10 สมาร์ททีวี (Smart TV) ยี่ห้อไหนดี 2024 ดูหนังเต็มอรรถรสในวันพักผ่อน

by sponsored
10 April 2024 - 17:01

การใช้ช่วงเวลาพักผ่อนอยู่ที่บ้านนั้นเรียกได้ว่าเป็นความสุขของใครหลายคนกันเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นแล้วการที่ได้นอนเอนกายผ่อนคลายกังวลอยู่ที่โซฟาพร้อมกับดูหนัง ซีรีย์ หรือรายการโปรด ผ่านความคมชัดในระดับหน้าจอขนาดใหญ่ ที่จะทำให้คุณนั้นเข้าถึงช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ เพราะฉะนั้นแล้วสิ่งจำเป็นที่จะทำได้นั้นก็คือ สมาร์ททีวี (Smart TV) ทีวีที่ได้รับการสร้างสรรค์ออกมาเพื่อให้คุณได้ใช้ช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนได้เต็มที่ ซึ่งใครก็ตามที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกแบรนด์ไหนดีนั้น เราก็ขอแนะนำ 10 สมาร์ททีวี (Smart TV) ยี่ห้อไหนดี 2024 มาให้คุณได้ใช้เป็นตัวเลือกในการตัดสินใจ จะมีแบรนด์อะไรกันบ้างนั้นไปดูกันเลย

ตารางเปรียบเทียบ 10 สมาร์ททีวี ยี่ห้อไหนดี 2024

ขนาดหน้าจอ ความละเอียด อัตราการรีเฟรช ระบบสมาร์ททีวี ชิป
LG 65QNED75SRA 65 นิ้ว 3840 x 2160 60Hz webOS 23 α5 AI 4K Gen6
Samsung QN87D 55 นิ้ว 3840 x 2160 100Hz Tizen™ Smart TV NQ4 AI Gen2
Panasonic TH-55LZ1000T 55 นิ้ว 3840 x 2160 my Home Screen7.0 HCX Pro AI
Sony X85L Series 55 นิ้ว 3840 x 2160 100Hz Google TV 4K HDR Processor X1 TM
Toshiba X9900L 65 นิ้ว 3840 x 2160 120Hz VIDAA U6 REGZA Engine OLED
TCL P725 Series 43P725 43 นิ้ว 3840 x 2160 60Hz Android TV AiPQ Engine
Hisense 55U79K 55 นิ้ว 3840 × 2160 144Hz VIDAA U7 Hiview-Engine
Aconatic 55US534AN 55 นิ้ว 3840 × 2160 60Hz Linux
Haier H65K6UG 65 นิ้ว 3840 × 2160 60Hz Android TV
Xiaomi TV A Pro 65 65 นิ้ว 3840 × 2160 60Hz Google TV Quad A55

LG

ราคาเริ่มต้นที่ 35,990 บาท


ที่มา : lg.com

ถ้าจะเริ่มตามหา สมาร์ททีวี ยี่ห้อไหนดี ก็ต้องมาเริ่มที่แบรนด์ LG แบรนด์ชั้นนำในไทยที่มีอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้ในบ้านอย่างมากมาย นั่นก็รวมไปถึงสมาร์ททีวีเองด้วยเช่นกัน ซึ่งตัวของทีวีนั้นก็เรียกได้ว่าพร้อมจะมอบภาพที่คมชัด และขนาดที่เรียกได้ว่ามีให้เลือกตามต้องการ ซึ่งเราขอแนะนำนั้นก็ได้แก่ LG QNED 4K Smart TV รุ่น 65QNED75SRA ที่มาพร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่กำลังดี พร้อมด้วยความคมชัดในระดับสูง สามารถตอบสนองทั้งการดูหนังและเล่นเกมได้อย่างเหนือระดับ

