เว็บไซต์ Android Police รายงานว่ามีผู้ใช้ Pixel 6/7 ที่อัพเกรดเป็น Android 14 รายงานว่าแบตเตอรี่ใช้ได้ยาวนานขึ้นกว่าเดิม และจัดการความร้อนของระบบได้ดีขึ้น
แนวทางของ Android 14 ที่เข้มงวดกับแอพทำงานเบื้องหลังมากขึ้น เป็นสิ่งที่กูเกิลประกาศอยู่แล้ว แต่ก็มีการค้นพบว่ากูเกิลแอบปรับบางอย่างเพิ่มโดยไม่ได้ประกาศแต่แรก
Mishaal Rahman นักขุดฟีเจอร์จากซอร์สโค้ดของ Android รายงานว่า Android 14 ช่วยเพิ่มการใช้งานแบตเตอรี่ขึ้นอีกพอสมควร เหตุเพราะปรับวิธีการไม่ยอมให้แอพทำงานเบื้องหลังได้มากเหมือนเดิม อุดช่องโหว่ในการทำงานของเคอร์เนลที่คุมการเกิดของโพรเซส
ในยุคก่อน Android 14 มีช่องว่างที่แอพสามารถรักษาโพรเซสไม่ให้โดนฆ่าทิ้ง โดยฟอร์คโพรเซสแยกออกมาเพื่อมอนิเตอร์ว่าโพรเซสเดิมโดนฆ่าหรือไม่ หากโดนฆ่าก็จะเรียกเซอร์วิสนั้นกลับมารันใหม่
เทคนิคนี้เคยถึงขั้นมีคนสร้างไลบรารีชื่อ MarsDaemon ขึ้นมารับงานมอนิเตอร์และคืนชีพโพรเซส เพื่อให้แอพเรียกใช้ต่ออีกที ไลบรารีนี้ถูกนำไปใช้โดยมัลแวร์และแอพเทาๆ จำนวนมาก ส่งผลให้ Android เปลืองแบตเกินกว่าที่ควรจะเป็น
สิ่งที่เปลี่ยนแปลงคือ Android 14 จะแช่แข็ง (freeze) กลุ่มโพรเซส (cgroups) ที่จัดการโดยเคอร์เนลลินุกซ์ก่อนแล้วค่อยฆ่าโพรเซสทิ้ง การแช่แข็งโพรเซสทั้งกลุ่มเลยทำให้เทคนิคข้างต้นใช้งานไม่ได้อีกแล้ว
Rahman บอกว่าแนวทางใหม่ของกูเกิลเป็นเรื่องดี ช่วยให้ Android 14 ประหยัดแบตขึ้นเมื่อเจอกับแอพที่ใช้เทคนิคนี้ แต่กูเกิลไม่ใช่บริษัทรายแรกที่อุดช่องโหว่นี้ เพราะผู้ผลิตรอมสายจีนจำนวนมาก (ที่เคร่งครัดเรื่องการรีดประสิทธิภาพแบต) ได้อุดรูรั่วนี้กันไปก่อนนานแล้ว
นอกจากนี้ Rahman ยังอธิบายว่าเจอนโยบายใหม่อีกอย่างที่กูเกิลทำใน Android 14 คือลดระยะเวลาที่กูเกิลรอจับแอพไม่ได้ใช้งานไปแช่แข็งลง จากเดิมรอ 10 นาที ปรับเป็นรอ 10 วินาทีเท่านั้น และเพิ่มจำนวนแอพที่มีโอกาสโดนแช่แข็งจากเดิมสูงสุด 32 แอพเป็น 1024 แอพ
ที่มา - Android Police