5 Apple Watch รุ่นไหนดี 2024 ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณ

by sponsored
2 April 2024 - 18:05

อีกหนึ่งสิ่งที่เหล่าสาวกไอโฟนนั้นมักจะต้องมีติดตัวหากใช้ไอโฟนนั่นก็หนีไม่พ้น Apple Watch นาฬิกาอัจฉริยะ เรียกได้ว่าเป็นอุปกรณ์คู่บุญเลยก็ว่าได้ ซึ่งตัวของนาฬิกาเองนั้นก็มีให้เลือกหลายรุ่น เพื่อตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งาน ซึ่งใครที่มีไอโฟนอยู่ในมือแล้วอยากได้สักเรือน แต่ยังเลือกไม่ถูก ไม่รู้ว่าแต่ละรุ่นนั้นแตกต่างกันตรงไหน วันนี้เรามีคำตอบกับ 5 Apple Watch รุ่นไหนดี 2024 ไปดูกันเลย

ตารางเปรียบเทียบ 5 Apple Watch รุ่นไหนดี 2024

ชิป ขนาด จอภาพ ความสว่างสูงสุด เวลาใช้งานสูงสุด
Apple Watch Series 9 S9 45 และ 41 มม. Retina LTPO OLED แบบติดตลอด 2,000 นิต 36 ชั่วโมง
Apple Watch Ultra 2 S9 49 มม. Retina LTPO OLED แบบติดตลอด 3,000 นิต 72 ชั่วโมง
Apple Watch SE S9 44 และ 40 มม. จอภาพ Retina LTPO OLED 2,000 นิต 18 ชั่วโมง
Apple Watch Series 8 S8 45 และ 41 มม. Retina LTPO OLED แบบติดตลอด 1,000 นิต 18 ชั่วโมง
Apple Watch Series 7 S7 45 และ 41 มม. Retina LTPO OLED แบบติดตลอด 1,000 นิต 18 ชั่วโมง

Apple Watch Series 9

ราคาเริ่มต้นที่ 15,900 บาท


ที่มา : apple.com

เปิดบทความอย่าง Apple Watch รุ่นไหนดี ด้วยตัวล่าสุดกับรุ่น Series 9 ที่ยกระดับให้ตัวของนาฬิกานั้นมีความทรงพลังมากยิ่งขึ้น พร้อมกับความฉลาดล้ำหน้าจากตัวชิปอันทรงพลังที่สุดในขณะนี้ พร้อมการใช้งานที่ไม่ต้องสัมผัสที่ตัวเรือนแต่อย่างไร ดูทุกอย่างบนตัวเรือนได้อย่างชัดเจนจากความสว่างที่ให้มากขึ้น พร้อมตัวเรือนและสายที่ถูกสร้างออกมาในแบบที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน พร้อมด้วยฟีเจอร์สำหรับการเช็คสุขภาพและออกกำลังกายอย่างครบครัน เป็นอีกหนึ่ง Watch ที่เหล่าสาวกของ Apple นั้นควรมีไว้ติดตัวกันเลย

สเปก

  • ตัวเรือนอะลูมิเนียมหรือสแตนเลสสตีล
  • ขนาดหน้าจอ 45 และ 41 มม.
  • จอภาพ Retina LTPO OLED แบบติดตลอด
  • ความสว่างสูงสุด 2,000 นิต
  • ชิปรุ่น S9
  • ชิประบบไร้สาย W3
  • ชิปอัลตร้าไวด์แบนด์ รุ่นที่ 2
  • ชิป Neural Engine
  • แอปออกซิเจนในเลือด
  • แอป ECG
  • การติดตามค่าอุณหภูมิ
  • ตรวจสอบสุขภาพผู้หญิงทั้งรอบเดือนและตกไข่
  • กันน้ำกันฝุ่นในระดับ IP6X
  • ใช้งานได้สูงสุด 36 ชั่วโมง
  • รองรับการชาร์จเร็ว
  • มีลำโพงและไมโครโฟน
  • ความจุ 64GB

ข้อดี

  • รองรับคำสั่งนิ้วแตะสองครั้งโดยไม่ต้องสัมผัสตัวเรือน
  • สามารถค้นหาตำแหน่งที่ตั้งจริงของ iPhone ได้