สเปก 65QNED75SRA

  • ขนาดหน้าจอ 65 นิ้ว
  • ความละเอียดหน้าจอ 3,840 x 2,160
  • ประเภทหน้าจอ 4K QNED
  • Wide Color Gamut QNED Color
  • อัตราการรีเฟรชภาพ 60Hz
  • สามารถตั้งค่าสำหรับครอบครัว
  • ระบบสมาร์ททีวี webOS 23
  • สามารถจดจำเสียงอัจฉริยะได้
  • ชิปประมวลผล α5 AI 4K Gen6
  • ระบบลำโพง 2.0
  • รองรับ Bluetooth 5.0
  • จำลองเสียงรอบทิศทาง 5.1.2
  • ขนาดทีวี (WxHxD) 145.2 x 83.9 x 4.43 ซม.
  • น้ำหนัก 24.9 กิโลกรัม

ข้อดี

  • QNED Color Pro จากเทคโนโลยี Quantum Dot และ NanoCell เพื่อสีที่ชัดเจน

ข้อควรรู้

  • ใช้งานร่วมกับซาวด์บาร์ LG จะได้ประสิทธิภาพเสียงสูงสุด

Samsung

ราคาเริ่มต้นที่ 50,990 บาท


ที่มา : samsung.com

และอีกหนึ่งแบรนด์ที่จะลืมไม่ได้เลยสำหรับการเลือกซื้อ Smart TV นั้นก็ต้องยกให้กับแบรนด์ดังจากเกาหลีอย่าง Samsung ที่พร้อมจะประสิทธิภาพในการดูหนังให้คุณได้บันเทิงอย่างเต็มขั้น รองรับได้เป็นอย่างดีกับการนำไปเล่นเกมได้อีกด้วย เทคโนโลยีต่าง ๆ ที่อยู่ในจอภาพนั้นจะทำให้ห้องนั่งเล่นของคุณ ถูกเปลี่ยนไปเป็นโรงภาพยนตร์แบบสมบูรณ์ และสำหรับทีวีที่เราอยากจะแนะนำให้กับทุกคนนั้นก็คือ Neo QLED 4K QN87D Tizen OS Smart TV ซึ่งจะสร้างสรรค์วันหยุดของคุณให้ออกได้อย่างสมบูรณ์แบบมากที่สุด

สเปก QN87D Tizen OS Smart TV

  • ขนาดหน้าจอ 55 นิ้ว
  • อัตรารีเฟรชหน้าจอ 100Hz
  • ความคมชัด 4K (3,840 x 2,160)
  • ระบบ Neo Quantum HDR
  • ชิป NQ4 AI Gen2
  • รองรับ HDR 10+
  • รองรับระบบเสียง Dolby Atmos
  • รองรับเสียงระบบ 360 องศา
  • ระบบสมาร์ททีวี Tizen™ Smart TV
  • มีดีไซน์แบบ NeoSlim
  • รองรับ Multi-View 2 วิดีโอ
  • ขนาด(WxHxD) 122.7 x 76.8 x 24.3
  • น้ำหนัก 17.2 กิโลกรัม

ข้อดี

  • Neo Quantum HDR ทำให้สีออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด

ข้อควรรู้

  • การเข้าถึงประสิทธิภาพสูงสุดจำเป็นต้องมี Samsung account

Panasonic

ราคาเริ่มต้นที่ 69,990 บาท


ที่มา : panasonic.com

Panasonic อีกหนึ่งแบรนด์คุ้นหน้าคุ้นตาที่ไม่ว่าใครก็ต้องมีติดอยู่ที่บ้าน เป็นอีกหนึ่งแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มาพร้อมกับหลากหลายสินค้าที่มีคุณภาพ รวมไปถึงสมาร์ททีวีเองก็เช่นกัน เพราะฉะนั้นแล้วใครที่กำลังมองหาสมาร์ททีวีอยู่นั้น แบรนด์นี้เองก็ถือว่าตอบโจทย์อย่างแน่นอน สามารถเลือกซื้อได้หลากหลายราคา รวมถึงหลากหลายขนาดอีกด้วย ดังนั้นในบทความนี้เราอยากขอแนะนำ Panasonic OLED TV 4K รุ่น TH-55LZ1000T ที่จะทำให้การรับชมนั้นดียิ่งขึ้น ใช้วันหยุดสุดสัปดาห์ได้อย่างมีความสุข

