Sundar Pichai ซีอีโอของ Alphabet โพสต์บันทึกแสดงเป้าหมายของบริษัทในยุค AI ในงานแถลงผลประกอบการไตรมาส 1/2024 เขาเริ่มจากการยกความสำเร็จว่าตอนนี้กูเกิลมีรายได้ปีละ 3 แสนล้านดอลลาร์แล้ว โดยใช้เวลาแค่ 6 ปี ในการเพิ่มรายได้จากปีละ 1 แสนล้านดอลลาร์มาเป็น 3 แสนล้านดอลลาร์
สำหรับก้าวต่อไปของกูเกิลที่เข้าสู่ยุค AI รุ่นถัดไป เขาบอกว่ามีสิ่งที่ต้องการโฟกัส 6 ประการ
- เป็นผู้นำด้านการวิจัย (research leadership) รากเหง้าของกูเกิลมาจากการลงทุนในการวิจัย และช่วงที่ผ่านมา บริษัทได้โชว์ผลลัพธ์จากการลงทุนเหล่านี้หลายประการ เช่น การควบรวมทีมวิจัยเข้ากับ Google DeepMind, Gemini 1.5 Pro อินพุต 1 ล้านโทเคน, Gemma โมเดลโอเพนซอร์ส
- เป็นผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐาน (infrastructure leadership) รากเหง้าอีกอันของกูเกิลคือออกแบบฮาร์ดแวร์เองมาตั้งแต่ยุค search เริ่มต้น ศูนย์ข้อมูลกูเกิลออกแบบมาเพื่อรันโมเดล AI ยุคใหม่ๆ และตอนนี้รันได้มีประสิทธิภาพกว่าเดิม 100 เท่า เทียบกับ 18 เดือนก่อน, ออกแบบชิป TPU เองที่ล่าสุดมาถึงเวอร์ชัน 5 แล้ว
- นำ AI มาใช้กับ Search (innovation in search) ตัวอย่างคือ SGE ฟีเจอร์ใช้ AI ช่วยสรุปคำตอบใน Search ที่ทดสอบมาเกือบปีแล้ว และพบว่ามีคนใช้เพิ่มมากขึ้น พอใจกับผลลัพธ์คำตอบมากขึ้น นอกจากนี้ยังมี Circle to Search ที่เริ่มใช้กับมือถือ Android
- บริการที่มีผู้ใช้ทั่วโลก (global product footprint) กูเกิลมีบริการ 6 ตัวที่มีผู้ใช้มากกว่า 2 พันล้านคนต่อเดือน, 15 ตัวที่มีผู้ใช้มากกว่า 500 ล้านคนต่อเดือน, มีธุรกิจดำเนินงานมากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก เป็นโอกาสในการขยายฟีเจอร์ Gen AI ไปยังผู้ใช้เหล่านี้ผ่านบริการต่างๆ ในเครือ
- เพิ่มความเร็วในการดำเนินงาน (velocity and execution) ปรับโครงสร้างภายในบริษัทให้ทำงานได้คล่องตัวขึ้น เช่น รวมทีม ML infrastructure และ ML developer เข้าด้วยกัน, รวมทีม Search เข้าด้วยกันภายใต้ผู้นำคนเดียว, รวมทีมฮาร์ดแวร์-ซอฟต์แวร์ Platforms and Devices เข้าด้วยกัน นอกจากนี้ยังปรับโครงสร้างต้นทุน จำนวนพนักงานให้เหมาะสม ช่วยให้อัตรากำไรดีขึ้น ตัดสินใจสิ่งต่างๆ ได้เร็วกว่าเดิม ตัวอย่างคือ ต้นทุนค่าเครื่องในการรัน SGE ลดลง 80% แล้วเมื่อเทียบกับตอนเปิดตัว SGE ครั้งแรก
- เส้นทางทำเงินกับ AI (monetization paths) Pichai บอกว่าตอนนี้เห็นภาพชัดเจนแล้วว่ากูเกิลจะทำเงินจาก AI อย่างไร มี 3 แนวทางคือ โฆษณา (ตอนนี้ยังเป็นการนำ AI มาช่วยผู้ลงโฆษณาเดิม ผ่านฟีเจอร์ Performance Max), ผ่านการเช่าคลาวด์ และผ่าน subscription คือ Google One ที่มีแพ็กเกจเสริม Gemini Advanced
ที่มา - Google