Bloomberg รายงานว่า Amazon ออกนโยบายล่าสุด จะเก็บค่าธรรมเนียมกับผู้ขายบนแพลตฟอร์มเพิ่ม หากผู้ขายไม่ได้ใช้บริการจัดส่งสินค้าของ Amazon
การเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มมีผลเฉพาะกับผู้ขายที่เข้าโปรแกรม Seller Fulfilled Prime ของ Amazon เท่านั้น ส่วนผู้ขายทั่วไปจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป ซึ่งหากเลือกจะใช้บริการส่งสินค้าอื่นที่ไม่ใช่ Amazon ผู้ขายจะต้องเสียค่าธรรมเนียมเป็นจำนวน 2% ต่อการขายแต่ละครั้ง
แม้ 2% อาจเป็นจำนวนเงินที่เล็กน้อยต่อการขาย 1 ครั้ง แต่ก็มีผู้ขายเฟอร์นิเจอร์รายหนึ่งใน Amazon เผยว่าเขาอาจจะต้องเสียเงินจำนวน 1 ล้านดอลล่าร์สหรัฐต่อปี ถ้าจะใช้บริการส่งสินค้าที่ไม่ใช่ Amazon ซึ่งผู้ขายในแพลตฟอร์มหลายคนมองว่า Amazon พยายามกดดันให้พวกเขาใช้บริการจัดส่งสินค้าของ Amazon บางรายก็บอกว่าอาจจะต้องขึ้นราคาสินค้าเพราะมีค่าธรรมเนียมที่สูงขึ้น
ด้าน Amazon ระบุกับ Bloomberg ว่า “การเก็บค่าธรรมเนียมนี้จะช่วยครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการใช้งานระดับโครงสร้าง และยังช่วยวัดประสิทธิภาพของผู้ขายได้อีกด้วย”
โปรแกรม Seller Fulfilled Prime เปิดตัวในปี 2014 มีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มสินค้าคงคลังอย่างรวดเร็วโดยไม่สร้างภาระให้กับศูนย์จัดการสินค้าของ Amazon แต่ปิดตัวลงหลังจากผ่านไปสองปีเนื่องจากผู้ขายไม่ตรงตามมาตรฐานการจัดส่งของ Amazon ได้ โดย Amazon เพิ่งนำโปรแกรมนี้กลับมาในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาเท่านั้น ซึ่งดูเหมือนจะเป็นวิธีการเอาใจ FTC ในระหว่างการไต่สวนการต่อต้านการผูกขาด
ทางด้านคุณ Jason Boyce ผู้ก่อตั้ง Avenue7Media ซึ่งให้คำแนะนำแก่แบรนด์ต่าง ๆ ที่ใช้แพลตฟอร์มของ Amazon ว่า ค่าธรรมเนียมใหม่นี้แสดงให้เห็นว่า Amazon ไม่กลัว FTC เลย
ที่มา - Bloomberg via Arstechnica