10 Sound Card ยี่ห้อไหนดี 2024 เพิ่มมิติของเสียงให้ดียิ่งขึ้น

by sponsored
2 June 2024 - 09:36

แน่นอนว่าหากอยากยกระดับของเสียงไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ฟังเพลงหรื่อเล่นเกมนั้นก็ต้องมีตัวช่วยที่จะดึงศักยภาพของเสียงให้ออกมาได้อย่างสูงที่สุดนั้นก็ต้องมี Sound Card ที่จะสร้างมิติของเสียงออกมาได้อย่างสวยงาม ซึ่งก็สามารถเลือกใช้งานได้ทั้งแบบ Internal ที่ติดตั้งอยู่ในตัวของ Mainboard และแบบ External ที่ใช้งานภายนอกโดยเสียบสายเข้ากับอุปกรณ์ ซึ่งใครที่อยากได้มิติของเสียงที่มากขึ้น ตกแต่งเสียงได้ตามต้องการ ลองมาดู 10 Sound Card ยี่ห้อไหนดี 2024 ที่จะยกระดับการฟังของคุณให้ออกมาได้ดีจนถึงขีดสุด จะมีตัวไหนกันบ้างนั้น ไปดูกันเลย

ตารางเปรียบเทียบ 10 Sound Card ยี่ห้อไหนดี 2024

ประเภท การตอบสนองความถี่ ระบบเสียง การควบคุม ขนาด
EPOS GSX 1000 2nd edition External 48 kHz 2.0 Stereo, 7.1 Surround Sound หน้าจอสัมผัส LED 150 x 70 x 145 มม.
Creative Sound Blaster GC7 External 192 kH Virtual 5.1, 7.1 Knob 47 x 114 x 173 มม.
Creative Sound Blaster X5 External 384 kHz Virtual 5.1, 7.1 Knob
Creative Sound Blaster AE-9 Internal 384 kHz Virtual 5.1, 7.1 Knob 178 x 22 x 127 มม.
iFi Uno External 384 kHz 2.0 Stereo Knob 88 x 81 x 26 มม.
EPOS GSX 300 External 192 kH Surround 7.1 Knob 91 x 81 x 41 มม.
Creative Sound BlasterX G6 External 384 kHz Surround 7.1 Knob 111 x 70 x 24 มม.
Asus ROG Clavis External 48kHz Surround 7.1 Switch
Behringer UMC22 External 48kHz Knob
EDIFIER GS02 External 48KHz Virtual 7.1 Knob

EPOS GSX 1000 2nd edition

ราคาเริ่มต้น 8,990 บาท


ที่มา eposaudio.com

เปิดบทความกันด้วย EPOS GSX 1000 2nd edition ที่มาพร้อมกับการใช้งานที่ง่ายดาย ควบคุมทุกอย่างได้สบายจากตัวหน้าจอที่มีโหมดให้เลือกใช้งานได้มากมาย พร้อมด้วยตัวเสียงจากไมโครโฟนที่ 16 บิต/48KHz ทำให้ตัวเสียงนั้นมีความชัดเจนขึ้น พร้อมด้วยโหมดสำหรับการใช้งานรูปแบบต่าง ๆ ที่จะทำให้อรรถรสของเสียงนั้นเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ และยังรองรับการใช้งานทั้งบน Windows และ macOS

สเปก

  • ประเภท External
  • การตอบสนองความถี่ 0 - 48 kHz
  • ระบบเสียง 2.0 Stereo, 7.1 Surround Sound
  • การควบคุม หน้าจอสัมผัส LED
  • ขนาด 150 x 70 x 145 มม.