ข้อควรรู้

  • ไม่รองรับการดำน้ำลึก

Apple Watch Ultra 2

ราคาเริ่มต้นที่ 31,900 บาท


ที่มา : apple.com

และนี่ก็คือพี่ใหญ่ของ Apple Watch โดยตัวรุ่น Ultra 2 นั้นก็มาพร้อมกับหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ที่มีแสงสว่างสูงสุดเท่าที่เคยมีมาใน Watch มองเห็นได้อย่างชัดเจน พร้อมกับปุ่มคำสั่งต่าง ๆ รอบเรือน รวมไปถึงการใช้งานโดยที่ไม่ต้องสัมผัส พร้อมด้วยตัวเข็มทิศที่ได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อให้สามารถนำไปลุยขึ้นเขาลงใต้น้ำได้ทุกที่ ตอบโจทย์ทุกกิจกรรมที่สุดแสนจะท้าทาย ไปจนสุดเส้นทางพร้อมชนทุกสภาพอากาศ ตัวเรือนนั้นใช้สายคงทนคง จะเจอสถานการณ์แบบไหนก็ไม่ขาดได้ง่าย ๆ สามารถใช้ได้ทั้งกิจกรรมในเมืองและกิจกรรมในป่า ใครที่เป็นสายแอดเวนเจอร์ต้องมีไว้ติดตัวเลย

สเปก

  • ตัวเรือนไทเทเนียม
  • ขนาดหน้าจอใหญ่ 49 มม.
  • จอภาพ Retina LTPO OLED แบบติดตลอด
  • ความสว่างสูงสุด 3,000 นิต
  • ชิปรุ่น S9
  • ชิประบบไร้สาย W3
  • ชิปอัลตร้าไวด์แบนด์ รุ่นที่ 2
  • ชิป Neural Engine
  • แอปออกซิเจนในเลือด
  • แอป ECG
  • การติดตามค่าอุณหภูมิ
  • ตรวจสอบสุขภาพผู้หญิงทั้งรอบเดือนและตกไข่
  • กันน้ำกันฝุ่นในระดับ IP6X
  • GPS แบบสองคลื่นความถี่
  • ใช้งานได้นานสูงสุด 72 ชั่วโมง
  • รองรับการชาร์จไว
  • ระบบเสียงไซเรนแจ้งเตือน
  • ลำโพงคู่และชุดไมโครโฟน 3 ตัว

ข้อดี

  • ปุ่มแอ็คชั่นทำการปรับแต่งได้
  • ผ่านการทดสอบ MIL-STD 810H มั่นใจได้ว่าแข็งแกร่ง
  • สามารถดำน้ำเชิงนันทนาการได้ถึง 40 ม.

ข้อควรรู้

  • แอป Oceanic+ สำหรับใช้เป็นไดฟ์คอมพิวเตอร์โหลดได้ที่ App Store
  • มีให้เลือกแค่สีไทเทเนียม

Apple Watch SE

ราคาเริ่มต้นที่ 9,490 บาท


ที่มา : apple.com

หลังจากผ่านมารุ่นพี่ใหญ่มาแล้วแต่ว่าราคานั้นสูงเกินไป ก็สามารถลงมามองรุ่นน้องเล็กที่ราคาลดลงมาแต่ประสิทธิภาพไม่แพ้กันอย่าง Apple Watch SE ที่ขนเอาฟีเจอร์สำหรับการใช้ชีวิตประจำวันมาอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นโหมดออกกำลังกายทั้งในร่มและกลางแจ้ง รวมไปถึงทั้งบนบกและในน้ำ โหมดสุขภาพที่คอยเตือนทั้งตอนตื่นและตอนหลับ เพื่อให้มั่นใจว่าพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจในการออกไปข้างนอกบ้าน พร้อมด้วยการแจ้งเตือนอัจฉริยะที่จะทำให้สามารถพูดคุยกับทุกคนที่ติดต่อเข้ามาได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องหยิบ iPhone ขึ้นมาจากกระเป๋า

สเปก

  • ตัวเรือนอะลูมิเนียม
  • ขนาดหน้าจอ 44 มม. และ 40 มม.
  • จอภาพ Retina LTPO OLED
  • ความสว่างสูงสุด สูงสุด 1,000 นิต
  • ชิปรุ่น S8
  • ชิประบบไร้สาย W3
  • การติดตามรอบเดือนของผู้หญิง
  • ใช้งานสูงสุด 18 ชั่วโมง
  • เซนเซอร์วัดหัวใจแบบออปติคัล รุ่นที่ 2
  • มีลำโพงและไมโครโฟน
  • ทนน้ำที่ระดับ 50 เมตร
  • ความจุ 32GB

ข้อดี

  • แอปทำสมาธิเพื่อการรับรู้และความเข้มแข็งทางอารมณ์
  • ทนน้ำที่ระดับ 50 เมตร
  • ติดตามสุขภาพหัวใจอย่างใกล้ชิด

ข้อควรรู้

  • ไม่มีการทนฝุ่นระดับ IP6X
  • ไม่มีเซ็นเซอร์วัดออกซิเจนในเลือดและวัดหัวใจแบบไฟฟ้า

