โทรศัพท์ที่ฮ็อตที่สุดในตอนนี้คงไม่มีอันไหนเกิน Motorola Droid และแน่นอนว่าคำถามที่คนอยากรู้มากที่สุดคือ "มันดีกว่า iPhone หรือเปล่า" (ทาง Verizon ต้นสังกัดก็ใช้แคมเปญโฆษณา Droid Does ขย่ม iPhone ว่าเป็น "iDon't" อยู่แล้ว)
Motorola Droid วางขายในสหรัฐวันที่ 6 พ.ย. นี้ และเว็บข่าวเมืองนอกหลายแห่งได้เครื่องจริงมาทดสอบกันแล้ว
รีวิว
Engadget
รีวิวที่แรกน่าจะเป็น Engadget เว็บข่าว gadget ชื่อดัง รีวิวแบ่งเป็นสองตอน
สรุปใจความ
- ฮาร์ดแวร์โดยรวมทำดี จอใหญ่ 3.7" ความละเอียด 480x854 แทบจะไร้เทียมทาน
- ซีพียูใช้ OMAP3430 รุ่นเดียวกับ iPhone 3GS และ Palm Pre ประสิทธิภาพดีกว่ามือถือ Android รุ่นอื่นๆ มาก
- ยังไม่สนับสนุนมัลติทัช แม้ว่า Android 2.0 จะรองรับแล้ว
- คีย์บอร์ดยังไม่ค่อยดี น่าจะเป็นจุดที่แย่ที่สุดใน Droid ส่วนคียบอร์ดบนหน้าจอยังสู้ iPhone ไม่ได้
- กล้องโอเค แต่ทำงานช้า
- แต่ถ่ายวิดีโอกลับดีกว่าภาพนิ่ง ความละเอียด 720x480 แทบใช้แทน Flip ได้
- เสียงดีมาก Engadget ใช้คำว่า "second to none"
- Android 2.0 ไม่ต่างจาก 1.6 มากนัก การรองรับอีเมลหลายบัญชีเป็นเรื่องดี แต่มีใน BlackBerry นานแล้ว อีกฟีเจอร์ที่น่าสนใจคือรวมบัญชี Facebook เข้ามาใน Contact ทำให้ Android เริ่มใกล้เคียงกับฟีเจอร์ Synergy ของ Palm webOS
- เว็บเบราว์เซอร์ปรับปรุงไปมาก เปลี่ยนมาแสดงผลเว็บทั้งหน้าจอแบบเดียวกับ Safari แต่โดยรวมๆ แล้วประสิทธิภาพและการใช้งานยังด้อยกว่า Safari อยู่
- music player/dialer/homescreen ยังเป็นจุดด้อยของ Android และใน Droid นั้นไม่ได้ใส่ Motoblur เข้ามาให้แบบเดียวกับ Motorola CLIQ
- ฟีเจอร์นำทางด้วย Google Maps ใช้งานได้ดี
- สรุป: Droid ยังด้อยกว่า iPhone ในแง่ความสมบูรณ์ในการใช้งาน แต่ดีกว่า iPhone ด้านอีเมล, การสื่อสาร และความสามารถในการปรับแต่ง Droid ยังไม่สามารถจูงใจให้คนใช้ iPhone เปลี่ยนมือถือได้ แต่สำหรับ geek แล้วมันเป็นมือถือที่ยอดเยี่ยม
คอลัมนิสต์ของ Engadget คนหนึ่งเปรียบเทียบว่า iPhone เหมือน Mercedes Benz รถระดับสูง หรูหรา เป็นรถในฝันของคนทั่วไป แต่ Droid เปรียบได้กับซูเปอร์คาร์ ไม่เหมาะสำหรับทุกคน แต่ถ้าใครรู้ว่าตัวเองต้องการแบบนี้จะไม่ไปเลือกตัวอื่น
Gizmodo