ข้อดี

  • ใช้งานได้ง่ายไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือมือโปร

ข้อควรรู้

  • สำหรับคนนิ้วใหญ่อาจจะใช้งานติดขัดเล็กน้อย

Creative Sound Blaster GC7

ราคาเริ่มต้น 5,890 บาท


ที่มา creative.com

Creative Sound Blaster GC7 สามารุถยกระดับการเล่นเกมแนว FPS ได้อย่างเหนือชั้น ด้วยตัวฟังก์ชันอย่าง Super X-Fi และ Scout Mode ที่สามารถตามเก็บรายละเอียดของเสียงต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน ให้คุณไม่มีพลาดในทุกสมรภูมิ และด้วยการควบคุมที่ง่ายดายจากปุ่ม Knob และทิศทาง การตั้งค่าต่าง ๆ จึงสามารถทำได้อย่างสะดวก

สเปก

  • ประเภท External
  • การตอบสนองความถี่ 192 kH
  • ระบบเสียง Virtual 5.1, 7.1
  • การควบคุม Knob
  • ขนาด 47 x 114 x 173 มม.

ข้อดี

  • Super X-Fi ที่จะช่วยบอกรายละเอียดเสียงได้เป็นอย่างดี

ข้อควรรู้

  • เวลาเปลี่ยนอุปกรณ์ที่ใช้งานร่วมต้องกดสวิตซ์ที่ด้านหลังทุกครั้ง

Creative Sound Blaster X5

ราคาเริ่มต้น 9,590 บาท


ที่มา creative.com

Creative Sound Blaster X5 คืออีกหนึ่งซาวด์การ์ดแบบ External ที่สามารถตอบสนองการใช้งานได้แบบครบครัน เหมาะสำหรับเหล่าเกมเมอร์ และผู้คนที่หลงในเสียงเพลงเป็นพิเศษ อีกทั้งตัวนี้ยังควบคุมได้ง่ายผ่านปุ่มต่าง ๆ ที่ใช้งานไม่ยาก รองรับเสียงได้อย่างเหนือชั้น เพิ่มความชัดเจน สามารถเชื่อมต่อ Bluetooth เพื่อนำไปตั้งค่าได้ผ่านแอป ให้ได้เสียงแบบที่ต้องการมากที่สุดอีกด้วย

สเปก

  • ประเภท External
  • การตอบสนองความถี่ 384 kHz
  • ระบบเสียง Virtual 5.1, 7.1
  • การควบคุม Knob
  • รองรับ Bluetooth 5.0

ข้อดี

  • เหมาะสมสำหรับเหล่า Gamer และ Audiophile

ข้อควรรู้

  • ดีไซน์มีความหนาพอสมควร อาจจะเปลืองพื้นที่เล็กน้อย

Creative Sound Blaster AE-9

ราคาเริ่มต้น 12,490 บาท


ที่มา creative.com

Creative Sound Blaster AE-9 เป็นตัวซาวด์การ์ดแบบ Internal ที่มาพร้อมกับกล่องควบคุมด้วยปุ่ม Knob ให้เสียงในคุณภาพ Hi-res ที่ทำให้การดูหนัง ฟังเพลงนั้นมีความคมชัดมากยิ่งขึ้นจนหูเคลือบทอง และยังเพิ่มคุณภาพในความชัดของไมโครโฟนเพื่อเวลาบันทึกเสียงจะได้ยินเสียงชัดยิ่งขึ้น ไม่ถูกตัวดนตรีกลบจนฟังไม่รู้เรื่อง ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวที่คุณภาพสูงมาก ๆ

สเปก

  • ประเภท Internal
  • การตอบสนองความถี่ 384 kHz
  • ระบบเสียง Virtual 5.1, 7.1
  • ขนาด 178 x 22 x 127 มม.
  • ขนาดของ Module (ACM) 150 x 128 x 65 มม.
  • การควบคุม Knob

ข้อดี

  • มาพร้อมกับกล่องควบคุมที่สามารถใช้งานได้อย่างดี

ข้อควรรู้

  • มีราคาค่อนข้างที่จะแรงเมื่อเทียบกับซาวด์การ์ดแบบ External

iFi Uno

ราคาเริ่มต้น 3,790 บาท


ที่มา munkongonline.com

iFi Uno สามารถพกพาไปใช้งานได้ทุกที่ รวมไปถึงหยิบพาไปได้ในทุกที่ เพราะน้ำหนักที่เบาเพียง 92 กรัม แต่เห็นตัวเล็ก ๆ แบบนี้ขอบอกเลยว่าประสิทธิภาพนั้นใหญ่เกินตัว ไม่ว่าจะเป็นยกระดับเสียงเพลง เสียงเกม หรือแม้แต่เสียงหนังก็ทำได้อย่างดี ควบคุมได้ง่ายจาก Knob ขนาดใหญ่เพียงแค่ตัวเดียวเท่านั้น เป็นอีกหนึ่งรุ่นสำหรับคนอยากลองใช้ซาวด์การ์ดที่ไม่ควรพลาด

