TikTok เป็นแอปแรก ๆ ที่ทำให้เนื้อหาวิดีโอแบบสั้นให้เป็นที่นิยมขึ้นมาจนทำให้แพลตฟอร์มอื่น ๆ พากันตามกระแสหันไปทางวิดีโอขนาดสั้นไม่เว้นแม้แต่ YouTube เอง แต่ Financial Times ระบุอ้างอิงจากข้อมูลวงในระบุว่าฝ่ายบริหารของ YouTube เริ่มกังวลว่าวิดีโอสั้นบน YouTube Shorts กำลังบดบังเนื้อหาแบบยาวที่ YouTube ประสบความสำเร็จมานานหลายปี ซึ่งมันอาจส่งผลร้ายต่อบริษัท
จากรายงานของ Financial Time บอกว่ารายได้หลักของ YouTube ที่มาจากโฆษณาในวิดีโอแบบยาว กำลังประสบปัญหาเนื่องจาก ความนิยมที่เพิ่มขึ้นของ YouTube Shorts ซึ่งในช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมา YouTube มีรายได้ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตัวชี้วัดภายในแสดงให้เห็นว่าวิดีโอแบบยาวขาดความสนใจจากผู้ชม และแบรนด์ต่าง ๆ พากันไปเป็นพาร์ทเนอร์กับ YouTube Shorts มากขึ้น
ครีเอเตอร์บอกว่า YouTube Shorts เข้าถึงผู้ชมได้มากกว่า ซึ่งช่วยเพิ่ม Engagement ให้ช่องได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ Shorts ยังได้รับการออกแบบให้เน้นในอุปกรณ์พกพาเป็นหลัก และสมาร์ทโฟนก็มีแอป YouTube อยู่ทั่วไป ทำให้เข้าถึงคนได้ง่ายขึ้น ทางด้านผู้ชมก็มีพฤติกรรมการชมที่เปลี่ยนไปมีการจดจ่อต่อคอนเทนท์นั้น ๆ น้อยลง และสนใจวิดีโอขนาดสั้นมากกว่า
ทั้งนี้ YouTube Shorts ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อแข่งกับเนื้อหา YouTube ทั่วไป เพราะ YouTube แบ่งรายได้จากโฆษณาให้ครีเอเตอร์ด้วยรายได้ 55% จากโฆษณาของวิดีโอทั่วไป และ 45% สำหรับ Shorts อย่างไรก็ตามครีเอเตอร์ก็ได้รับส่วนแบ่งเพิ่มเติมจากข้อตกลงกับแบรนด์เช่นกัน ซึ่งแบรนด์ต่าง ๆ เป็นคนตัดสินใจได้ว่าต้องการโปรโมตเนื้อหาในรูปแบบใด นอกจากนี้การสร้างวิดีโอแบบยาวปกติสำหรับครีเอเตอร์ ใช้เวลาทำนานกว่าวิดีโอแบบสั้นมาก
แต่จะโทษแต่ผู้ชม และครีเอเตอร์ไม่ได้ YouTube เองก็มีส่วนในสถานการณ์นี้เช่นกัน ทั้งการมอบเครื่องมือจำเป็นสำหรับการสร้างวิดีโอสั้นให้กับครีเอเตอร์ ถึงแม้จะมีรายงานว่ามีครีเอเตอร์น้อยกว่า 10% ใช้เครื่องมือเหล่านี้ก็ตาม ส่วนเจ้าหน้าที่ของ YouTube เองก็ยอมรับว่ามีการดาวน์เกรดเนื้อหาโดยใช้วิดีโอที่ข้ามแพลตฟอร์มมาจาก TikTok และ YouTube ก็พยายามทำให้ Shorts เป็นที่นิยมแม้จะอยู่ในรูปแบบการชมที่ไม่เหมาะสมอย่าง ทีวี เป็นต้น
ที่มา - Financial Time, The Verge