Android 15 Beta 2 เพิ่ม Private Space เก็บแอพลับ, แก้ปัญหาข้อความภาษาไทยถูกตัดขอบ

by mk
16 May 2024 - 14:07

เมื่อคืนนี้กูเกิลเปิดตัว Android 15 Beta 2 ที่เพิ่มฟีเจอร์ใหม่เข้ามาหลายอย่าง และเป็นรุ่น Beta ท้ายๆ ที่มีฟีเจอร์ใหม่แล้ว ก่อนเข้าช่วง Platform Stability เน้นแก้บั๊กและเพิ่มเสถียรภาพ เพื่อออกเวอร์ชันสมบูรณ์ในช่วงไตรมาส 3 ของปี

Android 15 Beta 2 ยังเปิดให้ทดสอบกับมือถือของพาร์ทเนอร์หลายยี่ห้อ เช่น iQoo, Nothing, OnePlus, Lenovo, Sharp, Oppo, Realme, Techno, Vivo, Xiaomi, Honor รายชื่อทั้งหมด

ธีมหลักของ Android 15 ยังเน้นไปที่การเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัย ของใหม่ใน Beta 2 ในฝั่งของประสิทธิภาพ ได้แก่

  • บีบการทำงานของ foreground service บางอย่าง เช่น dataSync และ mediaProcessing ให้ทำงานได้ไม่เกิน 6 ชั่วโมง เพื่อป้องกันเซอร์วิสเหล่านี้รันงานนานเกินไปจนเปลืองแบต, กำหนดให้แอพที่ขอรันแบบ foreground ต้องแสดง overlay ให้มองเห็นชัดเจนว่ารันอยู่
  • ปรับขนาดของ page size ของหน่วยความจำ จากเดิมรองรับ 4 KB ขยายเป็น 16 KB ซึ่งจะช่วยให้แอพบางประเภท (เช่น ที่ต้องใช้หน่วยความจำมากๆ) ทำงานเร็วขึ้น ประหยัดพลังงานลง
  • ฝั่งการประมวลผลกราฟิก รองรับ ANGLE ซึ่งเป็นการรันแอพเก่าที่เรียกใช้ OpenGL ES อยู่บน Vulkan ซึ่งเป็น API ที่ใหม่กว่า กูเกิลจะปรับการรัน ANGLE เป็นดีฟอลต์ในปี 2025 และในปี 2026 จะบังคับรัน OpenGL ES บน ANGLE เพียงอย่างเดียว
  • เปลี่ยนมาใช้ไลบรารีถอดรหัสวิดีโอ AV1 ตัวใหม่ dav1d ของโครงการ VideoLAN

ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย มีดังนี้

  • Private Space รองรับการล็อคแอพบางตัวให้เข้าถึงได้เฉพาะผู้ใช้ที่ยืนยันตัวตนเท่านั้น (เหมือนกับฟีเจอร์ Private Folder ของซัมซุง) โดยผู้ใช้ต้องยืนยันตัวตนด้วยการสแกนนิ้วหรือใส่รหัสก่อน เพื่อปลดล็อค Launcher ให้แสดง Private Space อีกทีหนึ่ง การเปลี่ยนแปลงนี้ยังรวมถึงแอพในหน้า sharesheet และหน้า photo picker ด้วย
  • ป้องกันปัญหาแอพประสงค์ร้ายเรียก intent ของแอพตัวอื่นขึ้นมา ทำให้ผู้ใช้เข้าใจว่าเป็นแอพเดิม (ที่ปลอดภัย) ทั้งที่จริงๆ แล้วแอพประสงค์ร้ายแอพทำงานอยู่เบื้องหลัง การโจมตีแบบนี้เรียกว่า "task hijacking" โดย Android 15 เพิ่มมาตรการป้องกันเข้ามา
  • ตรวจสอบความปลอดภัยของ intent ให้เข้มงวดขึ้น การเรียก intent มาทำงานต้องใส่ค่าตรงกับสเปกตัวกรอง intent ที่เรียก และห้ามเรียก intent เปล่าๆ ที่ไม่มี action ด้วย

ฟีเจอร์ใหม่อื่นๆ ที่ผู้ใช้สัมผัสได้ง่าย ได้แก่

  • การ pin คู่แอพสองตัวลงใน taskbar สำหรับเรียกแอพสองตัวนั้นขึ้นมาพร้อมกันบนแท็บเล็ตหรืออุปกรณ์จอใหญ่
  • โหมด Picture-in-Picture (PiP) ปรับการทำงานเล็กน้อย ให้การเข้าหรือออกโหมด PiP ดูลื่นขึ้น ไม่กระตุก
  • หน้า Widget Previews สามารถสร้าง widget ตัวอย่างที่อิงกับข้อมูลของผู้ใช้ได้ เช่น ตัวอย่าง contact widget จะดึงรูปจาก contact ของผู้ใช้มาแสดง
  • เปิดใช้งาน Predictive Back เป็นค่าดีฟอลต์ สำหรับคนที่ใช้ back gesture จะทำให้คาดเดาว่าจะ back กลับไปยังหน้าไหนได้แม่นยำขึ้น
  • ปรับการแสดงผลของภาษาเอเชีย (รวมไทย) ให้ไม่ตัดบางส่วนของอักขระออก (clipped) ดูภาพตัวอย่าง

ที่มา - Android Developers Blog

Blognone Jobs Premium