จากที่เมื่อประมาณสองสัปดาห์ที่แล้วแอปเปิลได้เปิดตัวเมาส์ใหม่ที่มีชื่อว่า Magic Mouse (ข่าวเก่า) ในวันนั้นผมก็ได้ตัดสินใจสั่งซื้อมาจาก Apple Online Store (เพราะว่าเมาส์เดิมลูกกลิ้งตายไปนานแล้ว) จนวันนี้มันก็มาถึงบ้านผมแล้วครับ
บรรจุภัณฑ์และรูปลักษณ์ภายนอก
ดูเหมือนระยะหลังๆ แอปเปิลจะมีเทรนด์ใช้กล่องพลาสติกใสเพื่อให้เห็นผลิตภัณฑ์ชัดๆ และไม่แน่ใจว่าเพื่อลดขนาดด้วยหรือเปล่า ซึ่งตัว Magic Mouse นี้เองก็อยู่ในกล่องพลาสติกขนาดพอดีตัวเมาส์แบบในภาพนี้ อยากรู้เหมือนกันว่า การใช้กล่องพลาสติกขนาดพอดีผลิตภัณฑ์ เทียบกับกล่องกระดาษที่ต้องใหญ่กว่านิดหน่อยเพื่อให้แข็งแรง แบบไหนจะดีต่อสิ่งแวดล้อมกว่ากัน
แกะออกมา มีแท่นวางเมาส์โดยมีสติ๊กเกอร์แอบยึดไว้ด้านล่าง และข้างในซ่อนคู่มือไว้ เป็นผลิตภัณฑ์แอปเปิลตัวแรกที่ผมซื้อแล้วไม่แถมสติ๊กเกอร์รูปแอปเปิลมาให้ (แต่ของเก่าก็ไม่เคยจะเอาไปแปะอะไรเลย)
ข้างใต้กล่องมีการแนะนำสินค้านิดหน่อย
อันนี้คือพอเอามาวางเทียบกับ Apple Keyboard กับ Wireless Mighty Mouse เดิม จะบางกว่ามาก แต่ก็ยาวกว่าอย่างเห็นได้ชัดเหมือนกัน
สำหรับน้ำหนักลองจับเทียบกันแล้วถือว่าเบาลงเยอะมาก และแบตเตอรี่ AA สองก้อนที่แถมมาก็จะใส่มาในตัวเมาส์เลยเพื่อประหยัดที่ ต่างกับตอน Wireless Mighty Mouse ที่จะแยกมา นอกจากนี้แล้วแบตเตอรี่ที่แถมยังเป็น Alkaline ด้วย ไม่ใช่ Lithium แบบตอน Wireless Mighty Mouse แต่คงเพราะน้ำหนักที่เบาลงมาก เลยไม่จำเป็นต้องลงทุนซื้อ Lithium เพื่อปิดบังน้ำหนักที่แท้จริงของเมาส์แล้ว ที่น่าสนใจอีกอย่างคือ ในช่องใส่แบตเตอรี่ขั้วลบจะไม่ใช่สปริงแบบที่เราเห็นกันทั่วไป แต่กลายเป็นแท่งๆ เกลี้ยงๆ ที่ซ่อนสปริงไว้ข้างในแทน ผมไม่แน่ใจว่าแบบนี้มีมานานในผลิตภัณฑ์อื่นๆ หรือยัง แต่เพิ่งเห็นด้วยตัวเองครั้งแรก
อีกนิดนึงคือ ฝาปิดช่องแบตเตอรี่เป็นโลหะสักชนิดแน่ๆ เพราะบางมาก แต่ผมไม่แน่ใจว่าเป็นอะไร และลองเทียบดูใกล้ๆ ด้วยตาและการเคาะดูแล้ว วัสดุตรงฝาครอบ กับส่วนอื่นๆ ที่เป็นสีเงินเหมือนกันเป็นคนละอย่างกันแน่นอน โดยผมเดาว่าส่วนที่เหลือเป็นพลาสติกทาสีเงิน
การใช้งาน
คู่มือที่มากับเมาส์บอกว่าสำหรับ Snow Leopard ให้อัปเดทเป็น 10.6.2 ก่อนจึงจะใช้งานได้ แต่ตอนนี้ 10.6.2 ยังไม่ออก ตอนแรกก็อึ้งๆ งงๆ ลองต่อมั่วๆ กับเครื่องไปก่อน ปรากฏว่าเครื่องจะเห็นเป็นเมาส์บลูทูธธรรมดา โดยมีคุณสมบัติของการคลิกซ้ายและขวาตามปกติ แต่ไม่สามารถ scroll ได้ ผมเลยเดาว่าถ้าเอาไปต่อกับวินโดวส์ก็น่าจะเป็นแบบนี้เหมือนกัน (อยากจะลองเหมือนกัน แต่ไม่มีวินโดวส์อยู่ตอนนี้เลยยังลองไม่ได้ ไว้ถ้ามีโอกาสจะเพิ่มเติมให้ครับ)
หลังจากนั้นผมเลยลองไปที่เว็บ Support ของแอปเปิล ก็เจอแพทช์สำหรับ Snow Leopard ครับ
พอดาวน์โหลดมาติดตั้งเรียบร้อย รีบูทเครื่อง ต่อเมาส์ใหม่ ก็ใช้งานได้ทันทีครับ
เท่าที่ดูจะยังไม่มีอะไรให้ปรับค่ามาก ไม่แน่ใจว่าจะมีการเพิ่มเติมในอนาคตหรือเปล่า ที่แก้ไขได้ก็มี
