Apple เปิดเผยผลการประกอบการไตรมาสที่ 4 ประจำปี 2552 (สิ้นสุด ณ วันที่ 26 กันยายน 2552) ว่ามีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 18 กล่าวคือ 5,704 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นมากที่สุดร้อยละ 46.5 ในไตรมาสสุดท้ายไตรมาสเดียว
นาย Peter Oppenheimer ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินของบริษัท กล่าวว่า "Apple พึงพอใจเป็นอย่างยิ่งเกี่ยวกับผลการประกอบการไตรมาสสุดท้ายและในภาพรวมทั้งปี"
ผลการประกอบการซึ่งเป็นที่น่าพอใจมากนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากยอดขายทั้งหมดประจำปีซึ่งเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 12.5 เป็น 36,537 ล้านดอลลาร์ โดยยอดขายของคอมพิวเตอร์ Macintosh เพิ่มขึ้นมากที่สุด กล่าวคือ ร้อยละ 17 และ iPhone เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 ส่วน iPod ยอดขายลดลงร้อยละ 8
สำหรับนักลงทุน ในไตรมาสสุดท้ายที่ผ่านมา หุ้นของ Apple ได้ทำกำไรได้มากถึง 1.82 ดอลลาร์ต่อหุ้น ในขณะที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้ว่าจะทำกำไรได้เพียง 1.42 ดอลลาร์ โดยตลอดปีผ่านมากำไรต่อหุ้นมีมากถึง 6.29 ดอลลาร์ จากที่คาดการณ์ไว้ 5.39 ดอลลาร์ และดัชนีหุ้นของ Apple ก็ได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.36 หลังการประกาศผลการประกอบการดังกล่าว
ทั้งนี้ Steve Jobs ประธานบริษัท ได้ประกาศว่าผลการประกอบการสำหรับช่วงสิ้นปีที่จะมาถึงก็จะดีมากเช่นกัน และบริษัทจะเสนอ "สินค้าที่มีคุณภาพสำหรับช่วงเทศกาลสิ้นปี และสินค้าที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งในปี 2553" ซึ่งก็อาจจะหมายความถึง Apple Tablet ที่ตกเป็นข่าวลือมาได้สักพักหนึ่ง
ที่มา นสพ. Le Monde (ภาษาฝรั่งเศส) และ Apple Inc.