คู่แข่งของ Engadget อย่าง Gizmodo ยังไม่มีรีวิวฉบับเต็ม ณ เวลาที่ผมเขียนข่าวนี้ มีแต่การทดสอบฉบับย่อๆ หลายชิ้นให้อ่านกัน (แต่ตามปกติแล้ว Gizmodo รีวิวละเอียดกว่าและออกช้ากว่า)
เปรียบเทียบ
รีวิวแบบเปรียบเทียบมีหลายแห่งที่ทำ คัดมาบางส่วนนะครับ
MobileCrunch
รีวิว Droid กับ iPhone เทียบกันฟีเจอร์ต่อฟีเจอร์ สรุปใจความดังนี้
- รูปร่างหน้าตา: เสมอ
- คีย์บอร์ดบนจอ: iPhone ชนะฉิวเฉียด
- คีย์บอร์ดจริง: Droid ชนะอยู่แล้วเพราะ iPhone ไม่มี
- เบราว์เซอร์: iPhone ชนะ
- ระบบนำทาง: Droid ชนะ โดยไม่มีโปรแกรมนำทางตัวไหนบน iPhone สู้ Google Maps ของ Droid ได้เลย
- หน้าจอขณะล็อค: Droid ชนะ
- แบตเตอรี่: เสมอ
- App Store: iPhone ชนะ โปรแกรมมากกว่า ดีกว่า
- การปรับแต่ง: Droid ชนะ
- กล้อง: ยังทดสอบไม่พอ
- จอภาพ: Droid ชนะ
- อินเทอร์เฟซ: iPhone ชนะ
- Multi-tasking: Droid ชนะ
- สรุป: Droid ยังไม่ชนะ iPhone แต่ว่า iPhone ก็ไม่ถือว่าชนะ Droid เช่นกัน
- สำหรับผู้อ่าน TechCrunch/MobileCrunch ควรใช้ Droid แต่คนทั่วไปยังควรใช้ iPhone
อ่านแบบเต็มๆ ได้จาก MobileCrunch
Technologizer
มีตารางเปรียบเทียบคุณสมบัติ ฟีเจอร์ ราคา อ่านแล้วเข้าใจง่าย โดยสรุปคือ ส่วนที่เป็นตัวเลข (เช่น ความเร็วซีพียู, ความจุ, ราคา) มีเหมือนกันเกือบหมด ส่วนที่ต่างได้แก่
- Droid มีช่องเสียบ SD และใช้สายต่อแบบ Micro USB
- Droid ไม่มีฟีเจอร์อัดเสียง จดโน้ต และ tethering รวมมาให้
- Droid เป็น CDMA ส่วน iPhone เป็น GSM
- Droid มีโปรแกรม Google Talk และ Google Maps Navigation
- Droid ไม่มี desktop sync
- โปรแกรมใน Android Market ประมาณ 12,000 ส่วน Apple App Store ประมาณ 93,000 โปรแกรม
ที่มา - Technologizer
Billshrink
เว็บไซต์ Billshrink ทำตารางเปรียบเทียบราคารวมในการเป็นเจ้าของ (Total Cost of Ownership หรือ TCO) ของ iPhone 3G กับ Droid และรวมไปถึง Palm Pre กับ T-Mobile myTouch 3G (HTC Magic) ด้วย โดยเป็นการคำนวณราคาเครื่อง+ค่ารายเดือนทั้งหมดที่ต้องจ่าย และฟีเจอร์พื้นฐานว่ามือถือตัวไหนมี-ไม่มีอะไรบ้าง
โดยสรุปคือ iPhone 3GS กับ Motorola Droid มีราคารวมเท่ากัน ส่วน Palm Pre กับ myTouch 3G ก็เท่ากันแต่ถูกกว่า 2 ตัวแรกอยู่ 500-1200 ดอลลาร์ ขึ้นกับโปรโมชันรายเดือนที่ใช้
ที่มา - Billshrink