Apple Watch Series 8

ราคาเริ่มต้นที่ 14,500 บาท


ที่มา : apple.com

แม้ตอนนี้จะมี Watch รุ่นใหม่ออกมาแต่ก็ต้องยอมรับเลยว่า Apple Watch Series 8 ยังคงติด Apple Watch รุ่นไหนดี ได้อย่างไม่ยากเย็น ด้วยระบบชิป S8 ที่ยังคงความเร็วเอาไว้อย่างครบถ้วน พร้อมทั้งตัวเซนเซอร์ที่คอยตรวจสอบสุขภาพได้อย่างครอบคลุม ทั้งตอนตื่นและตอนนอน อีกทั้งยังมีโหมดกีฬาที่รองรับทั้งการเล่นกีฬาบนบกและทางน้ำ โดยสามารถทนน้ำได้ถึงระดับ 50 เมตร สามารถลุยไปได้ทุกที่ด้วยระดับกันฝุ่นที่ IP6X จึงสามารถบุกกับคุณไปได้อย่างสมบุกสมบัน และยังสามารถปรับเปลี่ยนสายนาฬิกาเพื่อให้ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ของคุณได้อย่างง่ายดาย จะเป็นสายสปอร์ตหรือสายแฟชั่นก็ใส่ได้สบาย

สเปก

  • ขนาดหน้าจอ 41 และ 45 มม.
  • จอภาพ LTPO OLED Retina แบบติดตลอด
  • ความสว่างสูงสุด 1,000 นิต
  • ใช้งานได้นานสูงสุด 18 ชั่วโมง
  • ชิป S8
  • ชิประบบไร้สาย W3
  • ชิปอัลตร้าไวด์แบนด์ รุ่นที่ 1
  • แอปออกซิเจนในเลือด
  • แอป ECG
  • เซนเซอร์วัดหัวใจแบบออปติคัล รุ่นที่ 3
  • มีลำโพงและไมโครโฟน
  • ความจุ 32GB
  • มาตรวัดความสูงแบบทำงานตลอด

ข้อดี

  • หน้าจอแสงสว่างเยอะมองได้ชัดเจน
  • เลือกสีและสายได้เยอะอย่างจุใจ

ข้อควรรู้

  • ซอฟต์แวร์เริ่มต้นเป็น watchOS 9

Apple Watch Series 7

ราคาเริ่มต้นที่ 13,900 บาท


ที่มา : apple.com

มาถึงตัวสุดท้ายในบทความ Apple Watch รุ่นไหนดี อย่าง Series 7 ที่ออกวางขายในปี 2564 แต่ก็ยังไม่ไร้ประสิทธิภาพจนถึงขนาดใช้ไม่ได้ เพราะใครที่ยังไม่ได้เปลี่ยน iPhone ที่ซื้อมาตั้งแต่ปีนู้นก็ยังสามารถนำมาใช้งานร่วมกันได้เป็นอย่างดี ไม่มีขาดตกบกพร่อง มาพร้อมกับความสามารถที่จะช่วยให้การออกกำลังกายและวัดค่าสุขภาพได้อย่างชัดเจนพร้อมกับวัดออกซิเจนในเลือดได้ในตัว มองผ่านหน้าจอได้อย่างชัดเจน แถมรูปทรงเหลี่ยมนั้นก็เข้ากับทุกสไตล์ทั้งสายสปอร์ตและแฟชั่น ตอบโจทย์ทุกความต้องการอย่างแน่นอน

สเปก

  • ขนาดหน้าจอ 41 และ 45 มม.
  • จอภาพ LTPO OLED Retina แบบติดตลอด
  • ความสว่างสูงสุด 1,000 นิต
  • ใช้งานได้นานสูงสุด 18 ชั่วโมง
  • ชิป S7
  • ชิประบบไร้สาย W3
  • ชิปอัลตร้าไวด์แบนด์ รุ่นที่ 1
  • แอปออกซิเจนในเลือด
  • มีลำโพงและไมโครโฟน
  • ความจุ 32GB
  • มาตรวัดความสูงแบบทำงานตลอด
  • ทนน้ำที่ระดับ 50 เมตร

ข้อดี

  • หน้าจอแสงสว่างเยอะมองได้ชัดเจน
  • ดีไซน์ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

ข้อควรรู้

  • ซอฟต์แวร์เริ่มต้นเป็น watchOS 8

และนี่ก็คือ 5 Apple Watch รุ่นไหนดี 2024 ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณ ที่ขนกันมาทั้งรุ่นใหม่และเก่า สามารถตอบโจทย์ทุกการใช้งานได้เป็นอย่างดี เพื่อการใช้งานคู่กันได้อย่างลงตัวไม่ว่าตอนนี้คุณจะใช้ iPhone รุ่นอะไรอยู่ก็ตาม

ที่มา apple.com

Blognone Jobs Premium