สเปก

  • ประเภท External
  • การตอบสนองความถี่ 384 kHz
  • ระบบเสียง 2.0 Stereo
  • การควบคุม Knob
  • ขนาด 88 x 81 x 26 มม.
  • น้ำหนัก 92 กรัม

ข้อดี

  • โหมดการปรับ EQ ที่ทำได้ถึงได้สามรูปแบบ

ข้อควรรู้

  • ไม่มีระบบเสียง 5.1 และ 7.1 ให้ใช้งาน

EPOS GSX 300

ราคาเริ่มต้น 2,750 บาท


ที่มา shopee.co.th/EPOS

EPOS GSX 300 อีกหนึ่ง Sound Card แนะนำ ที่รองรับเสียงในระดับ Hi-Res และยังมอบเสียงเสมือน 7.1 เพื่อการเพิ่มมิติให้กับการเล่นเกม ดูหนัง และฟังเพลง มาพร้อมกับสาย 3.5 mm ที่แบ่งเป็นสีชมพูสำหรับไมโครโฟน และสีเขียวสำหรับหูฟัง สามารถควบคุมผ่านปุ่ม Knob ที่มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ และด้วยขนาดที่กะทัดรัดนั้นจึงสามารถพกพาไปใช้งานทุกที่ได้อย่างสบาย

สเปก

  • ประเภท External
  • การตอบสนองความถี่ 192 kH
  • ระบบเสียง 7.1 Surround Sound
  • การควบคุม Knob
  • ขนาด 91 x 81 x 41 มม.

ข้อดี

  • การขับเสียงได้ในระดับ Hi-res ที่จะสร้างอรรถรสได้เป็นอย่างดี

ข้อควรรู้

  • รองรับการใช้งานกับ Windows PC เท่านั้น

Creative Sound BlasterX G6

ราคาเริ่มต้น 4,990 บาท


ที่มา creative.com

Creative Sound BlasterX G6 ถือว่าเป็นอีกหนึ่งซาวด์การ์ดที่ไม่เคยสูญหายไปตามกาลเวลา เพราะด้วยประสิทธิภาพที่เรียกได้ว่าดีจนต้องยกนิ้วโป้งให้ถึงสองนิ้วทำให้ยังมีคนแนะนำให้ใช้กันอยู่อย่างเสมอ โดยตัวเสียงที่ปรับแต่งนั้นจะมีความละเอียด พร้อมกับ Surround 7.1 ที่ให้มิติเสียงได้เยี่ยมยอด ไม่ว่าจะเป็นเกม หนังหรือเพลงก็ตาม และด้วยรูปทรงกะทัดรัด ดูเท่มีสไตล์ จึงสามารถพกพาไปได้ในทุกที่ที่คุณนั้นต้องการ

สเปก

  • ประเภท External
  • การตอบสนองความถี่ 384 kHz
  • ระบบเสียง Surround 7.1
  • การควบคุม Knob
  • ขนาด 111 x 70 x 24 มม.

ข้อดี

  • รองรับการใช้งานได้หลากหลายอุปกรณ์ไม่ว่าจะคอมหรือเครื่องเกมยอดนิยมต่าง ๆ

ข้อควรรู้

  • ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับเวลาที่วางขายมา

Asus ROG Clavis

ราคาเริ่มต้น 3,990 บาท


ที่มา rog.asus.com

ใครที่กำลังมองหาซาวด์การ์ดไว้ใช้กับหูฟังโดยเฉพาะก็ต้องเลือก Asus ROG Clavis มาใช้งาน เพราะเป็นซาวด์การ์ดที่สามารถเข้ากันได้ดีกับหูฟังเกมมิ่งโดยเฉพาะ ยกระดับมิติของเสียงให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น มีรายละเอียดที่สามารถเก็บได้อย่างครบถ้วน พร้อมทั้งรูปทรงขนาดเล็กเหมาะสำหรับพกพา จะไปเล่นเกมที่ไหน หรือลงแข่งสนามใดก็ตาม พกติดตัวไว้ชัยชนะอยู่แค่เอื้อม