สเปก OLED TV 4K TH-55LZ1000T

  • ขนาด 55 นิ้ว
  • ประเภทหน้าจอ 4K OLED
  • ความละเอียด 4K Ultra HD/3,840 x 2,160
  • รองรับ HDR10+ แบบปรับได้
  • ชิปประมวลผลอัจฉริยะ HCX Pro AI
  • รองรับ Dolby Atmos
  • ลำโพง 15 W x2
  • ขนาด(กว้างxสูงxลึก) 122.7x71.1x6.9 ซม.
  • น้ำหนัก 14.5 กิโลกรัม
  • ระบบสมาร์ททีวี my Home Screen7.0
  • เสียงรอบทิศทางแบบ 3D
  • ระบบเสียง Cinema Surround Pro
  • ตัวภาพแสดงสมบูรณ์แบบในทุกสภาวะแสง
  • เล่นเกมแบบจัดเต็มด้วย Game Mode Extreme

ข้อดี

  • หน้าจอมีความสามารถแสดงโทนสีดำสนิท

ข้อควรรู้

  • การบันทึกข้อมูลบน USB ต้องการความจุอย่างน้อย 160GB

Sony

ราคาเริ่มต้นที่ 38,990 บาท


ที่มา : sony.co.th

อีกหนึ่งแบรนด์ระดับโลกอย่าง Sony ไม่เพียงแค่ในเรื่องของเครื่องเสียงที่ได้รับการยอมรับในระดับชั้นนำของโลกเท่านั้น แต่ยังมีสมาร์ททีวีที่จะสร้างสรรค์ให้การดูหนังอยู่บ้านกลายเป็นโรงภาพยนตร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ และยังรองรับการเล่นเกมคอนโซลได้อย่างลื่นไหล นั่นจึงทำให้เป็นตัวจบของความบันเทิงได้อย่างสมบูรณ์แบบ ใครที่กำลังคิดอยู่ว่าจะซื้อรุ่นไหนดี เพราะมันมีมากมายเสียเหลือเกิน ก็อยากจะต้องมองมาที่ตัว Sony X85L Series ที่พร้อมจะทำให้ห้องนั่งเล่นกลายเป็นห้องที่คุณจะอยู่ได้อย่างมีความสุขตลอดช่วงวันหยุด

สเปก Sony X85L Series

  • หน้าจอ 55 นิ้ว
  • สไตล์บางเฉียบ ขอบจอบาง
  • ความคมชัดระดับ 3840 x 2160
  • ประเภทจอแสดงผล LCD
  • อัตรารีเฟรช 100Hz
  • รองรับ Bluetooth 4.2
  • ขนาด(กว้างxสูงxลึก) 122.8x70.9x5.6
  • น้ำหนัก 16.3 กิโลกรัม
  • รองรับ HDR10
  • ระบบสมาร์ททีวี Google TV
  • รองรับการควบคุมด้วยเสียง

ข้อดี

  • X-Balanced Speaker สร้างเสียงเบสสุดทรงพลัง

ข้อควรรู้

  • การอัปเดตเฟิร์มแวร์ในอนาคตจะทำให้ควบคุมด้วยท่าทางได้

Toshiba

ราคาเริ่มต้นที่ 86,999 บาท


ที่มา : toshiba-visual.com

Toshiba นำสิ่งที่ดีต่อชีวิต เป็นหนึ่งในสโลแกนที่มักจะได้ยินบ่อย ๆ ตามโฆษณา มาพร้อมกับคุณภาพน่าประทับใจ ทำให้เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ฮิตที่หากเป็นเรื่องของเครื่องใช้ไฟฟ้าแล้วละก็ จะเห็นว่าตามบ้านต้องมีอย่างน้อยสักเครื่อง และแน่นอนในเรื่องของสมาร์ททีวีเองนั้นทางแบรนด์ก็ทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ใช้เทคโนโลยีที่จะผลักดันให้ผลงานด้านภาพนั้นออกมาได้อย่างสูงที่สุด ทำให้การรับชมนั้นสร้างอรรถรสได้อย่างเต็มที่ ใครที่อยากลองใช้งานก็ต้องขอแนะนำกับซีรีส์ใหม่อย่าง X9900L OLED Ultra HD 4K ที่จะมอบทั้งภาพและเสียงให้คุณดื่มด่ำราวกับกำลังชื่นชมงานศิลปะชั้นยอด

