IGN มีบทวิเคราะห์ว่าแว่น PlayStation VR2 ที่เพิ่งว่างขายมาครบ 1 ปี (เริ่มขาย 22 ก.พ. 2023) ดูไม่มีอนาคตเสียแล้ว เพราะโซนี่ไม่สนใจทำเกมเอ็กซ์คลูซีฟให้แล้ว
ปัจจุบัน PS VR2 มีเกมให้เล่นมากกว่า 40 เกม แต่เกือบทั้งหมดถูกพอร์ตมาจากแพลตฟอร์มอื่น (เช่น Meta Quest หรือ PS VR1) มีเกมเอ็กซ์คลูซีฟของตัวเองเพียง 3 เกมเท่านั้น ในจำนวนนี้มีเพียง Horizon Call of the Mountain เพียงเกมเดียวที่เป็นเกม VR แท้ๆ ส่วนอีก 2 เกมคือ Gran Turismo 7 และ Resident Evil 4 Remake เป็นแค่โหมด VR ของเกมปกติ (แถมกรณีของ Resident Evil 4 VR ก็พอร์ตไปยังแพลตฟอร์มอื่นในภายหลังด้วย)
IGN วิจารณ์ว่าเกมอื่นๆ ของ PS VR2 ถือว่า "ใช้ได้" แต่เกมเหล่านี้สามารถเล่นได้บนแพลตฟอร์มอื่นๆ โดยเฉพาะ Meta Quest ที่มีราคาถูกกว่า PS VR2 ราคา 550 ดอลลาร์ แถมไม่จำเป็นต้องมีเครื่องเกม PS5 อีกต่างหาก ดังนั้นถ้าโซนี่ต้องการดันยอดขาย PS VR2 ก็จำเป็นต้องลงทุนสร้างเกม VR ให้มากกว่านี้ แต่ทิศทางล่าสุดของโซนี่กลับไปทางตรงข้าม เพราะเพิ่งสั่งปิด London Studio ที่โฟกัสเกม VR แถมผู้บริหารฝ่ายธุรกิจของ SIE ก็ให้สัมภาษณ์เมื่อปลายปี 2023 ว่า PS VR2 เป็นกลุ่มเกมที่ยอดขายไม่ดี (PSVR2 was “a bit of a challenging category right now")
เหล่าผู้เล่นที่ซื้อแว่น PS VR2 ไปต่างก็ออกมาบ่นว่าซื้อมา 1 ปีแล้วไม่คุ้มเงิน ถึงแม้ตัวแว่นมีประสิทธิภาพดี แต่ถ้าโซนี่ไม่ทำเกมให้ก็ไม่เกิดประโยชน์
แนวทางการแก้ปัญหาของโซนี่กลับกลายเป็นเตรียมเปิดให้แว่น PS VR2 ใช้งานกับพีซีได้ภายในปี 2024 เพื่อหวังว่าลูกค้าที่จ่ายเงิน 550 ดอลลาร์ซื้อแว่นไปแล้ว แล้ววางเอาไว้ฝุ่นจับ จะมีเกมให้เล่นกันมากขึ้น
ธุรกิจเกม VR ในภาพรวมก็ไม่ได้สดใสนัก ค่ายใหญ่อย่าง Ubisoft ที่เคยลงทุนในเกม VR ก็ส่งสัญญาณถอย ส่วนจำนวนผู้ใช้แว่น VR บนพีซี อ้างอิงจากสถิติของ Steam ก็ไม่ได้เติบโตขึ้นเลย อยู่ราว 1.5-2.5% มาตั้งแต่ปี 2020 แล้ว ซึ่งทิศทางของตลาดก็น่าจะมีผลต่อผู้เล่นรายอื่นอย่าง Meta Quest และ Apple Vision Pro ด้วย
ที่มา - IGN