Phil Schiller ให้สัมภาษณ์ชี้แจงการคัดกรองโปรแกรมบน App Store

by Zerothman
24 November 2009 - 05:18

เราคงได้ยินข่าวคราวเกี่ยวกับการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมของการตรวจโปรแกรมที่จะถูกนำไปวางขายบน App Store รวมถึงถูกใช้บน iPhone ของแอปเปิลได้เป็นระยะๆ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ทาง BusinessWeek ได้มีการสัมภาษณ์ Phil Schiller เกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยมีประเด็นสาระสำคัญดังต่อไปนี้ครับ

- App Store เป็นเหมือนห้างร้านค้าอื่นๆ ที่ต้องควบคุมดูแลคุณภาพสินค้าที่จะนำมาวางขาย เพื่อให้มั่นใจว่าคนที่มาซื้อร้านนี้แล้วได้ของที่มีคุณภาพกลับไปในราคาที่เหมาะสม
- ปัจจุบันมีโปรแกรมถูกส่งมาประมาณสัปดาห์ละ 10,000 โปรแกรม (รวมอัปเดท) และกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
- 90% ของการปฏิเสธมักมาจากปัญหาทางด้านเทคนิคต่างๆ เช่นบั๊กของโปรแกรม
- 10% ที่เหลือคือโปรแกรมที่ "ไม่เหมาะสม" เคยมีบางโปรแกรมที่แอบส่งข้อมูลของผู้ใช้กลับไป หรือมีบางโปรแกรมที่ช่วยเหลือผู้ใช้ในการละเมิดกฎหมาย
- มี 1% ที่ตกอยู่ในพื้นที่สีเทาที่ทำให้แอปเปิลต้องไปศึกษาข้อมูลต่างๆ เพิ่มเติม เคยมีโปรแกรมที่ช่วยในการโกงพนันในคาสิโน จนแอปเปิลต้องไปศึกษากฎหมายทั้งของรัฐต่างๆ และกฎหมายสากล
- แอปเปิลเคยต้องรับเรื่องร้องเรียนจากเจ้าของเครื่องหมายการค้าอื่นๆ ในการใช้เครื่องหมายการค้านั้นๆ ในโปรแกรมของคนอื่น จนทำให้แอปเปิลจริงจังมากขึ้นในช่วงหลังๆ
- สำหรับเครื่องหมายการค้าของแอปเปิลเอง ก็จริงจังมาตลอดอยู่แล้ว Phil อ้างว่าถ้าเราไม่ปกป้องเครื่องหมายการค้าของเรา สักวันหนึ่งมันจะไม่เหลือค่าอะไรเลย
- ระบบปิดทำให้สามารถมีระบบควบคุมสำหรับผู้ปกครอง ทำให้มีการจัดจำหน่ายโปรแกรมที่ไม่เหมาะสมสำหรับเยาวชนให้กับผู้ใหญ่ได้ง่ายขึ้น

จุดหนึ่งที่น่าสนใจที่ Phil Schiller ทิ้งท้ายไว้คือ จุดยืนของแอปเปิลที่หนักแน่นคือการสร้างความพึงพอใจให้กับผู้ใช้ไอโฟน ตลอดกว่า 30 ปีที่ผ่านมาในอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ การจัดจำหน่ายซอฟต์แวร์ต่างๆ ไม่ได้รับการควบคุมโดยใคร ทำให้ผู้ใช้ต้องประสบปัญหาในการลองผิดลองถูกตลอดมา (unhappy trial and error)

Phil ยังเสริมด้วยว่า ปัจจุบันอุปกรณ์อย่างโทรศัพท์ยังมีบทบาทในชีวิตส่วนตัวของเรามากกว่าคอมพิวเตอร์ทั่วไปมาก ลองคิดว่าหากมีโปรแกรมที่แอบบันทึกเสียงสนทนาของเราทุกคำ หรือแอบส่งตำแหน่งที่อยู่ของเราให้กับบุคคลอื่น ทั้งหมดนี้สามารถสร้างความเสียหายได้มากกว่าคอมพิวเตอร์แบบเก่าหลายเท่า อาจมีวันหนึ่งที่แอปเปิลพบว่าไม่จำเป็นต้องมาควบคุมโปรแกรมเหล่านี้อีกต่อไป แต่ในสภาพที่เป็นอยู่ ณ ปัจจุบันนี้ มันคงดีกว่าถ้ามีใครสักคนต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดว่าโปรแกรมเหล่านี้กำลังทำอะไรในโทรศัพท์ของคุณอยู่?

ที่มา - BusinessWeek, AppleInsider

Blognone Jobs Premium