สเปก X9900L OLED Ultra HD 4K

  • ขนาดหน้าจอ 65 นิ้ว
  • รูปแบบจอ OLED
  • ความละเอียด 4K (3840 x 2160)
  • อัตรารีเฟรชหน้าจอ 120Hz
  • ดีไซน์ขอบจอบาง
  • ชิป REGZA Engine OLED
  • กำลังขับลำโพง 113W
  • รองรับระบบเสียง Dolby Atmos
  • ระบบสมาร์ททีวี VIDAA U6
  • รองรับเกมโหมด
  • รองรับโหมดผู้สร้างภาพยนตร์
  • ขนาด (WxHxD) 145.20x85.70x4.90 ซม.
  • น้ำหนัก 28.5 กิโลกรัม

ข้อดี

  • ลำโพงยิงตรงด้านหน้าเพื่อเสียงที่กระหึ่มยิ่งกว่าเดิม

ข้อควรรู้

  • ไม่สามารถควบคุมด้วยระบบเสียงได้

TCL

ราคาเริ่มต้นที่ 14,990 บาท


ที่มา : tcl.com

สำหรับแบรนด์ TCL นั้นถือว่าเป็นอีกแบรนด์ที่ได้รับความนิยม เพราะว่าเป็นอีกหนึ่งที่ซื้อได้ในราคาประหยัด แต่ได้ประสิทธิภาพครบถ้วนสำหรับสมาร์ททีวี ไม่ว่าจะเป็นการดูหนังจากช่องสตรีมมิ่งต่าง ๆ ได้อย่างคมชัด ตอบโจทย์สำหรับการเล่นเกม รวมไปถึงระบบเสียงที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งเหตุผลเพียงเท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่จะเป็นหนึ่งในตัวเลือกในใจของใครหลายคน ซึ่งรุ่นที่น่าสนใจนั้นก็ขอแนะนำ P725 Series 43P725 ที่มีขนาดกำลังดี จัดวางได้ทุกมุมของห้อง มีดีไซน์ขอบจอบางเพื่อประสบการณ์รับชมที่น่าตื่นตาตื่นใจ

สเปก TCL P725 Series 43P725

  • ขนาด 43 นิ้ว
  • รายละเอียดหน้าจอ 3840x2160
  • อัตรารีเฟรชจอ 60Hz
  • ชิป AiPQ Engine
  • ลำโพง 10W x2
  • ระบบเสียง Dolby Atmos
  • รองรับ Dolby Vision HDR10
  • ระบบสมาร์ททีวี Android TV
  • รองรับแอป Google Play Store
  • รองรับการใช้งานคำสั่งเสียง
  • MEMC ลดการเบลอของภาพ
  • ขนาด(LxWxH) 114.5 × 13.3× 66.5 ซม.
  • น้ำหนัก 6.8 กิโลกรัม

ข้อดี

  • มี Google Duo ในจอ ทำให้วิดีโอคอลได้

ข้อควรรู้

  • การออกคำสั่งด้วยเสียงรองรับภาษาอังกฤษเท่านั้น

Hisense

ราคาเริ่มต้นที่ 24,990 บาท


ที่มา : hisense.co.th

Hisense เป็นแบรนด์อุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีสมาร์ททีวีให้ได้เลือกใช้งานตั้งแต่ระดับทั่วไปจนถึงระดับไฮเอ็น ดังนั้นจึงสามารถเลือกราคาได้ตั้งแต่หลักพันจนไปถึงหลักแสน ซึ่งใครที่อยากได้สมาร์ททีวีมาดูหนังแต่อยากได้ราคากำลังดีนั้น ก็ขอแนะนำรุ่น 55U79K ซึ่งราคาอยู่ในระดับกลาง ๆ แต่มาพร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่ มอบการมองได้อย่างเต็มที่จากดีไซน์ขอบจอที่บางเฉียบ อีกทั้งยังมีความคมชัดที่น่าทึ่ง พร้อมด้วยความไหลลื่นของหน้าจอที่สามารถเล่นได้ทั้งเกมคอนโซลและ PC เรียกได้ว่าคุ้มแบบสุด ๆ