สเปก

  • ประเภท External
  • การตอบสนองความถี่ 48kHz
  • ระบบเสียง Surround 7.1
  • การควบคุม Switch
  • Hi-Fi DAC, Amp ESS 9281PRO

ข้อดี

  • มีไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนเพื่อให้สื่อสารกับทีมได้ดีมากยิ่งขึ้น

ข้อควรรู้

  • ใช้งานร่วมกับสาย AUX 3.5 มม. เท่านั้น

Behringer UMC22

ราคาเริ่มต้น 2,690 บาท


ที่มา behringer.com

ใครที่กำลังมองหาซาวด์การ์ดที่จะนำมาทำเพลงโดยเฉพาะนั้น Behringer UMC22 ถือว่าตอบโจทย์มาก ๆ เพราะตัวเครื่องที่สามารถใช้งานร่วมกับโปรแกรมบันทึกเสียงที่เป็นที่นิยมได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงคุณภาพของเสียงระดับมืออาชีพ จึงเหมาะสมที่สุดแล้วที่คุณจะถือเครื่องนี้เข้าสู่ห้องอัด เพื่อสร้างสรรค์เพลงที่เสียงดีที่สุด ให้ออกมาโลดแล่นสู่หูของผู้คน

สเปก

  • ประเภท External
  • การตอบสนองความถี่ 48kHz
  • การควบคุม Knob
  • พาวเวอร์ 48v
  • เชื่อมต่อด้วยสาย USB 2.0

ข้อดี

  • ซาวด์การ์ดที่เหมาะสมสำหรับการอัดเสียงในเรื่องของดนตรี

ข้อควรรู้

  • ไม่เหมาะกับการนำมาใช้ฟังเสียงของเกม

EDIFIER GS02

ราคาเริ่มต้น 899 บาท


ที่มา edifier.com

EDIFIER GS02 ที่เป็นตัวปิดบทความของเรานั้นเป็นตัวซาวด์การ์ดจากแบรนด์เครื่องเสียงชั้นนำ รองรับการใช้งานได้หลากหลายอุปกรณ์เพื่อให้ได้เสียงที่ดีแบบสุด ๆ มาพร้อมกับชิป CM108B ที่สร้างเสียงได้อย่างคมชัด แบ่งรายละเอียดได้อย่างชัดเจน อีกทั้ง Magic Voice เพื่อความสนุกในการใช้เสียงพูดที่เปลี่ยนได้ถึง 4 แบบ และเพิ่มความสวยงามน่ามองด้วยไฟ RGB อีกด้วย

สเปก

  • ประเภท External
  • การตอบสนองความถี่ 48KHz
  • ระบบเสียง Virtual 7.1
  • การควบคุม Knob
  • ชิป CM108B ในตัว

ข้อดี

  • ฟังก์ชัน Magic Voice เปลี่ยนเสียงได้ถึง 4 แบบ

ข้อควรรู้

  • เชื่อมต่อกับสาย AUX 3.5 มม. เท่านั้น

และนี่ก็คือ 10 Sound Card ยี่ห้อไหนดี 2024 ที่จะทำให้เรื่องเสียงของเกม หนังและเพลง เพิ่มมิติขึ้นมาอย่างเหนือชั้น ช่วยให้อรรถรสในการรับฟังนั้นเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งยังใช้งานได้สะดวก พกพาติดตัวไปได้แบบง่ายดาย ยิ่งบางตัวนั้นก็สามารถรองรับอุปกรณ์ได้อย่างหลากหลาย ทำให้หูเคลือบทองมากยิ่งขึ้น ใครที่อยากมีประสบการณ์ในเรื่องของเสียงที่ดีนั้นต้องลองหาซาวด์การ์ดมาใช้งานกันแล้ว

Blognone Jobs Premium