็น 5,525 ล้านดอลลาร์ แต่ขาดทุนเฉพาะส่วนนี้ 512 ล้านดอลลาร์
Bob Iger ซีอีโอดิสนีย์มองว่าธุรกิจสตรีมมิ่งยังคงสร้างการเติบโตได้ในระยะยาว และจะให้คุณค่ากับดิสนีย์ใน 5 ปีข้างหน้า โดยเชื่อมโยงกับธุรกิจหลักในเครือทั้งสตูดิโอภาพยนตร์ และสวนสนุก
ในช่วงแถลงผลประกอบการ Iger ยังพูดถึงแนวทางปรับปรุงรายได้-กำไร ของ Disney+ และธุรกิจสตรีมมิ่งตัวอื่น โดยเตรียมขึ้นราคาแพ็คเกจแบบไม่มีโฆษณาขึ้นอีก มีผลทั้ง Disney+ และ Hulu ในเดือนตุลาคม ส่วนแพ็คเกจแบบมีโฆษณายังไม่ขึ้นราคา นอกจากนี้ยังเตรียมขยายแพ็คเกจแบบมีโฆษณาให้มากประเทศขึ้น Iger ยังพูดถึงแนวทางป้องกันการแชร์รหัสผ่านหารบัญชี ว่าเตรียมทำระบบป้องกันเหมือน Netflix ภายในปี 2024
ที่มา: CNBC
จำนวนสมาชิก Disney+ ไม่รวม Disney+ Hotstar
ของแถม กำหนดเปิดตัว ภาพยนตร์ ซีรี่ส์ และเครื่องเล่นใหม่ในสวนสนุก ตั้งแต่ไตรมาสปัจจุบันเป็นต้นไป