สเปก Hisense 55U79K

  • ขนาด 55 นิ้ว
    ความละเอียด 3840 × 2160(4K)
    อัตรารีเฟรชหน้าจอ 144Hz
    หน้าจอมี Quantum Dot Color
    รองรับ HDR 10+ Adaptive
    ชิป Hiview-Engine
    ระบบสมาร์ททีวี VIDAA U7
    เทคโนโลยี Full Array Local Dimming
    ระบบเสียง Dolby Atmos
    รองรับ Filmmaker Mode
    รองรับ Game Mode Pro
    ขนาด(กว้างxสูงxลึก) 123×71.6×7.8 ซม.
    น้ำหนัก 13.9 กิโลกรัม

ข้อดี

  • ซัพพอร์ต Airplay2 ของ iPhone

ข้อควรรู้

  • รองรับ 144Hz ที่ช่อง HDMI 3 และ 4

Aconatic

ราคาเริ่มต้นที่ 17,990 บาท


ที่มา : aconatic.com

แบรนด์ Aconatic นั้นก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่โดดเด่น เจาะตลาดสำหรับคนต้องการสมาร์ททีวีที่มีราคาประหยัด ให้ความคมชัดสำหรับการดูสตรีมมิ่งได้เป็นอย่างดี สามารถเลือกได้หลากหลายรุ่นและหลายราคา แต่สำหรับรุ่นที่อยากแนะนำนั้นก็คือ 55US534AN ที่ให้ขนาดใหญ่ ภาพคมชัดอย่างสมจริง และที่โดดเด่นที่สุดของรุ่นนี้คือการเป็นทีวีที่รองรับแอปสตรีมมิ่งสุดฮิตอย่าง Netflix ทำให้การเข้าชมหนังเรื่องโปรดของคุณในแอปนี้ทำได้ทันที

สเปก Aconatic 55US534AN

  • ขนาดหน้าจอ 55 นิ้ว
  • ความละเอียด 3840 x 2160
  • เทคโนโลยีจอภาพ D-LED
  • แสดงค่าสีดำได้สนิท
  • ระบบสมาร์ททีวี Linux
  • ลำโพง 8W x2
  • เข้า Youtube ได้ทันทีไม่ต้องผ่านเบราว์เซอร์
  • อัตรารีเฟรชหน้าจอ 60Hz
  • ขนาด(WxHxD) 77x8.50x124.2 ซม.
  • น้ำหนัก 12.2 กิโลกรัม

ข้อดี

  • เมื่อเข้าดู Netflix ความละเอียดจะอยู่ที่ระดับ 4K

ข้อควรรู้

  • การสะท้อนหน้าจอรองรับแค่ระบบ Android

Haier

ราคาเริ่มต้นที่ 22,990 บาท


ที่มา : haier.com

Haier คืออีกหนึ่งแบรนด์อุปกรณ์ไฟฟ้าชื่อดังที่มีสินค้ามากมาย รวมไปถึงสมาร์ททีวีที่รองรับระบบ Android สามารถตอบโจทย์การนอนดูหนังที่ห้องในวันหยุดได้เป็นอย่างดี และแน่นอนว่าในเรื่องของความชัดก็ทำได้อย่างน่าประทับใจ ใครที่กำลังมองหา สมาร์ททีวี ยี่ห้อไหนดี อย่ามองข้ามรุ่นนี้ไปเป็นอันขาด ซึ่งรุ่นที่อยากแนะนำนั้นก็คือ H65K6UG ที่สามารถถ่ายทอดเรื่องของงานภาพและเสียงออกมาได้อย่างกระหึ่ม สร้างอารมณ์ร่วมในการรับชมได้อย่างไม่รู้เบื่อ