สำหรับการลองใช้ดูแล้ว ในส่วนของคลิกขวาไม่มีปัญหาอะไร เหมือนตอน Might Mouse เด๊ะๆ ซึ่งจะมีปัญหากับคนที่เวลาคลิกขวาไม่ได้ยกนิ้วชี้ขึ้น เพราะเมาส์จะยังนึกว่าเราคลิกซ้าย แต่สำหรับใครที่ปกติคลิกขวาแล้วยกนิ้วชี้ขึ้นอยู่แล้วก็จะใช้ได้ไม่มีปัญหา
การ scroll ถอดแบบจาก iPhone มาเป๊ะๆ โดยถ้าเราเลื่อนโดยไม่ยกนิ้วขึ้น มันก็จะเลื่อนมากเลื่อนน้อยตามที่เราขยับนิ้ว โดยเราสามารถลากขึ้นไปได้สูงสุดที่ขอบบนของเมาส์ และต่ำสุดบริเวณโลโก้ลูกแอปเปิลที่เมาส์
นอกจากนี้ ถ้าเราเลือกเปิดให้ scroll โดยมีโมเมนตัม ก็จะทำให้เวลาเราเขี่ยเร็วๆ แล้วยกนิ้วขึ้น มันจะยังเลื่อนต่อไปตามความแรงที่เราเขี่ย แบบเดียวกับบน iPhone และระหว่างที่มันกำลังเลื่อนไป เราสามารถเอานิ้วลงมาแตะเพื่อหยุดแบบบน iPhone ได้เช่นเดียวกัน
โดยรวมการ scroll ถ้าใครที่ไม่ได้คุ้นเคยกับ iPhone หรือ iPod touch อาจจะต้องใช้เวลาเรียนรู้สักหน่อยเพื่อกะระยะและความแรงในการเขี่ยที่เหมาะสม แต่พอคุ้นเคยแล้วก็จะรู้สึกใช้ได้ไม่มีปัญหาอะไรครับ
ส่วนการ swipe ซ้ายขวา โปรแกรมที่รองรับแล้วส่วนใหญ่ก็จะมีแต่ของแอปเปิล อย่าง back/forward ใน Safari หรือดูข้อความก่อนหน้า/ถัดไปบน Apple Mail แต่แนะนำว่าเวลาใช้ swipe อาจจะไม่สามารถตวัดเร็วๆ ได้เหมือนบน multi-touch trackpad แต่ถ้าจิ้มสองนิ้วแล้วเลื่อนซ้าย/ขวา ในความเร็วพอดีๆ จะใช้งานได้ไม่มีปัญหาอะไร
เพิ่มเติม 02/11/09 23:52 : ขอบคุณ @abandonphuwan
เนื่องจากไม่มีปุ่มกลาง หรือปุ่มข้างแล้ว เลยไม่มีฟีเจอร์ในการตั้งให้กดปุ่มไหนของเมาส์เป็นการเปิด Exposé หรืออะไรแล้ว ก็อาจจะถือว่าเป็นหนึ่งในข้อเสีย ถ้าเทียบกับ Mighty Mouse เดิม
สรุป
Magic Mouse มันก็คือเมาส์เลเซอร์บลูทูธธรรมดาตัวหนึ่ง ที่ประยุกต์ใช้ระบบมัลติทัชมา แต่การใช้งานหลักๆ ทั่วไปไม่ได้มีอะไรที่เหนือกว่าเมาส์ปกติ ฟีเจอร์อย่างการ scroll ด้วยโมเมนตัมก็ไม่ใช่ว่าไม่มีเมาส์ยี่ห้ออื่นๆ ในตลาดที่ทำได้ (ส่วนใหญ่ทำด้วยโมเมนตัมของฮาร์ดแวร์ลูกกลิ้งจริงๆ เลย) โดยถ้ามองในข้อดีการที่ไม่มีส่วนที่ขยับ (moving parts) อาจจะทำให้อายุการใช้งานนานกว่าปกติ แต่ข้อนี้เองก็คงต้องรอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์อีกทีหนึ่ง
ในส่วนของราคา 2,390 บาท (รวม VAT) ก็ถือว่าอยู่ในกลุ่มของเมาส์บลูทูธเลเซอร์แพงๆ อยู่แล้ว ไม่ได้รู้สึกว่ามีราคาผิดแปลกจากท้องตลาดมาก ก็ภาวนาว่าถ้าไม่พังง่ายเหมือน Mighty Mouse เดิม จะถือว่าเป็นเมาส์ที่พอดีราคาตัวหนึ่ง
ในอนาคตไม่แน่ใจว่าจะมีไดรเวอร์สำหรับวินโดวส์มาด้วยหรือไม่ (อย่างน้อยก็บน Boot Camp) แต่คิดว่าถ้าใครยังมี Mighty Mouse เดิม หรือเมาส์ยี่ห้ออื่นๆ ที่มีคุณสมบัติเป็นบลูทูธและเลเซอร์ที่ยังใช้งานได้ปกติอาจจะไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนมาใช้ Magic Mouse แต่ถ้าใครที่ลูกกลิ้ง Mighty Mouse ตายไปแล้ว (แบบผม และน่าจะมีเยอะด้วยกรณีนี้) หรือใช้ Mac OS X และกำลังหาเมาส์ที่เป็นบลูทูธหรือเลเซอร์ก็อาจจะเป็นจังหวะที่ดีครับ