สเปก Haier H65K6UG

  • ขนาดหน้าจอ 65 นิ้ว
  • ความละเอียด 3840 x 2160 (4K UHD)
  • ประเภทหน้าจอ D-LED
  • รองรับ HDR
  • ดีไซน์หน้าจอไร้ขอบ
  • อัตรารีเฟรช 60Hz
  • ระบบเสียง Dolby Audio
  • ระบบสั่งการเสียง Google Assistant
  • dbx-tv รองรับการชมภาพในรูปแบบต่าง ๆ
  • ขนาด 144.93x83.46x7.14 ซม.
  • ระบบสมาร์ททีวี Android 11.0

ข้อดี

  • รับชมภาพได้ตามโหมดที่ใช้งานไม่ว่าจะ โหมดหนัง โหมดเพลง โหมดข่าว และโหมดกลางคืน

ข้อควรรู้

  • ใช้งานร่วมกับซาวด์บาร์เพื่อความกระหึ่มของเสียงที่ชัดเจนมากขึ้น

Xiaomi

ราคาเริ่มต้นที่ 19,990 บาท


ที่มา : mi.com

และสำหรับตัวสุดท้ายของ 10 สมาร์ททีวี (Smart TV) ยี่ห้อไหนดี ก็ต้องไม่ลืมถึงแบรนด์อย่าง Xiaomi แบรนด์ที่เต็มไปด้วยเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะ ที่จะทำให้การชีวิตในบ้านนั้นสะดวกมากยิ่งขึ้นไม่เว้นแม้แต่เรื่องของสมาร์ททีวีเองก็ตาม ซึ่งรุ่นที่ตอบโจทย์สำหรับคนมองหา Smart TV ขนาดใหญ่ในราคามิตรภาพ อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีที่ทำให้การดูหนังที่บ้านกลายเป็นโรงภาพยนต์อย่างสมบูรณ์ก็ต้องเป็น TV A Pro 65 ที่มาพร้อมกับรายละเอียดของสีและเสียงสมจริง พร้อมด้วยรูปลักษณ์ที่ดูแข็งแรง หรูหรา สามารถทำการตกแต่งห้องได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

สเปก Xiaomi TV A Pro 65

  • ขนาดหน้าจอ 65 นิ้ว
  • เฟรมเมทัลลิคเกรดพรีเมียม
  • มาตรฐานช่วงสี DCI-P3
  • ดีไซน์ขอบจอบางพิเศษ
  • ความละเอียด 3840x2160
  • MEMC สูงสุด UHD 60Hz
  • รองรับ Dolby Vision®, HDR10, HLG
  • อัตรารีเฟรช 60Hz
  • ประเภทจอ 4K UHD
  • ชิป Quad A55
  • รองรับคำสั่งด้วยเสียง
  • ลำโพง 12W x2
  • รองรับ Dolby Audio™, DTS-X และ DTS® Virtual:X Sound
  • ขนาด(ยxกxส) 144.6 x 82.9 x 7.5 ซม.
  • น้ำหนัก 15.8 กิโลกรัม

ข้อดี

  • รีโมทคอนโทรลเป็นแบบ Bluetooth 360 องศา

ข้อควรรู้

  • สามารถโหลดแอปเพิ่มเติมได้ที่ Google Play

และนี่ก็คือ 10 สมาร์ททีวี (Smart TV) ยี่ห้อไหนดี 2024 ที่เรานั้นนำมาแนะนำให้กับทุกคนได้เก็บเอาไว้เป็นตัวเลือกในการหาซื้อสมาร์ททีวีมานั่งดูหนังที่บ้านในช่วงวันหยุด ซึ่งรับรองได้เลยว่าทั้ง 10 แบรนด์นี้จะมีทีวีที่ตอบโจทย์กับความต้องการในการรับชมของคุณอย่างแน่นอน

Blognone Jobs Premium